ฮาย สาวๆ ชาวซิส ที่น่ารักทุกคนค่า เหมือนเดิมอีกเช่นเคยถ้าเข้ามาที่บทความเราแล้ว คงหนีไม่พ้นเรื่องหนังเป็นแน่ เราเชื่อว่าสาวๆ ที่รักการดูหนังจะต้องสนุกกับการดูหนังไม่ว่าจะเป็นบทหรือตัวละคร แต่อีกสิ่งที่ทำให้เราสนุกได้ นั่นก็คือการคาดเดาเหตุการณ์ของแต่ละตัว และลิสต์หนังหักมุม แนะนำต่อไปนี้ บอกได้เลยว่าเด็ดแน่นอน (สำหรับคนที่ไม่เคยดูเลยอ่ะนะ) และวันนี้้ Clubsister ขอเสนอ หนังหักมุม แนะนํา ที่พลิกมุมเก่ง จนคนดูต้องเหวอ! นอกจากสาวๆ จะร้องเหวอ! แล้ว ตอนจบสาวๆ จะต้องร้องอาเฮีย! เลยทีเดียว อย่ารอช้า…เริ่มเดากับหนังเรื่องแรกกันเลย!
อ้าวเห้ย!! ไม่เป็นอย่างที่คิด! 5 หนังหักมุมแนะนำ ที่พลิกมุมเก่ง จนคนดูต้องเหวอ!
เรื่องที่ 1: The Mist
เข้าฉายครั้งแรกเมื่อ: 2007
ได้คะแนนจาก IMDb: 7.1 / 10
ความหักมุม: 4.5 / 5
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างหนัง Plot Twist หรือตัวอย่างหนังหักมุม แนะนำแล้วละก็ เราขอยกหนังเรื่องนี้ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นหนังที่เมื่อคนดูดูจบจะต้องร้องเฮียดังมาก และสำหรับบางคนอาจจะรู้สึกหดหู่ไปตามๆ กัน กับ The Mist โดยใช้ชื่อไทยว่า “มฤตยูหมอกกินมนุษย์” ถูกสร้างและดัดแปลงมาจากนิยายสยองขวัญจากปลายปากกา ราชาแห่งนิยายสยองขวัญ Stephen King
พูดถึงเรื่องราวของ “เดวิด” ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ สุดแสนเงียบสงบ ในวันหนึ่งเขาและลูกชายเดินทางไปซื้อของที่ร้านซุปเปอร์มาเก็ตแถวบ้านตามปกติ แต่ทว่าในวันนี้เขาสังเกตได้ว่ามีลมพายุรุนแรง รวมถึงหมอกที่ค่อยๆ ลงหนาขึ้นเรื่อยๆ และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเดวิดไปถึงร้าน และพบว่าหมอกที่เขาเห็นเริ่มหนา
และปกคลุมทั่วพื้นที่ของเมือง ไม่เพียงแค่นั้น ใครก็ตามที่ก้าวเท้าเข้าไปในหมอกนั้นจะต้องตายทุกคน และนั่นทำให้เขาตัดสินใจพาลูกหนีเข้าไปในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อรอเวลา
หากสาวๆ คนไหนที่เป็นแฟนคลับ Stephen King แล้วละก็จะต้องรู้จักผลงานของเขาอยู่บ้าง และบอกเลยว่าหนังหักมุม แนะนำเรื่องนี้เป็นอีกผลงานหนึ่งที่พูดถึงความหวัง คล้ายๆ กับ The Shawshank Redemption แต่ทว่าตอนจบคนละแบบกัน หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สาวๆ คนไหนที่โลกสวย คิดทุกอย่างในแง่ดี อาจจะไม่ปลื้มหนังเรื่องนี้ก็ได้ เพราะ The Mist เป็นหนังที่สะท้อนเบื้องลึกและด้านมือภายในจิตใจของมนุษย์เมื่อได้รับแรงกดดันหรือสถานการณ์การเอาตัวรอด
เป็นหนังที่สะท้อนสัญชาตญาณดิบของมนุษย์เสียหมดทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว ความเชื่อ และความรุนแรง เราจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ตลอดทั้งเรื่อง และบอกเลยว่าตอนจบเรื่องนี้เรียกว่าเป็นมหากาพย์ด้านการทำร้ายจิตใจคนดูเป็นที่สุด ฮ่าๆ แต่ความมันส์นั้น มีให้เห็นแทบจะทุกตอนเลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่าเราบอกสาวๆ ได้เท่านี้ นอกนั้นอยากให้สาวๆ ไปดูเอาเองจะดีกว่าค่า
