เรื่องใหญ่หนึ่งเรื่องสำหรับสาวเอเชียอย่างเรานั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องของขนตา วันนี้ Clubsister เลยมาแชร์บอกบุญ เคล็ดลับขนตาเด้ง ให้สาวๆที่รู้สึกท้อแท้กับขนตาอันแสนสั้น ตก ดัดยกไงก็ไม่เด้ง ปัดยังไงก็ไม่เหมือนในโฆษณา ให้มีความปัง เด้ง งอนทั้งวัน เพราะความสวยมันรอไม่ได้ค่ะ โดยทริคที่เราเลือกมาในวันนี่จะมีทั้งหมด 5 ข้อด้วยกัน ถ้าพร้อมที่จะไปอ่านแล้วลองทำดูแล้วล่ะก็ เชิญอ่านต่อไม่รอแล้วน้าา
5 เคล็ดลับขนตาเด้ง อยากให้เด้ง ให้ปังทั้งวัน ต้องทำยังไง!
1.แช่แท่งมาสคาร่าในน้ำอุ่น
เทคนิคแรกขอยกให้วิธีที่ง่ายและนิยมที่สุดคือการ แช่มาสคาร่าลงในน้ำอุ่นนั่นเอง การแช่มาสคาร่าลงในน้ำอุ่นจะช่วยละลายและเพิ่มความร้อนโดยรอบของแท่งโดยที่ไม่ไปทำลายส่วนผสมด้านในของมาสคาร่า การแช่ด้วยน้ำอุ่นแบบนี้จะช่วทำให้เนื้อมาสคาร่าด้านในที่เริ่มแห้งนั้นกลับมามีความยืดหยุ่น เหลวขึ้น และสามารถยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้นนั้นเองค่ะ เมื่อใช้มาสคาร่าที่แช่น้ำอุ่นแล้ว มาสคาร่าจะติดออกมาที่แปรงเยอะขึ้นและสามารถดึงเนื้ออกมาปัดที่ขนตาได้มากขึ้น จึงเป็นวิธีที่ฮิตและใครๆก็ทำทั้งนั้น ไม่ว่าจะมาสคาร่าที่ใหม่ เก่า หรือวางไว้จนลืม วิธีนี้ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
แต่มีข้อควรระวังเล็กน้อย คือการแช่แท่งมาสคาร่านั้นจะต้องตรวจเช็คให้แน่ใจแล้วว่า ปิดฝาสนิทแน่นดีแล้ว เพราะถ้าน้ำเข้าไปผสมกับเนื้อมาสคาร่า อาจจะสามารถทำให้เนื้อมาสคาร่าเปลี่ยนแปลงสภาพ และไม่สามารถใช้ได้ตามเดิมได้ค่ะ ทางที่ดีควรแช่แค่ครึ่งแท่งพอ เพื่อการไม่รั่วไหลเข้าไปด้านในนั้นเองค่ะซิส
วิธีการทำน้ำอุ่นก็อาจจะเอาน้ำใส่แก้วใหญ่แล้วเข้าไมโครเวฟ หรือจะต้มเอาก็ได้ ไม่ต้องร้อนขนาดเดือดปุดๆ แค่ให้อุณภูมิมมากกว่า 20 ก็พอใช้ได้แล้ว การวางแช่ก็ปล่อยไว้สัก 10-20 นาทีให้เนื้อมาสคาร่าด้านในที่แห้งค่อยๆคลายตัวออกมานั่นเองค่ะซิส เพียงเท่านี้ก็จะได้มาสคาร่าสุดที่เลิฟกลับมาใช้ต่อได้ และประหยัดเงินได้อีกด้วยน้า
บางคนอาจจะเคยลองเอาน้ำหยดเข้าไปในตัวแท่งต้องบอกก่อนว่าเป็นวิธีที่ “พักก่อน” นะจ้ะ เพราะน้ำสามารถเย็นตัวลงได้ง่ายมากๆและเมื่อไหร่ก็ตามที่น้ำเย็นลงจะทำให้เนื้อมาสคาร่าแข็งได้เร็วขึ้นมากๆ ไม่สามารถเกาะติดแปรงได้อีกเลยค่ะ เนื้อของมาสคาร่าจะเกาะอยู่ตามตัวแท่งเท่านั้น เพราะฉะนั้นส่วนนี้จะต้องระวังให้มากๆเลยอย่าไปลองทำนะจ้ะ
