8 วิธี ขยับสถานะ เปลี่ยนเพื่อนเป็นแฟน ยังไง ไม่ให้โป๊ะ!

เรื่องหัวใจเป็นอะไรที่ควบคุมยากมากๆเลยค่ะ เพราะว่ามันอาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวอย่างเพื่อนสนิทได้ง่ายๆ ด้วยความที่ไว้เนื้อเชื่อใจกันและมีความจริงใจที่ให้กัน และความใกล้ชิดในฐานะเพื่อนนี่แหละ ที่มาก็เริ่มก่อตัวและมักทำให้อีกฝ่ายคิดไปไกล เกินกว่าเพื่อนกัน แต่ถ้าเราก้าวข้ามผ่าน friend zone เผยความในใจให้ฝ่ายได้รู้ และอีกฝ่ายคิดไม่เหมือนกันล่ะ บางทีอาจจะมองหน้ากันไม่ติดหรือเสียเพื่อนไปเลยก็ได้ แต่ถ้าอีกมุมหนึ่งถ้าเขามีใจให้เรา แต่ก็ยังไม่กล้าบอกเราเหมือนกัน แบบนี้เก็บเอาไว้ก็คงเสียดาย ไม่ได้เป็นแฟนกันสักที งั้นถ้าใครมีปัญหาเหล่านี้อยู่แล้วก็วันนี้ Clubsister มี 8 วิธี ขยับสถานะ เปลี่ยนเพื่อนเป็นแฟน ยังไงให้ไม่โป๊ะ!! มาฝากกัน จะมีวิธีไหนบ้างนั้น เรามาดูกันเลยค่ะ

8 วิธี ขยับสถานะ เปลี่ยนเพื่อนเป็นแฟน ยังไง ไม่ให้โป๊ะ!

เริ่มแรก เรามาอ่านสถานการณ์ ตรวจสอบความสัมพันธ์ และสถานะของเราทั้งสองคนกันก่อนดีกว่า โดยลองสังเกตพฤติกรรมของเขา ว่าเขามีท่าทีหว่านเสน่ห์ใส่เรา อยากอยู่ใกล้ ๆ เราตลอดเวลา ทักมาหาแทบทุกคืน รู้สึกห่วงใย ใส่ใจกับเราเป็นพิเศษหรือเปล่า รวมถึงชอบหวงเราในบางเรื่อง ที่ไม่จำเป็นด้วยแล้วล่ะก็ มีสิทธิ์เป็นไปได้มากเลยค่ะว่าเขานั้น จะคิดเกินกว่าเอาแค่เพื่อน และถ้าครบทุกข้อ ครบทุกสถานการณ์ที่บอกแบบนี้แล้ว ใส่เกียร์เดินหน้ารุก เข้าหาอย่างเต็มที่ไปได้เลย!! มีโอกาสมาก ๆ ที่เขาก็คิดเหมือนกันแบบเราอยู่

#2 ดูแลตัวเอง และเป็นตัวของตัวเองเสมอ

#3 ให้ความสนใจ ใส่ใจเขามากเป็นพิเศษ

ถ้าใครที่กำลังคิดไม่ตก ว่าเขานั้นคิดกับเราเกินกว่าเพื่อน หรือเปล่าล่ะก็ ลองใส่ใจ และห่วงใยดูแลเขามากขึ้นเป็นพิเศษ ให้เกินกว่าเพื่อนสนิท หรือเพื่อนคนอื่น ๆ ทั่วไป ดูค่ะ อย่างเช่น การชวนเขาไปดูหนังด้วยกันสองต่อสอง แทนที่จะไปทั้งกลุ่ม ซื้อของขวัญให้เขา ในวันพิเศษ โดยเป็นของขวัญที่ไม่เหมือนใคร หรือห่วงใยเขาเป็นพิเศษ เวลาที่เขาไม่สบายตัว สบายใจ ก็อยู่เคียงข้าง