เรื่องที่ 2: The Visit
เข้าฉายครั้งแรกเมื่อ: 2015
ได้คะแนนจาก IMDb: 6.2 / 10
ความหักมุม: 4 / 5
หนังหักมุม แนะนำเรื่องต่อไปเป็นแนวสยองขวัญ สั่นประสาท ที่เรียกได้ว่ามีฉาก Jump Scare หรือ ตุ้งแช่! มาเป็นระยะๆ ให้พอให้หัวใจตุ๊มต่อม แต่ไม่เซอร์ไพร์สเท่าตอนจบ The Visit ภาพยนตร์สัญชาติอเมริกัน แนว Thriller, Horror, Drama ผลงานการกำกับสุดยอดหนังหักมุมอย่าง The Sixth Sense ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหนังหักมุม แนะนำที่เราอยากชวนให้สาวๆ ไปดูกัน ไม่ใช่แค่พล็อตเรื่องที่ขนน่าติดตาม แต่ช่วงที่หนังเริ่มขยายปมคดีนั้น มันมันส์แบบสุดๆ ไปเลย
The Visit เป็นเรื่องราวของ “เบคก้า” เด็กสาววัยมัธยม เธออาศัยอยู่กับคุณแม่และน้องชายที่วัยไล่เลี่ยกัน ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมหน้าร้อนของเธอและเธอมี Project ที่จะต้องถ่าย VDO สารคดีส่งคุณครูของเธอ โดยหัวข้อเรื่องคือ ครอบครัว ซึ่งเป็นช่วงพอเหมาะพอเจาะกับที่คุณตาคุณยายของเธอนั้น ติดต่อมาหาแม่ของเธอเพื่อบอกว่าอยากจะเจอหน้าหลานๆ โดยจริงๆ
แล้วแม่ของเบคก้าหนีออกจากบ้านและใช้ชีวิตคนเดียวมาตั้งแต่ 19 ปี ประจวบเหมาะพอดีกับช่วงที่แม่กำลังจะไปออกเดตค้างคืนกับแฟนใหม่ เลยทำให้เบคก้าและไทเลอร์ตัดสินใจที่จะไปนอนค้างที่บ้านคุณตาคุณยายที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน และเมื่อเบคก้าเดินทางไปถึงนั้น ทุกอย่างดูเหมือนจะเรียบร้อย เธอถูกต้อนรับจากคุณตาคุณยายของเธออย่างอบอุ่น แต่ทว่าเมื่อวันเวลาผ่านไป
เธอก็ได้สังเกตเห็นถึงความแปลกๆ ของบ้าน บางคืนคุณยายก็จะลุกขึ้นมากลางดึกเดินแก้ผ้าในบ้าน บางวันคุณตาก็หายเข้าไปในโลงเก็บของเป็นเวลานานๆ และในที่สุดเบคก้ากับไทเลอร์ก็ได้พบคำตอบของบ้านหลังนี้
The Visit เป็นหนังหักมุม แนะนำ ที่เราอยากให้ทุกคนได้ดูกัน ไม่ใช่แค่พล็อตเรื่องที่ชวนดูและน่าติดตามเพียงอย่างเดียว แต่ทว่าหนังเรื่องนี้มีวิธีเล่าเรื่องแบบ Handheld และผ่านมุมกล้องจากตัวละครอีกที ซึ่งการใช้เทคนิคนี้บอกเลยว่า ถ้าไม่เจ๋งจริง เจ๊งแน่นอน! แต่ทว่าเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีและชวนน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง
ด้วยความที่ใช้เทคนิคดังกล่าว ทำให้เพิ่มความน่ากลัวและลุ้นกับหนังและตัวละครเข้าไปอีก ไม่เพียงเท่านั้นหนังเรื่องนี้หลอกคนดูกับตอนจบได้แบบเต็มเปา เอาซะการคาดเดาต่างๆ นานาๆ ตลอดทั้งเรื่องพังไม่มีชิ้นดี บอกเลยว่าเป็นหนังหักมุมที่ดีจริงๆ
เรื่องที่ 3: Orphan
เข้าฉายครั้งแรกเมื่อ: 2009
ได้คะแนนจาก IMDb: 6.9 / 10
ความหักมุม: 5 / 5
หากสาวๆ คนไหนที่ชอบหนังแนวสยองขวัญ หรือที่ชื่นชอบแนวหักมุมละก็ต้องไม่พลาดหนังหักมุม แนะนำเรื่องนี้โดยเด็ดขาด เพราะบอกเลยว่า เป็นอีกเรื่องที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลยซักนิด ตอนจบของหนังร้องอาเฮียหนักมาก หลอกคนดูได้อย่างตายใจ เซอร์ไพร์สไม่แพ้ตัวละครในเรื่องเลยทีเดียว
