ใครที่คันไม้คันมือ อยากกดจองตั๋วไปเที่ยว ใจจะขาดอยู่แล้ว ขอเสียงกันหน่อยค่ะ แอบกระซิบนิดนึงว่าอาจมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้นะคะ เพราะทางรัฐบาลกำลังดันแผน Travel Bubble เข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั่นเอง คือ ถ้าแผนนี้ดันสำเร็จเมื่อไหร่ ขาเที่ยวอย่างพวกเรา มีเฮ อย่างแน่นอน > <
และนอกจากนี้ยังมีแพ๊คเกจ ‘เที่ยวปันสุข’ ที่จะให้ประชาชน เข้ามาลงทะเบียนรับบัตรกำนัล หรือ Voucher สำหรับเอาไว้ใช้จ่ายเป็นค่าห้องพัก ในการท่องเที่ยวต่างจังหวัดแบบสวย ๆ ไปเลย ซึ่งแผนนี้ก็กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา อยู่เช่นกัน เรียกได้ว่ารัฐบาลของเรา ก็พยายามหาทางออกให้กับสายเที่ยวกันอยู่ แถมได้กระตุ้นเศรษฐกิจจากพิษ COVID-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจของเราซบเซา อย่างวงกว้างกันค่ะ
แต่ ๆ มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคน ยังแอบสงสัยอยู่ใช่ไหมล่ะคะว่า “ Travel Bubble ” ที่เขาพูด ๆ ถึงเนี่ยมัน คือ อะไรกันนะ แล้วมีประโยชน์ยังไง มีคนทำแล้วหรือยัง คำถามมากมายเต็มไปหมด เดี๋ยววันนี้เราจะหาคำตอบแบบเข้าใจง่าย ๆ มาให้เพื่อน ๆ กันค่ะกับหัวข้อ ‘มารู้จักกับ Travel Bubble เที่ยวแบบไม่ต้องกักตัวกันหน่อย!!’ ว่าแล้วเราก็ไปดู พร้อมกันเลยว่า Travel Bubble ที่กำลังพูดถึง คือ อะไรกัน ?!
Travel Bubble คือ อะไร
Travel Bubble = จับคู่ เปิดประเทศ ที่ COVID น้อย เป็นเสมือนฟองอากาศ ที่ทำให้เดินทางไปประเทศ ที่มีความปลอดภัย หรือมาตรการ ในการดูแลรักษาความปลอดภัย ด้าน Covid-19 ดี โดยที่เมื่อเราไปถึงประเทศนั้น เราก็ไม่ต้อง ทำการกักตัว 14 วัน ได้เที่ยวอย่างเต็มที่กันไปเลย
ก็ลองคิดสภาพดู ว่าถ้าต้องไปเที่ยว แล้วต้องโดนกักตัว ที่ประเทศนั้น ๆ 14 วัน ก็คงเหี่ยวเฉาตาย แถมถ้าใครเป็นมนุษย์เงินเดือน วันลา ก็ไม่น่าพอด้วยอะ > < เลยทำให้ Travel Bubble กำลังเป็นทืฮือฮา!! และเรียกได้ว่า เป็นเทรนด์การท่องเที่ยว แบบ New Normal ยุคใหม่ ในช่วง COVID นี้เลยค่ะ
ประเทศไหน ที่เริ่มแนวคิดท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble
ประเทศที่เริ่มอาจจะยังไม่ชัดเจนค่ะ แต่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็ คือ ประเทศ นิวซีแลนด์ และ ออสเตรเลีย ที่มีความใกล้ชิดกันอยู่แล้ว จึงมีการเพิ่มความยืดหยุ่นให้การเดินทางระหว่างสองประเทศสามารถทำได้ แบบไม่ต้องขอวีซ่า และไม่ต้องกักตัว
แต่จะมีมาตรการควบคุมภายในกันเอง เช่น จะต้องแสดง ประวัติทางด้านสุขภาพ ของตนเอง ว่าไม่ป่วย ด้วย COVID-19 ซึ่งนี่เป็นเพียงการเตรียมการเบื้องต้น เพราะจะใช้จริงก็เดือนกันยายน ซึ่งถ้าหากแผนนี้ ของทั้งสองประเทศได้ผลดี ก็จะขยายไปยังประเทศอื่น เช่น แคนาดา และประเทศในแถบเอเชีย อย่าง จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ด้วยจ้า