และลองสังเกต ปฏิกิริยาของเขาดูว่า เขานั้นมีการตอบสนองต่อการกระทำของเราแบบไหน ถ้าดูเขินๆ ดูเหมือนจะแฮปปี้ มีความสุขกับสิ่งที่เราทำให้เขาล่ะก็ ความสัมพันธ์ของเราก็น่าลุ้น แต่ถ้าเขาดูอึดอัด หรือปฏิเสธ ก็ถอยออกมาดูสถานการณ์อีกรอบก่อนจะดีกว่า เพราะถ้ายังดันทุรังไป แทนที่จะได้แฟน กลับอาจจะเสียเพื่อนดี ๆ ไปก็ได้ค่ะ

#5 สกินชิพเขา เมื่อมีโอกาส 

เมื่อดูสถานการณ์ก็แล้ว สบตาก็แล้ว งั้นเดินหน้าต่อด้วยการใกล้ชิด แอบได้แต๊ะอั๋งเวลาที่เผลอ เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ ร้อยทั้งร้อยเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิง ก็ต้องมีท่าที ที่หวั่นไหวกันบ้างล่ะ อาจจะเริ่มสกินชิพกันมากขึ้น อาจจะเริ่มจากการเกาะแขนเขาเวลาข้ามถนน กอดคอบ้าง วันไหนถ้ามือเขาเลอะ หรือหน้าเขาเปื้อน ก็เอาออกปัดฝุ่นเบา ๆ ให้เขา แบบหวังดี ไม่ได้ตั้งใจจนเกินไป หรือถ้าเขามีความสามารถทางด้านกีฬาหรือ ศิลปะ ก็อาจจะให้เขาช่วยสอนให้ เพื่อที่จะได้ใกล้ชิด โดนตัวกันนิด ๆ หน่อย ๆ ให้หวั่นไหวกันมากขึ้น

#7 ใช้สื่อช่วย บอกความในใจ

ยุคสมัยนี้ มีทั้งเทคโนโลยี และสื่อมากมายที่จะช่วยเป็นสื่อกลาง ในการบอกความในใจ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ข้อความ เกี่ยวกับความรัก เกี่ยวกับการเผยความในใจของเพื่อนสนิท แชร์ไปหน้าโพสเลยค่ะ เผื่อเขาจะหวั่นไหวกับข้อความเหล่านั้น หรือจะส่งลิงค์ YouTube เพลงดัง เกี่ยวกับการแอบรักเพื่อน ให้เขาฟังแบบเพลิน ๆ อาจจะลงท้าย ด้วย “เพลงนี้เพราะดีเนอะ” หรือ “ชอบเพลงนี้จัง” เป็นการบอกเล่าความรู้สึกของเรา แล้วให้เขาคิดต่อไปเองว่า คนในเนื้อเพลงนั้น เราจะหมายถึงใคร…ซึ่งเอาจริง ๆ ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเขาใช่ไหมล่ะ

#8  เปิดใจคุยกับเขาตรง ๆ 

สุดท้าย เราควรรวบรวมความกล้า และเปิดใจคุยกับเขาไปเลยตรง ๆ จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะไม่ว่า เราจะทำอย่างไร วิธีการไหน หรือจะบอกเป็นนัย ๆ ยังไงก็ตาม ก็ไม่สู้เท่าเราบอกความจริง จากปากของเราด้วยความจริงใจ ลองรวบรวมความกล้า และเผยความในใจออกไปค่ะ อาจจะบอกแบบที่เล่นทีจริงก่อน หรือติดตลกก็ได้ เพราะถ้าหากเขาเซย์ No เราจะได้ไหวตัวทัน โบ้ย…ไปว่าเป็นมุก หรือพูดล้อเล่น แต่ถ้าเขาเซย์ Yes ขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็เดินหน้าเต็มที่จะได้ happy ending สักที

Comments

comments