2.หนีบขนตาแล้วปัดพร้อมกัน
เคล็ดลับขนตาเด้ง อันที่ 2 ต้องบอกว่าอาจจะแอบยากนิดนึงสำหรับคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้าหรือยังไม่เคยลองทำ เพราะต้องอาศัยการมือนิ่ง การมองและความอดทนด้วยค่ะ วิธีนี้เป็นวิธีจาก makeup artist ที่จะใช้วิธีทำให้ที่ดัดขนตาดัดขนตาค้างไว้ และปัดมาสคาร่าไประหว่างที่ปัดมันเนี่ยเลยค่ะ จบ! ไม่ต้องตัดเสร็จแล้วปล่อยออกมาให้ขนตาตกอีก น่าหงุดหงิดใจ วิธีนี้จะทำให้ที่ดัดขนตาของเรามีการเลอะเทอะอยู่บ้างแต่เป็นวิธีที่ทำแล้วได้ผลดีที่เดียวค่ะ โดยที่หลังจากที่เราปัดขนตาแล้วนั้น ให้หนีบขนตาค้างไว้ก่อนสัก 5 นาที ให้มาสคาร่าที่ปัดไปเซ็ตตัวสักนิดก่อน แล้วค่อยเอาที่ดัดขนตาออกจากนั้นก็ปัดขนตาเพิ่มอีกเล็กน้อย ก็เป็นอันเสร็จ
ข้อควรระวังคืออาจจะมีการระคายเคืองที่ตาเพราะเราต้องลืมตาค้างไว้ กระพริบตาไม่ค่อยสะดวกหรือแทบจะกระพริบตาไม่ได้เลยด้วยซ้ำแล้วก็อาจจะมีอาการเมื่อยมือเล็กน้อยด้วยค่ะซิส ต้องบอกว่ากว่าจะสวยได้ก็ลำบากอยู่เหมือนกันนะคะเนี่ย แต่รับรองว่าวิธีนี้เอาอยู่จริงๆทั้งคนขนตาตก ขนตาสั้น ต้องลอง!
3.ที่ดัดขนตาไฟฟ้า
ถ้าไม่อยากเมื่อยมือแล้ว อยากทำอะไรที่ง่ายกว่านี้แนะนำให้ลองใช้ ที่ดัดขนตาไฟฟ้า เลยจ้า ที่ดัดขนตาไฟไฟ้ามีหลากหลายรูปแบบมากๆ ทั้งยังมีหลากหลายราคาและหลากหลายแบรนด์ทำออกมาด้วย ค่อนข้างหาซื้อง่ายเลยทีเดียว โดยการใช้งานของเจ้าที่ดัดขนตาไฟฟ้าก็ง่ายแสนง่ายค่ะ เพียงแค่กดเปิดสวิตช์รอให้เครื่องเริ่มอุ่นๆแล้วใช้จ่อที่โคนขนตาหลังจากดัด และ ปัด ขนตาเรียบร้อยแล้วนะคะ ไม่ใช่เอาไปจ่อแล้วยังไม่ได้ปัดมาสคาร่า หรือยังไม่ได้ดัดด้วยที่ดัดธรรมดา แบบนั้นมันก็จะไม่ขึ้นนะคะซิส โดยที่ดัดขนตาไฟฟ้าจะสามารถช่วยเรื่องการทำให้ขนตาเด้งคงตัวทั้งวัน ด้วยการใช้ความร้อน เทคนิคเดียวกับการทำผมนั่นแหล่ะค่ะ ด้วยตัวทำความร้อนจิ๋วที่เรียงตามแท่งของมันจะสามารถเก็บขนตาได้ทุกมุมเลยก็ว่าได้ ความดีงามของตัวนี้คือจะทำให้การปัดมาสคาร่าของเรานั้นไม่สูญปล่าว ขนตาเราจะยังสามารถเด้งได้ทั้งวันแม่จะผ่านไปนานถึง 5 ชม. แต่จะต้องระวังไม่ให้ขนตาโดนน้ำเด็ดขาดเลยค่ะ
ข้อควรระวังสำหรับการใช้ที่ดัดชนตาไฟฟ้าคือระวังการโดนผิวเปลือกตา เพราะดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางที่สุดเพราะฉะนั้นการเอาความร้อนไปอยู่ใกล้ๆขอบเปลือกตาจะต้องระวังสักหน่อยค่ะซิส