กลุ่มประเทศที่เริ่ม Travel Bubble ไปแล้ว
- กลุ่มทะเลบอลติก ได้แก่ เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย
- ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ได้แก่ เดนมาร์ก เยอรมนี นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ยกเว้น สวีเดน ที่ยังเกิดการระบาดอยู่
- จีน-สิงคโปร์ เริ่มต้นกับ กลุ่มธุรกิจ 6 เมือง ในจีน คือ เซี่ยงไฮ้ เทียนจิน ฉงชิ่ง กว่างตง เจียงซู และเจ้อเจียง
กลุ่มประเทศที่คาดว่าจะร่วมมือกัน
- เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ (เริ่ม 15 มิ.ย.)
- แคนาดา สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน เวียดนาม และเกาหลีใต้
- จีน-เกาหลีใต้ จีน-ไต้หวัน จีน-ฮ่องกง จีน-มาเก๊า
- สิงคโปร์ ออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์
- สาธารณรัฐเชค ออสเตรีย สโลวาเกียโครเอเชีย
- กลุ่ม 29 ประเทศ : อัลบาเนีย ออสเตรเลีย ออสเตรียมาซิโดเนียเหนือ บัลกาเรีย เยอรมนี เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ เอสโทเนีย ญี่ปุ่น อิสราเอล จีน โครเอเชีย ไซปรัส แลตเวีย เลบานอน นิวซีแลนด์ ลิทัวเนีย มอลตา มอนเตเนโกร นอร์เวย์ เกาหลีใต้ ฮังการี โรมาเนีย เซอร์เบีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย สาธารณรัฐเชค และ ฟินแลนด์
- และอีกหลายประเทศ ที่กำลังเจรจากันอยู่
แนวโน้มของ ประเทศไทย ที่จะใช้วิธี Travel Bubble กับประเทศอื่น
เรียกได้ว่า ประเทศไทย มีแนวโน้มสูง ที่จะดันแผนตัวนี้ออกมา เพราะประเทศไทย เราได้รับเสียงชื่นชมจากต่างชาติ ว่าเป็นประเทศที่ควบคุม สถานการณ์ ไวรัสโคโรน่า ได้ดี และคงจะเปิดประเทศในไม่ช้า
ประเทศที่มองว่า ไทยจะสามารถทำ Travel Bubble ร่วมกันได้ ได้แก่ เช่น ไทย-จีน, ไทย-เวียดนาม, จีน พม่า ไทย ลาว, ไทย-เกาหลี และคาดว่าจะมีการ Travel Bubble กับประเทศอื่นหลังจากเปิดประเทศ ประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย. แต่จะต้องมีการวางมาตรการให้ดี และพิจารณาถึงข้อดี ข้อเสียกัน อย่างรอบคอบ ก่อนที่จะเริ่มทำแผนนี้ค่ะ
หวังว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า จะดีขึ้นเร็ววัน เจอวัคซีน ที่สามารถสยบไวรัส COVID 19 ตัวนี้ได้ และผู้ที่ติดเชื้อน้อยลง จนกลายเป็นศูนย์กันทั่วโลก เราจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ และเดินทางท่องเที่ยวได้ แบบไม่ต้องกังวลใจกันอีกครั้งค่ะ
วันนี้ไปก่อนนะคะ บ๊ายบาย >///<
CR : smithsonianmag , bangkokbiznews
รูปภาพจาก : pinterest
Stay connected