LGBTQIA+ เป็นคำที่ใช้เรียกผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ถ้าเราแยกเพศจากร่างกาย จะแบ่งได้เป็นสองเพศ แต่ในความเป็นจริงมนุษย์มีเพศมากกว่านั้น ไม่ได้แบ่งเป็นแค่เพศชาย หรือเพศหญิง เท่านั้น ซึ่งในอดีตการเป็น LGBTQIA+ ไม่ได้รับการยอมรับให้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ถูกการกีดกันจากครอบครัว และบังคับให้ปฏิบัติตัวตามแบบแผนขนบธรรมเนียม อย่างการคลุมถุงชน การแต่งงานกับคนที่ไม่อยากใช้ชีวิตคู่ร่วม ทั้งกับผู้หญิง หรือผู้ชาย เพื่อให้วงศ์ตระกูลสืบทอดต่อไป แต่ในปัจจุบันกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศเริ่มได้รับการยอมรับมากกว่าในอดีต จึงมีคำเรียกความหลากหลายของเพศยิ่งขึ้น

 

Pride month คืออะไร ?  

Pride month เดือนแห่งความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ ) มีจุดเริ่มต้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในยุค 70s กลุ่มชาว LGBTQ นั้นถูกกดทับจากสังคมเป็นอย่างมาก โดยถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีจิตผิดปกติ กลุ่มคนรักร่วมเพศเป็นสิ่งผิดกฏหมาย และไม่ได้ยอมรับจากสังคม ดังนั้นสถานที่เดียวที่กลุ่มคนรักเพศเดียวจะรวมตัวกันได้ คือ บาร์ลับ หรือที่เราเรียกกันว่า บาร์เกย์  ถึงแม้กลุ่มหลากหลายทางเพศจะพยายามขึ้นทะเบียนให้เป็นบาร์ที่ถูกกฏหมาย แต่ก็ถูกตีตกไปทุกครั้ง

จนกระทั่งในเดือน 28 มิถุนายน ค.ศ. 1960 ที่รัฐนิวยอร์ก กลุ่ม LGBTQ ได้มารวมกันเพื่อแสดงตัวตนที่บาร์เล็กๆ สโตนอลล์ อินน์ (Stonewall Inn)  แต่ถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมเกิดปะทะกันอย่างรุนแรงจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกระตุ้นให้ผู้คนกล้าออกมาเพื่อแสดงตัวตน และต่อต้านการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกลายเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่

มาในปี ค.ศ. 1970 ผู้คนในสหรัฐอเมริกาต่างออกมาเดินขบวนเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์จราจลในครั้งนั้น ทำให้เดือนมิถุนายนกลายเป็นเดือนแห่งความเฉลิมฉลองเพื่อความเท่าเทียมเทียมของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ Pride month นั่นเอง เหตุการจลาจลครั้งนั้นยังขยายวงกว้างไปยังกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศทั่วโลกได้ออกมาเดินขบวนเรียกร้องความเท่าเทียม จนปัจจุบันได้กลายเป็น ขบวนพาเหรดไพรด์  ที่จัดขึ้นในหลายประเทศในที่สุด

 

 LGBTQIA+

 

ถึงแล้วเดือนแห่งความหลากหลาย ! เปิดตัวย่อ LGBTQA+ คืออะไร มาศึกษากัน

 

เริ่มกันที่เซ็ตตัวอักษร 4 ตัวแรก ที่คนรู้จักกันดีว่า “LGBT” ที่เริ่มใช้ในกลุ่มนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนสหรัฐมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 

 

  • L นั้นย่อมาจาก เลสเบี้ยน (Lesbian) หมายถึง เพศหญิงที่มีความสนใจในเพศหญิงด้วยกัน
  • G นั้นย่อมาจาก เกย์ (Gay) หมายถึง เพศชายที่มีความสนใจในเพศชายด้วยกัน แต่ในสังคมตะวันตก ผู้หญิงก็เรียกตัวเองว่าเป็นเกย์ได้เหมือนกัน ซึ่งหมายถึงผู้หญิงที่ชื่นชอบผู้หญิง
  • B นั้นย่อมาจาก ไบเซ็กซวล (Bisexual) หมายถึง เป็นกลุ่มที่ชอบเพศได้ทั้ง 2 เพศ ไม่กำหนดตายตัวว่าจะชอบเฉพาะเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน
  • T นั้นย่อมาจาก ทรานส์เจนเดอร์ (Transgender) หรือ คนข้ามเพศ หมายถึง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีคนมีอัตลักษณ์ทางเพศ หรือการแสดงออกทางเพศที่แตกต่างจากเพศกำเนิด ทำให้ต้องมีใช้กระบวนการเปลี่ยนผ่านทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดแปลงเพศ และการใช้ฮอร์โมนกระตุ้น เพื่อให้เป็นเพศนั้น ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