Orphan เรื่องราวของ เคธ หญิงสาวที่ใฝ่ฝันอยากจะมีลูกสาวน่ารักๆ เพื่อเป็นการมาทดแทนลูกของตนที่แท้งไป เธออาศัยอยู่กับสามีที่น่ารักและลูกชายวัยซนกับลูกสาวที่หูหนวกจากการเกิดอุบัติเหตุ และด้วยเหตุนั้นเธอจึงตัดสินใจอุปการะเด็กสาวน่ารักที่มีชื่อว่า “เอสเธอร์” มาเลี้ยงดู
เอสเธอร์เป็นเด็กฉลาด เธอชอบเสียงเพลง รักการวาดรูป อีกทั้งเธอยังชอบแต่งตัวด้วยผ้าลูกไม้และกระโปรงระบาย (แนวโกธิค) ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ทว่าเมื่อเอสเธอร์เข้ามาอยู่กับเคธได้ระยะหนึ่ง คนรอบตัวเคธก็เริ่มประสบอุบัติเหตุไปทีละคน แต่ด้วยเหตุนี้ ทำให้เคธเริ่มขุดคุ้ยหาความจริงที่เกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว และเธอก็ต้องพบความจริงที่น่าทึ่ง พร้อมทั้งไม่น่าจะเป็นไปได้
Orphan เป็นอีกหนึ่งหนังหักมุม แนะนำที่เรากล้าพูดเลยว่า คนที่ไม่เคยดูมาก่อน (ต้องไม่รู้เรื่องอะไรใดๆ มาก่อนด้วยนะ) เดาทางหนังเรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน อีกทั้งหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เรียกได้ว่าหักมุมจนคนดูต้องตั้งฉายาให้กับน้องเอสเธอร์ผู้น่ารักว่า “เอสเธอร์เด็กนรก” และบอกก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังหักมุมเรื่องโปรดของเราอีกเรื่องหนึ่งที่ดูไม่ต่ำกว่า 5 รอบ และดูทุกครั้งก็ยังชอบทุกครั้งถึงแม้จะรู้ตอนจบแล้วก็ตาม
เรื่องที่ 4: Fight Club
เข้าฉายครั้งแรกเมื่อ: 1999
ได้คะแนนจาก IMDb: 8.8 / 10
ความหักมุม: 5 / 5
หนังหักมุม แนะนำลำดับต่อไปนี้ (เรื่องนี้และเรื่องสุดท้าย) เรียกได้ว่าเป็นหนังหักมุมระดับตำนานที่ติดโผ 1 ใน 50 หนังที่ได้ Top Rate ดีที่สุดของ IMDb เลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังเป็นหนังที่เป็นผลงานการกำกับที่เรียกได้ว่าเป็นมือทองแห่งวงการฮอลลีวูด เข้าชิงรางวัลมากมายอย่าง David Fincher และนี่ก็คือ Fight Club
เรื่องราวของพระเอกพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งที่ประสบปัญหานอนไม่หลับมาเป็นเวลานาน และนั่นทำให้เขาเข้าพบแพทย์เพื่อขอยานอนหลับ แต่ทว่าแพย์กลับวินิจฉัยว่าเขาไม่ได้ป่วยอะไร เลยให้พระเอกไปศูนย์บำบัดผู้ป่วยโรคมะเร็งแทน เพื่อให้พระเอกศึกษาและเข้าใจว่าคนที่ป่วยจริงและมากกว่าตนเองนั้นลำบากแค่นั้น และเมื่อพระเอกไปถึงก็ได้พบว่าการที่เขามาศูนย์บำบัดนี้ ทำให้เขานอนหลับได้ในที่สุด
นั่นทำให้พระเอกติดการเข้าศูนย์บำบัด แต่ทว่าในทุกครั้งที่เขามาศูนย์บำบัดนั้นเขาจะต้องเจอ “มาล่า” หญิงสาวที่ดูเหมือนไม่อินกับการบำบัด แต่มาทุกครั้ง เขาจะต้องเจอเธอไปทุกๆ ที่ จนทำให้เขากลับมาสู่สภาวะนอนไม่หลับอีกครั้ง
และในขณะที่พระเอกกำลังเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำงานนั้น เขาก็ได้เจอกับ “ไทเลอร์” หนุ่มเซลล์ขายสบู่ ทั้งคู่ดูคุยถูกคอ บวกกับในขณะที่พระเอกเดินทางกลับบ้าน บ้านของพระเอกดั๊นเกิดระเบิดเลยทำให้ไม่มีที่ไป พระเอกเลยไปนั่งจิบเบียร์ย้อมใจและได้เจอกับไทเลอร์อีกครั้ง ในขณะที่กำลังเลิกลากันนั้น ไทเลอร์เชิญชวนให้พระเอกไปอยู่กับเขา
