สวัสดีค่ะสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน ช่วงนี้เหมือนจะเป็นช่วงที่เหล่ามนุษย์ทำงาน, สาวออฟฟิศ หรือน้องเด็กมหา’ลัยคึกคักเป็นพิเศษ เพราะว่าน้องๆ วัยเรียนเริ่มเข้าช่วงสอบกันพร้อมทะยอยปิดเทอมแล้ว เพราะแบบนี้ทำให้เราคิดถึงช่วงเวลาที่ร่างกายและจิตใจเราต้องปรับตัว เพื่อเตรียมพร้อมการไปทำงานในทุกๆ วันอย่างมีประสิทธิภาพกัน Clubsister เลยอยากมาแร์ทริคง่ายๆ ที่ช่วยให้ทุกวันมีความหมายกับ “5 วิธีพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น รับรอง Productive ขึ้นชัวร์!” บอกเลยว่าแต่ละข้อไม่ยากเลย แต่มันก็ไม่ง่ายเช่นกัน อาจจะต้องขอความร่วมมือให้สาวๆ ได้ลองทำมันอย่างต่อเนื่องดูบ้าง เอาละไปดูที่ข้อแรกกันเลย
” 5 วิธีพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น รับรอง Productive ขึ้นชัวร์! ”
ข้อที่ 1 : จัดเวลาการตื่น-นอนให้ดี และต้องเพียงพอต่อวัน
วิธีพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในเรื่องแรกนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เรียกได้ว่าอาจจะสำคัญที่สุดในชีวิตเราเลยก็ได้ ผู้ประสบความสำเร็จชื่อดังทั่วโลก หรือนักวิจัย, Motivation Speaker รวมถึงนักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านการพัฒนาตนเองต่างก็ยกให้ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุด นั่นคือการจัดการเวลานอนและตื่นให้ดี อีกทั้งยังต้องเพียงพอต่อวันด้วยเช่นกัน เพราะการนอนที่ดีคือรากฐานที่มั่นคงและช่วยให้ร่างกายของเราทำงานตอบสนองต่อความต้องการของเราได้ดีมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่ควรทำในข้อนี้ง่ายๆ (แต่ก็แอบยากนิดนึง) คือนอนให้ได้วันละ 6 – 8 ชั่วโมง และต้องนอนให้ได้ประสิทธิภาพ หลายคนอาจจะงงว่า การนอนให้ได้ประสิทธิภาพคืออะไร? ใช่การนอนให้ได้เยอะๆ หรือเปล่า? การนอนให้ได้ประสิทธิภาพคือ การนอนที่มีคุณภาพ Deep Sleep ต้องเพียงพอต่อวัน ไม่มีสิ่งก่อกวนในเวลานอน เพราะการนอนที่เพียงพอและได้คุณภาพในแต่ละวันนั้น เป็นเหมือนการช่วยให้สมองและร่างกายของเราได้เกิดการ Recovery หรือการฟื้นฟู ไม่ว่าจะเป็นระบบสารเคมีในสมอง,การผ่อนคลายและปรับสมดุลของกล้ามเนื้อและระบบออกซิเจนต่างๆ การนอนช่วยในส่วนนี้ได้ดีมากๆ
ยังไม่หมดเท่านี้นอกจากนอนให้เพียงพอแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาในส่วนของการนอนคือการตื่นนอน เราควรเช็ทเวลาตื่นนอนให้เป็นนิสัยและแนะนำให้ตื่นนอนในช่วงเช้า นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุด ไม่ควรกด Snooze นาฬิกาปลุกบ่อยๆ เพราะการกด Snooze และนอนต่อผลัดกันไปมาแบบนี้
ทำให้ร่างกายอ่อนล้า และเกิดความงัวเงีย ระบบการทำงานของสมองสวิง (เหมือนนอ้งสับสนว่า สรุปจะนอนหรือจะตื่นกันแน่) หากเราตั้งใจว่าจะตื่น 8 โมงทุกวัน ก็ Set เลยว่าจะต้องตื่น 8 โมง นาฬิกาปลุกปลุกปุ๊บ ให้ตื่นปั๊บ และต้อง Set แบบนี้ในทุกๆ วันไม่เว้นวันหยุด
ข้อที่ 2 : ตั้ง Goal ที่ตั้งใจจะทำอย่างน้อย 1 อย่างต่อวัน
และวิธีพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในข้อถัดไปนี้ เปรียบเสมือนการปลุกไฟที่ลุกโชนในตัวคุณ เพื่อเป็นเหมือนเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนต่อวัน นั่นก็คือ “Set Goal” หรือ การตั้งจุดมุ่งหมายที่จะทำอย่างน้อย 1 อย่างต่อวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องงาน อาจจะเป็นเรื่องกินหรือเรื่องสุขภาพของตนเองก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องยึดมั่นใน Goal นั้นคือ การที่จะต้องทำให้ได้และเสร็จสุด จนกว่าภารกิจของเราสำเร็จ
ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เมื่อตื่นนอนมา หลังจาก Refreshing ตัวเองเรียบร้อยแล้ว ให้เราตั้ง Goal ในหัวว่า วันนี้เราจะดูแลสุขภาพตนเอง โดยการเลือกทานอาหารดีๆ และจะต้องไม่ทานน้ำหวานเกิน 1 แก้วต่อวัน เมื่อพอได้ Goal แล้วสิ่งที่เราทำเลยคือ การเริ่มต้นและทำตามภารกิจที่ตั้งเอาไว้ให้ได้ ข้อดีของข้อนี้คือ เรามีจุดมุ่งหมายเดียว ทันง่ายต่อการจัดการ อีกทั้งเมื่อเป้าหมายไม่ได้ยากหรือเยอะจนเกินไป ทำให้แรงกดดันหรือการคาดหวังกับตนเองไม่มากเท่าที่ควร เมื่อเราทำสำเร็จมองจะดีใจกับเราด้วย เมื่อสมองดีใจและยินดีจะหลั่งสารที่เรียกว่า “โดปามีน” ซึ่งสารนี้เป็นสารหนึ่งในร่างกายและสมองของมนุษย์เมื่อเวลาเกิดความยินดีหรือมีความสุข ซึ่งจะทำให้เราเป็นคนกระตือรือร้น มองโลกในแง่ดี และ Active ขึ้น นั่นเอง
ข้อที่ 3 : จดบันทึกและเรียนรู้ตนเองทุกวันก่อนนอน
ส่วนตัวเรามองว่าวิธีพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ให้ข้อนี้ช่วยให้เราเรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ไม่เพียงแค่นั้น เรายังเรียนรู้คสามรู้สึก จิตใจ และเป้าหมายของเราในแต่ละวันได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย เพราะการจดบันทึกนั้นเป็นวิธีการที่ทางต่างประเทศเรียกว่า Reflect Yourself หรือการสะท้อนตัวตนของตน เราจะได้รู้ว่าวันนี้เราทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับหรือไม่ หากทำได้เรารู้สึกอย่างไร หากไม่เรารู้สึกอย่างไร วันนี้เราได้ทำความดีหรือเรื่องที่น่ายินดีอะไรบ้าง ความรู้สึกหลังจากทำเป็นอย่างไร หรือแม้กระทั่งการลงบันทึกว่าเสียใจ หรือ โกรธเรื่องอะไร บันทึกเหล่านี้จะเป็นเหมือนไดาอารี่ หรือ พื้นที่เล็กๆ ของเราที่ให้เราสามารถปลดปล่อยความตึงเครียด ความกังวล
แม้กระทั่งบอกเล่าเรื่องที่น่ายินดีเหล่านี้ให้ตัวเราเองได้ฟัง นอกจากการจดบันทึกเรื่องราวในแต่ละวันแล้ว เรายังสามารถ List สิ่งที่ตั้งใจจะทำในวันพรุ่งนี้ลงไปได้อีกด้วย และสุดท้ายประโยชน์ของการจดบันทึกหรือการ List Goal ล่วงหน้านั้น ข้อดีคือการช่วยแบ่งเบาภาระสมองหรือทางความคิดและความรู้สึก เพื่อให้เราสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจมากขึ้นซักนิด
สาวๆ รู้ไหมคะว่า ในขณะที่เราง่วงนอนหรืออยากจะหลับทั้งๆ ที่ยังเครียดหรือกังวลกับอะไรก็แล้วแต่ มันจะทำให้สมองของเราไม่ได้อยากหลับไปด้วย ถึงตาจะหลับแต่สมองยังทำงานและคิดในเรื่องที่เรายังเครียดหรือกังวลใจอยู่ ดังนั้นการ Reflect ตนเองหรือการจดบันทึกนั้น คือการนำเอาความรู้สึกกังวลหรือเครียด ไปใส่ไว้ในสมุดแทน เพื่อแบ่งเบาภาระสมองก่อนนอนได้บ้าง
- ตามมาดูกัน 5 สิ่งที่คนประสบความสำเร็จทำ ก่อนนอน! ต้องรู้ไว้เขาพัฒนาตัวเองแบบนี้!
- 10 นิสัย Toxic Person คนเป็นพิษ ไม่อยากเป็นต้องเปลี่ยน สังเกตตัวเองก่อนจะสายไป!
- ”ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความรัก” คิดแบบนี้บ่อยๆ ความสัมพันธ์อาจมีปัญหาได้นะ!