ซึ่งที่ดัดขนตาไฟฟ้าที่นิยมที่สุดต้องยกให้แบบหัวเล็ก โค้ง รับกับแนวของเปลือกตาได้และสามารถปรับความร้อนได้ เครื่องดัดขนตาไฟฟ้าจะใช้ถ่านก้อน 1-2 ก้อนหรือบางแบรนด์ก็สามารชาร์จได้อีกด้วยนะ
สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาดและหาซื้อได้เยอะแยะมากมายใน Internet มีหลากหลายหลากหลายแบบในเลือกใช้กันนะคะ ถ้าสนใจลองไปไล่ๆดูเลือกที่ถูกใจได้ที่ลิ้งค์นี้เลย
4.ปัดขนตาด้วยแป้ง
เคล็ดลับต่อมาก็เป็นเคล็ด (ไม่ ) ลับของช่วงแต่งหน้าอีกแล้วคือวิธีการใช้แป้งเป็นตัวเบสก่อนปัดมาสคาร่านั้นเอง วิธีนี้ไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไหรบางคนอาจจะนึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่าแป้งสามารถทำแบบนี้ได้ด้วย ซึ่งวิธีการทำก็ง่ายแสนง่ายเลยล่ะ!
การใช้แป้งลงบนขนตานั้นจะช่วยทำให้ขนตามีวอลลุ่มมากขึ้นจะทำให้ขนตาเส้นหนาขึ้นนั่นเองค่ะ ทั้งยังสามารถเซ็ตความมันของเปลือกตาได้อีกด้วย ทำให้มาสคาร่าที่ลงไปจะแข็งตัว เกาะขนตาและไม่เยิ้มระหว่างวันได้และสามารถช่วยให้ขนตาของเรานั้นเด้งได้ทั้งวันเลย ต้องบอกว่าเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับอากาศบ้านเรามากๆด้วยค่ะน่าลองทำมากเลย
วิธีการทำก็ง่ายมากเพียงแค่ใช้ Cotton brush หรือแปรงสะอาด ปัดที่แป้งอะไรก็ได้เช่น แป้งเด็ก แป้งอัดแข็ง แป้งฝุ่น หรือแป้งผสมรองพื้น แต่ห้ามใช้แป้งเย็นนะจ้ะไม่งั้นแสบตาน่าดูเลย แล้วค่อยๆปัดลงไปบนขนตาทั้งขนตาล่างและขนตาบน ในขั้นตอนนี้อาจจะดูน่าตกใจเพราะขนตาของเราจะเป็นสีขาว แป้งๆ แล้วหลังจากเสร็จขั้นตอนนี้แล้วเราก็ปัดมาสคาร่าตามปกติ อาจจะใช้ความละเอียดเล็กน้อยเพื่อเก็บสีของแป้งให้หมดนะคะ แต่ถ้าหากปัดยังไงก็ยังเห็นสีขาวอยู่แนะนำให้ใช้ eyeliner แต้มเพิ่มในจุดที่ยังเห็นสีขาวอยู่ เพียงเท่านี้ขนตาของเราก็จะปังสวยตลอดทั้งวันแล้วค่า
โดยขนตาทีจะได้จะดูมีวอลลุ่มมีความหนาชัดมากขึ้นและยังสามารถคงตัวอยู่แบบนี้ได้ทั้งวันอีกด้วยค่ะ ข้อดีอีกอย่างคือถ้าเราปัดมาสคาร่าไปแล้ว 1 เลเยอร์ เราสามารถเพิ่มแป้งอีก 2-3 เลเยอร์หลังจากนั้นก็ปัดมาสคาร่าเพิ่ม ขนตาเราจะยิ่งยาวขึ้นเหมือนเป็นการเพิ่ม Fiber แบบ Homemade นั่นเอง ต้องลองแล้วนะซิสมันดีย์งามจริงไรจริง
5.ใช้ cleaner ช่วยสิ!