จริง ๆ แล้ว ในสมัยก่อนมีการเรียงอักษรว่า GLBT แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงลำดับตัวอักษร ในช่วงยุค 90 ที่โรคเอดส์แพร่ระบาดอย่างหนักในกลุ่มเกย์ ขณะที่กลุ่มเลสเบี้ยนไม่ได้รับผลกระทบ และเป็นผู้รักษาพยาบาล รวมถึงบริจาคเลือดให้แก่กลุ่มเกย์ และเป็นส่วนสำคัญของการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับชุมชนเกย์ และโรคเอดส์ ด้วยเหตุนี้ จึงมีการเปลี่ยนลำดับตัวอักษรให้ L ของเลสเบี้ยนขึ้นมาอยู่ข้างหน้า เป็น LGBT เพื่อเป็นเกียรติ และยกย่องกลุ่มเลสเบี้ยนที่เป็นกำลังสำคัญในช่วงที่กลุ่มเกย์เผชิญกับความยากลำบาก

ต่อมาในปี พ.ศ. 2559 GLAAD องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อปกป้องกลุ่มผู้มีความหลายทางเพศจากการนำเสนอของสื่อ ได้เพิ่มตัว Q เข้ามาในกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อให้ครอบคลุมทุกความหลากหลายมากขึ้น มีดังนี้

 

  • Q นั้นย่อมาจาก เควียร์ (Queer) หมายถึง เป็นกลุ่มคนที่ไม่ชอบ รัก หรือเสน่หาในคนต่างเพศ (Straight) หรือ เพศตรงเพศกำเนิด (Cisgender) ซึ่งเหมือนเป็นร่มใหญ่ของ LGBTQIA+ นอกจากนี้ Q ยังเป็นตัวแทนของ เควสชันนิง (Questioning) เป็นกลุ่มคนที่กำลังตั้งคำถามในเพศวิถีของตน ยังไม่รู้ว่าตนเองเลือกอะไร แต่ไม่ใช่ตามเพศกำเนิด
  • I นั้นย่อมาจาก อินเตอร์เซ็กซ์ (Intersex) หรือ ภาวะเพศกำกวม หมายถึง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีทั้งโครโมโซม อวัยวะเพศ ของทั้งเพศชายและหญิง
  • A เป็นตัวย่อของ 3 คำ คำแรกคือ อะเซ็กซวล (Asexual) หมายถึง กลุ่มคนที่ไม่รู้สึกดึงดูดทางเพศกับผู้อื่น หรืออาจรู้สึกเล็กน้อย ซึ่งต้องมีปัจจัยบางอย่างมากระตุ้น
  • A คำที่ 2 มาจาก อะโรแมนติก (Aromantic) หมายถึงกลุ่มคนที่ไม่มีแรงดึงดูดความโรแมนติกกับผู้อื่น
  • A คำสุดท้ายมาจาก อะเจนเดอร์ (Agender) คือ กลุ่มคนที่ไม่ต้องการระบุเพศว่าตนเองเป็นเพศใด ๆ

 

 ในปัจจุบันมีความหลากหลายทางเพศมากยิ่งขึ้น  จึงมีการเติมเครื่องหมายบวก (+) เข้าไปอยู่ในตัวย่อเสมอ เพื่อให้ครอบคลุม และเป็นสัญลักษณ์ว่าทุกคนที่มีเพศวิถีแตกต่าง นอกเหนือจาก LGBTQIA ยังมีเพศวิถีอื่น ๆ ที่มีอยู่ในสังคมเป็นจำนวนมากอีก ไม่ว่าจะเป็น

 

  • Non – Binary คือ กลุ่มคนที่ไม่ต้องการระบุเพศว่าตนเองเป็นชาย หรือหญิง 
  • Two-spirit คือ เป็นกลุ่มคนที่ระบุว่าตนเองมีจิตวิญญาณทั้งความเป็นชาย และความเป็นหญิงในร่างเดียวกัน มาจากความเชื่อของชนเผ่าอินเดียแดง และถูกยกย่องให้เป็นผู้ทำพิธีกรรมสำคัญตามความเชื่อของคนพื้นเมือง
  • Pansexual หมายถึง กลุ่มคนที่มีความสนใจต่อกลุ่มคนทุกเพศ โดยไม่คำนึงถึงเพศสภาพ หรือรสนิยมทางเพศ
  • Demisexual คือ กลุ่มคนรู้สึกดึงดูดทางเพศเมื่อได้พัฒนาความผูกพันทางอารมณ์ที่ใกล้ชิดกับใครสักคนแล้ว

 

เป็นยังไงกับความรู้ที่ได้วันนี้ LGBTQIA+ คำเรียกความหลากหลายทางเพศ ที่ทำให้เราเข้าใจในความความแตกต่างทางเพศ แต่สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนเหมือนกัน คือคุณค่าความเป็นมนุษย์  

 

 

Photo Credit:

gqthailand

Source Credit:

bangkokbiznews

tnnthailand

amnesty

Comments

comments