ข้อที่ 4 : หาเวลาคุณภาพ 1 ชั่วโมงต่อวัน
ส่วนตัวเรามองว่าวิธีพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในข้อนี้เปรียบเสมือนผลกำไรที่ได้ในแต่ละวัน ซึ่งเจ้าเวลาคุณภาพใน ณ ที่นี้คือ เวลาช่วงขณะหนึ่งยกตัวอย่าง 1 ชั่วโมงก่อนเริ่มภารกิจตอนเช้า, 1 ชั่วโมง ณ ขณะโดยสาร BTS หรือ 1 ชั่วโมง ณ ขณะขับรถระหว่างมาทำงานเป็นต้น ซึ่งช่วงเวลานี้แหละ เราสามารถเอาไปทำสิ่งที่เติมเต็มคุณภาพหรือมีประโยชน์ในชีวิตได้เลยทีเดียว เพราะช่วงเวลานี้ เราจะได้อยู่กับตนเอง โฟกัสแค่ตนเอง และไม่มีภารกิจอะไรแทรกแซง
เราขออนุญาตยกตัวอย่างสถานการณ์ให้สาวๆ ได้เห็นภาพมากขึ้น เช่นคุณแม่บ้านในตอนเช้าที่ต้องตื่นเช้าเป็นประจำอาจจะหาเวลา 1 ชั่วโมงก่อนที่จะ เริ่มทำอาหาร ตระเตรียมโน้นนี่ให้กับลูกๆ นำเอาเวลาตรงนี้ไปออกกำลังกาย ให้ร่างกายได้ Fresh ตื่นตัวและเป็นการดูแลสุขภาพตนเองในรูปแบบหนึ่ง หรือ สาวออฟฟิศที่ต้องโดยสาร BTS ใน1 ชั่วโมงหรือช่วงเวลาเล็กน้อย เราอาจจะพกหนังสือไปซัก 1 เล่ม เมื่อขึ้น BTS ก็อ่านหนังสือไปย่างน้อยก็อาจจะได้ซัก 1 บท ทะยอยทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เราจะสามารถอ่านหนังสือ 1 เล่มให้จบได้ในเวลาไม่กี่วันหรือไม่กี่เดือน
ส่วนสาวๆ คนใครที่ขับรถไปทำงาน นี่ง่ายเลย เพราะในช่วงเช้าการจราจรประเทศไทยเรา อย่างที่รู้ๆ กัน ติดเหลือเกิน ช่วงเวลาที่ขับรถอยู่ อาจจะเปิดข่าวดีๆ Updated ในตอนเช้า หรือใครที่ชอบฟังสิ่งที่น่าสนใจหรือเป็นสาระ อาจจะเปิด Podcast ดีๆ ฟังก็ยังได้ และนี่แหละคือเวลาคุณภาพ ที่เราสามารถหาได้ง่ายๆ ในช่วงเวลาแค่ 1 ชั่วโมง เป็นการเพิ่มความ Productive ให้กับเราก่อนเริ่มงานกัน ส่วนตัวเรา (นักเขียน) ก็ใช้เวลาในช่วงนี้เช่นกัน อย่างตอนเช้าอาบน้ำและแต่งตัวรวมๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็จะเปิด Podcast ช่องที่ตนเองชอบ ฟังไปเรื่อยๆ บางครั้งก็ได้ไอเดียในการคิดงานใหม่ๆ มาจากช่วงนี้แหละ
ข้อที่ 5 : มีเวลาให้สมองได้พักผ่อนจากเรื่องเครียดๆ บ้าง
และข้อสุดท้ายสำหรับวิธีพัฒนาตัวเองข้อนี้เป็นอีกข้อหนึ่งที่อยากให้สาวๆ ทุกคนลองทำ โดยใช้เวลาแค่ 10 – 30 นาทีต่อวัน นั่นก็คือการช่วยให้สมองของเราได้พักผ่อน โดยสิ่งนี้เราสามารถทำได้ระหว่างวัน ตื่นนอน หรือก่อนนอนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการ Set เวลาในการทำงานระหว่างวัน ให้มีเวลาพักอย่างน้อย 15 นาที
เช่นเมื่อเริ่มทำงานไปได้ 2 ชั่วโมง ให้พักจากงาน 15 นาที เพื่อลดความตึงเครียดของสมองและสายตา โดย 15 นาทีนี้อาจจะไปเดินเข้าห้องน้ำ ไปดื่มน้ำ มองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อให้สมองได้หายใจบ้างซักหน่อย หรือ ก่อนนอนซัก 10 – 15 นาที นั่งสมาธิเพื่อลดความตึงเครียดในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อพร้อมรับการนอนที่ดี รวมถึงการ Social Detox ที่คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนลองให้เราทำนี่น คือการลดการตึงเครียด ของสมองและสายตาได้เป็นอย่างดีเชียว
Source:
Photo Credit: unsplash
Stay connected