สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้เรามีไอเท็มเด็ดๆมาแชร์ให้ฟังค่ะ สืบเนื่องมาจากเราเป็นคนชอบไอเท็มบำรุงผิวมากอยู่แล้วค่ะ ยิ่งเป็นบำรุงแบบบางเบา เนื้อน้ำ จะชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะใช้ง่าย ไม่เหนียว ซึมไว ไม่ร้อนเหนอะผิวตามอากาศบ้านเรานะคะ แน่นอนค่ะ วันนี้จะมาพูดถึงการบำรุงผิว และด้วยเทรนใหม่ตอนนี้ ก็จาก Plankton (แพลงตอน) นี่แหละค่าา

เจ้าแพลงตอน คืออะไร พูดง่ายๆนะคะ แพลงตอนคล้ายๆแบคทีเรียชนิดนึงค่ะ แต่เจ้าแบคทีเรียตัวนี้ มีประโยชน์ค่ะ เกื้อกูลกับผิวพรรณมาก มีคุณสมบัติในการช่วยลดระคายเคือง ต้านการอักเสบของผิว ช่วยให้กระจ่างใส ช่วยให้ผิวแข็งแรงกระตุ้นผิวให้ซ่อมแซมตัวเอง และ ชะลอวัยด้วยค่ะ

ซึ่งที่ผ่านมาเรา ได้มีโอกาสลอง Biotherm life plankton ค่ะก็ใช้มาประมาณ1เดือนแล้ว ก็ได้มาเจออีกตัวนึง sena marine plankton ก็เลยหยุดตัวแรก มาลองใช้ตัวใหม่ก่อนเลยค่ะ เพื่ออยากจะลองเปรียบเทียบกันแบบชัดๆ ก็ด้วยเห็นว่าเค้ามาจากแพลงตอนเหมือนกันเลยนี่คะ Biotherm นี่แพลงตอนฝรั่งเศส sena นี่แพลงตอนเกาหลี อุ้ย!! ต้องลองค่ะแบบนี้

Processed with VSCOcam with c1 preset

                มาพูดถึงตัวแรกก่อนนะคะ Biotherm life plankton ตัวนี้ขนาด 200 ml.ราคาอยู่ที่ 3,200บาท ค่ะที่ซื้อมาตอนนั้นเค้าเคลมแรงว่า ผิวอ่อนเยาว์ใน8วัน เข้าไปก็เห็นกระแสดี คนพูดถึงเยอะ จัดสิคะ รออะไร!!  มาลองเลยค่ะ

plank2

Packaging เป็นขวดแก้ว หรูหราดี แต่เสียอย่างเดียว ฝาไม่ค่อยดี ครอบสีเงินๆหลุดง่ายอะค่ะ หลุดไปตั้งแต่แรกๆ ภาพที่วันนี้มาโชว์เลยไม่สวยเท่าไหร่นะคะ ขอโทษด้วย แต่ชอบนะคะสีแบบทะเลๆ ใสๆมองเห็นข้างในจะได้รู้ว่าเหลือแค่ไหนแล้ว (ดูภาพสิเหลือน้อยแล้ว)
 สัมผัสแรก คือ เนื้อเอสเซนส์มีความหนืดเล็กน้อยและต้องเขย่าขวดก่อนใช้เนื่องจากจะมีตะกอนขุ่นๆที่ก้นขวดเมื่อวางทิ้งไว้ สัมผัสแรกที่ได้คือ มีความชุ่มฉ่ำดี แอบมันเล็กน้อย ความเห็นส่วนตัวคือ รู้สึกว่า ใช้ได้แค่ก่อนนอนและในห้องแอร์เท่านั้นค่ะ อาจเพราะเป็นคนผิวมันด้วยนะคะ พอมันอีกมันเลยเป็นส่วนเกินค่ะ กลิ่นก็แว๊ปแรกก็หอมดี แต่พอแห้งรู้สึกมีกลิ่นเค็มๆหืนๆ แต่เราก็เข้าใจค่ะเป็นธรรมชาติของกลิ่นแพลงตอน ซึ่งBiotherm ใส่ถึง 5%
เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องประมาณ1เดือน รู้สึกรูขุมขนกระชับขึ้น ผิวแน่นๆ ผิวฉ่ำ ไปจนถึงผิวมัน5555 ลดการระคายเคืองดี เวลาไปโดนแดดและแสบร้อนผิว หรือ เวลามีรอยแดงสิวก็จะลดลงหลังใช้ค่ะ สิวอักเสบถ้าเป็นแบบเล็กๆก็หายไวดีค่ะ

สรุปคือ ผลที่ได้ก็okเลยค่ะ แต่หลักๆ คือ ไม่ค่อยชอบสัมผัสเท่าไหร่ รู้สึกมันเกินไป ไม่ซึมผิว ส่วนที่ซึมก็ซึมค่ะ แต่รู้สึกบางส่วนนี่เป็นความมัน รู้สึกมันยังเคลือบผิวอยู่ ใช้ก่อนนอนเท่านั้น ตื่นมาผิวแน่นจริง รู้สึกได้ แต่ตอนเช้าใช้ไม่ได้เลยค่ะ เพราะทำให้หน้ามัน และ ไม่สามารถแต่งหน้าได้เลย เจ็บสุดคือเกลี่ยรองพื้นยากมาก แล้วก็ทำให้เป็นคราบๆปื้ดๆค่ะ