เคล็ดลับการถนอมมาสคาร่ามาอีกแล้วจ้า โดยวิธีนี้ไม่ต้องไปต้มน้ำให้ยุ่งยากเพียงแค่ใช้ Cleansing water หยดลงไปเพียงแค่ 1-2 หยดเท่านั้น มาสคาร่าที่เคยแห้งปัดไม่ขึ้นหรือลืมใช้เป็นเวลานานๆก็สามารถเอากลับมาใช้ใหม่แบบฟินๆแล้วล่ะ วิธีนี้จะช่วยทำให้เนื้อมาสคาร่าข้างในที่แห้ง ข้น ไม่สามารถเกาะติดแปรงได้เปลี่ยนเป็นเนื้อ Liquid มีความเหนียวยืดหยุ่นมากขึ้นและสามารถปัดใช้เหมือนเดิมได้ตามปกติค่ะซิส เป็นการถนอมและยืดอายุการใช้งานของมาสคาร่าแท่งโปรดได้ดีจริงๆ
โดยวิธีการทำก็ง่ายมากๆเช่นกันค่ะ ให้เลือกเอา cleansing water แต่ต้องไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันหรือนมนะคะ เพื่อที่เนื้อมาสคาร่าจะได้ถูกแปลงสภาพไป บางคนเอา cleansing water ที่ผสมน้ำมันไปด้วยทำให้เนื้อของมาสคาร่ามัน เละไปหมดเลยค่ะ ต้องเช็คดูก่อนดีๆนะคะซิส
หลังจากเนื้อมาสคาร่าเปลี่ยนสภาพเป็นเนื้อลิคขวิดแล้วจะสามารถใช้ได้ง่ายมากขึ้นการปัดขนตาก็จะฟินและสามารถใช้ได้อย่างคุ้มค่า ขนตาก็จะยิ่งปัง เด้ง ตลอดทั้งวันเลยค่า และซิสๆสามารถใช้เจ้า cleasing เช็ดทำความสะอาดแปรงมาสคาร่าเพื่อเอามาสคาร่าที่แห้งติดแปรงนั้นออก เมื่อเนื้อของมาสคาร่าที่แห้งได้หลุดออกไปแล้ว ตัวแปรงจะสามารถดึงเนื้อมาสคาร่าด้านล่างขึ้นมาได้เยอะขึ้นทำให้การปัดขนตาได้เนื้อมาสคาร่าเพิ่มมากขึ้น และขนตาจะดูไม่เป็นขาแมงมุม ไม่ดูเป็นขลุยๆนั่นเองค่า
TIPS
TIPS เพิ่มเติมคือการเลือกแปรงของมาสคาร่าให้ตรงใจให้เหมาะกับขนตาของเรามากที่สุดค่ะ โดยวันนี้เราจำแนกมาให้ 10 แบบด้วยกัน
- 1. Classic fiber wand – FOR DENSITY
- – แปรงแบบแรกเป็นแบบที่นิยมและคลาสสิคที่สุดเหมาะสำหรับการปัดในเลเยอร์ธรรมชาติไม่หนาไม่ยาวมาก เป็นแบบที่หาได้ทั่วไปไม่ยาก
- 2. Plastic rubber wand – FOR DEFINITION
- – แปรงแบบที่ 2 จะเหมาะสำหรับการทำให้ขนตาดูคมชัดเส้นใหญ่ เพราะมีพลาสติกแกนตรงกลางทำให้เนื้อมาสคาร่าติดออกมาเยอะขึ้นนั่นเองค่ะ