แต่มีข้อแม้ว่าต้องต่อยเขาได้อย่างสุดแรงเกิด และนั่นทำให้พระเอกค้นพบว่าตนเองรู้สึกได้ระบายเมื่อต่อยตีกับไทเลอร์ นั่นจึงเป็นเหตุทำให้เขาทั้งสองก่อตั้งกลุ่มที่ชื่อว่า Fight Club เป็นกลุ่มบำบัดอย่างหนึ่งขึ้น
Fight Club เป็นหนังหักมุม แนะนำที่มาในแนวจิตวิทยา อีกเรื่องที่เราชอบมาก โดยวิธีการเล่าเรื่องของหนังนั้นใช้เทคนิค Voice Over หรือการพูดบรรยายความคิด ความอ่านของตัวละคร ตลอดแทบทั้งเรื่อง อีกทั้งยังเป็นหนังที่สะท้อนถึงโรคทางจิตวิทยาที่มีส่วนเกี่ยวเนื่องกันได้เป็นอย่างดี โดยหนังจะปล่อยให้เราได้เพลิดเพลินกับพล็อตเรื่องไปเรื่อยๆ จนมาถึงฉากจบเรียกได้ว่า ร้องได้อย่างเดียวเลยว่า “อิหยังวะ” แต่ในการจบของเรื่องนั้น มันมีที่มาที่ไป เอาเป็นว่าเป็นหนังที่ทำให้สาวๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน
เรื่องที่ 5: The Sixth Sense
เข้าฉายครั้งแรกเมื่อ: 1999
ได้คะแนนจาก IMDb: 8.1 / 1999
ความหักมุม: 10 / 5
และเราก็มาถึงหนังหักมุม แนะนำเรื่องสุดท้าย บอกเลยว่าเรื่องนี้จะทำลายล้างความเหวอของสาวๆ แบบที่ไม่เคยเหวอที่ไหนมาก่อน The Sixth Sense เรียกได้ว่าเป็นหนัง Plot Twist ระดับตำนาน และเป็นหนังที่ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบ Flashback (การเล่าเรื่องแบบย้อนกลับ) เรื่องแรกๆ เลยก็ว่าได้
ไม่เพียงแค่นั้นยังเป็นหนังผี ที่เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องมีเทคนิค Jump Scare หรือเสียงเอะอะใดๆ ก็ทำให้ดูน่ากลัวได้ด้วยตัวของมันเอง ยังไม่พอยังได้ถูกนำเสนอรางวัลเข้าชิงออสการ์อีกด้วย (หนังผีโดยส่วนมากแทบไม่ได้เข้าชิงออสการ์) กับ The Sixth Sense
เป็นเรื่องราวของ “มัลคอม” คุณหมอจิตแพทย์เด็กชื่อดัง ที่รับเคสเด็กชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “โคล” โดยเด็กน้อยคนนี้ถูกเข้ารับการรักษาด้วยอาการที่หวาดกลัวและไม่ชอบเข้าสังคม มัลคอมใช้เวลาอยู่นานกว่าโคลจะเริ่มปลิปากพูดกับเขา และนั่นทำให้มัลคอมรับรู้ความลับและเรื่องราวบางอย่างที่เขาก็คาดไม่ถึงและพิสูจน์มันไม่ได้
The Sixth Sense เป็นหนังผีสยองขวัญ ที่เรียกได้ว่าเป็นหนังหักมุม แนะนำอันดับที่ 1 ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดหนัง Plot Twist ฉบับคลาสสิค วิธีการการเล่าเรื่องที่เฉียบขาด เป็นหนังที่มีวิธีการการเล่าเรื่องที่เฉียบกว่าเรื่องไหนๆ โดยที่หักมุมแบบไม่ให้คนดูได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ และอีกสิ่งหนึ่งที่น่ายกย่องของหนังเรื่องนี้คือ การเล่าหนังผีแบบสมัยเก่า โดยไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคความน่ากลัวจาก Sound อย่าง Jump Scare แต่หนังเรื่องนี้สามารถทำให้เรากลัวได้แบบเนียนๆ เอาเป็นว่า หนังหักมุม แนะนํา เรื่องนี้จะไม่ทำให้สาวๆ ผิดหวังเลยแม้แต่วินาทีเดียว
Photo Credit:
Stay connected