 

 

สาวเกาหลี sena marine plankton ตัวนี้ได้มาจากเพื่อนสาวค่ะ บอกว่าตอนนี้มาแรง อะแรงก็แรง ก็รีบหยุดตัวเก่า3-4วัน แล้วมาลองตัวนี้เลย ลึกๆแอบชอบที่มากจากเกาหลีนะคะ ใครจะว่าไงไม่รู้ แต่ความเห็นส่วนตัว ชอบหมดถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มากจากเกาหลี ญี่ปุ่น ชอบค่ะ เพราะคิดเองว่า ยังไงเราก็คนเอเชียเหมือนกัน ผิวน่าจะคล้ายกัน น่าจะเข้าใจกันมากกว่าค่ะ (คิดเองจิงๆ)

Processed with VSCOcam with c1 preset

                ตัวนี้เค้าวิจัยและผลิตที่เกาหลีเลยนะ มีส่วนผสมของแพลงตอน 8% น้ำแร่ และ สมุนไพรเกาหลี เค้าบอกว่าตัวนี้จะช่วยเพิ่มพลังเซลล์ผิวให้สร้างเซลล์ใหม่ ซ่อมแซมผิวถึงชั้นเซลล์ และช่วยให้ยืดหยุ่นกระชับ แหม!!ลองเลยละกันค่ะ

Packaging เปิดกล่องมาเป็นขวดแก้วหนา แต่ค่อนข้างมีน้ำหนักค่ะ ขวดทึบ ฝาใหญ่จับกระชับมือดี รวมๆสวยดีค่ะ ดูแพง ชอบที่เป็นสีขาวเป็นแก้วและสกรีนขวดจริงๆ ตอนแรกนึกว่าเอาพลาสติกมาแรพเอาค่ะ

สัมผัสแรก เนื้อน้ำจะใสกว่า Biotherm นะคะ เป็นเนื้อน้ำ แบบน้ำเลย ขุ่นนิดเดียวแค่ให้เรารู้ว่าไม่ใช่น้ำเปล่า วอร์มที่ผ่ามือแปปนึง ตบเบาๆทั่วหน้า รู้สึกซึมไวมาก ไม่เหนียวหน้า แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนผิวแห้งนะคะ อาจจะชุ่มชื่นไม่พอ แต่สำหรับส่วนตัว เราชอบค่ะ เพราะไม่มัน ไม่เหนอะ ไม่เคลือบผิว มีบ้างในวันที่ดื่มน้ำน้อยๆเวลาใช้จะเพิ่มปริมาณซ้ำเข้าไปอีกคะ เพื่อความชุ่มชื่นมากขึ้นค่ะ ส่วนกลิ่นนั้น มีน้ำหอมนะคะ แล้วแต่คนชอบ แต่ก็กลิ่นไม่แรงมาก รับได้ เบาๆสะอาดๆค่ะ

เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องประมาณ1เดือน รู้สึกทันทีว่าผิวนุ่มๆขึ้น กระชับขึ้น โชคดีหรือโชคร้ายไม่รู้555 ช่วงนึงเราแพ้ฝุ่นมีสิวขึ้น ก็ลองทาตัวนี้แบบว่าได้ลองของนางซะเลย สรุปว่า สิวยุบไวกว่าเดิมนะ อันนี้ดี ถึงผลลัพท์จะไม่ไวเท่า8วันของBiotherm แต่ด้วยราคา 1,490 บาท 150ml. ราคาน่าคบหา ถึงช้ากว่าหน่อยนึง เราก็ไม่ว่าอะไรค่ะ

สรุปคือ เริ่มต้นได้ดี รู้สึกมาถูกทาง ชอบมากที่ไม่มัน ซึมไว ผิวนุ่ม รูขุมขนเล็กลง ส่วนริ้วรอยยังไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ อาจเพราะปัญหาหลักๆของเรา คือรอยแดง  ราคาก็ไม่แพงมาก ติดที่ยังหาซื้อยาก ถ้าเทียบกับ biotherm  คงเพราะเพิ่งมาใหม่ด้วยมั้ง

 

 

 

อันนี้เทียบที่เมื่อกี้เล่าให้ฟังค่ะ ลองดูนะคะ
อันนี้เนื้อสัมผัสค่ะ

bi_se1

Biotherm สีจะขุ่นกว่า sena นะคะ

เมื่อทาเสร็จแล้ว

bi_se2

ฝั่งbiotherm จะทิ้งความหนึบๆไว้มากกว่า sena ค่ะ

Ok จบการรีวิวเท่านี้ บอกก่อนว่าอันนี้ไม่มีสปอนเซอร์นะคะ คือ ใช้เอง ชอบเอง บ่นเองค่ะ  เป็นความรู้สึกส่วนตัวจ้า ผลลัพท์ที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยนะคะ ไว้ไปเจออะไรดีๆ เริ่ดๆทั้งในเรื่องของแฟชั่น และ บิวตี้ จะมาเล่าให้สาวๆฟังอีกเยอะๆนะคะ หรือ ถ้าสาวๆคนไหน มีอะไรดีๆก็อย่าลืมมาเล่าให้เราฟังบ้างนะคะ

 

 

 

Comments

comments