- 3. S-Shaped Wand – FOR INTENSITY
- – แบบที่ 3 จะคล้ายๆกับแบบที่ 2 แต่แปรงประเภทนี้สามารถทำให้ขนตายาวขึ้นได้มากกว่าด้วยขนแปรงที่หนาและการออกเป็นรูปทรงที่ดูเหมือนคลื่น
- 4. Curved Wand – FOR CURLING
- – แบบที่ 4 ก็เป็นอีกแบบที่นิยมเป็นอย่างมาก เป็นรูปทรงที่สามารถทำให้ขนตาเด้งงอนได้มากขึ้น แต่เส้นขนตาจะไม่หนามากอยู่ในเกณฑ์กลางๆใช้งานง่าย
- 5. Conical Wand – FOR FANNING OUT
- – แบบที่ 5 จะเหมาะสำหรับคนที่ขนตาตกมากเป็นพิเศษเพราะแปรงนี้จะช่วยทำให้นตาเป็นแพ ดูสะพัดออกสวยงามเหมือนตาของตุ๊กตา
- 6. Spiky Ball Tipped Wand – FOR SEPARATION
- – รูปทรงแบบที่ 6 อาจะดูแปลกตาไม่ค่อยได้เห็นมากนักในแบรนด์ทั่วไป เพราะตัวแปรงออกแบบมาเพื่อการปัดขนตาที่หนา และแยกออกกันชัดเจนเพราะฉะนั้นแปรงแบบนี้จะสามารถเห็นบ่อยในหลังเวที่เช่น Fashion week เป็นต้น
- 7.Bubble Wand – FOR LENGTH
- – แบบที่ 7 ดูจากรูปทรงแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแปรงที่สามารถทำให้ขนตายาวเป็นพิเศษเพราะด้วยลักษณะที่กลม เป็นคลื่น สามารถดึงเนื้อมาสคาร่าออกมาได้เยอะมากกกก จึงทำให้เวลาปัดขนตาจะยาวมากเป็นพิเศษนั่นเองค่ะ
- 8. Triangular Wand – FOR VOLUME
- – แบบที่ 8 ก็ต้องบอกว่าเห็นบ่อยมากๆในแบรนด์ต่างๆ แปรงประเภทนี้เหมาะสำหรับการปัดที่แน่นเฉพาะความหนาและขนแปรงตัวนี้มี 2 ด้านด้วยกัน ด้านนึงจะหนาและยาว อีกด้านนึงจะเล็กและสั้นเหมาะสำหรับเก็บดีเทลได้อีกด้วย
- 9. Skinny Wand – FOR NO SMUDGES
- – แปรงแบบนี้ความพิเศษคือเนื้อมาสคาร่าจะเกาะติดไม่มีการร่วงหล่นทำให้ขอบตาเลอะเทอะ
- 10. Micro Wand – FOR PRECISION
- – แปรงสุดฮิตและเหมาะสำหรับสาวๆเอเชียอย่างเรา ด้วยแปรงขนาดเล็กสามารถปัดขนตาน้อยๆได้อย่างละเอียดและปัดขนตาล่างได้เริศมาก
Stay connected