สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน เราว่าช่วงนี้สาวๆ หลายคนเริ่มกลับมา WFH กัน ด้วยความที่เจ้า COVID ระบาดระลอกสอง ด้วยเหตุนี้ทำให้บางทีก็แรงไฟหมด อืดๆ เนือยๆ ตามเวลา วันนี้เราเลยอยากมาเติมไฟใส่เชื้อเพลงให้สาวคอนิเมะกันซักหน่อยกับ “5 การ์ตูนอนิเมะปลุกใจ บน Netflix ดูแล้วรับรองมีไฟในการใช้ชีวิต” บอกเลยว่า เป็นอนิเมะที่ดูกี่ครั้งก็เหมือนปลุกเร้าอารมณ์ ปลุกความหึกเหิมอยู่ๆ ก็มีความมุ่งมั่น งั้นอย่ารอช้าไปเริ่มที่เรื่องแรกกันเลยค่า
“5 การ์ตูนอนิเมะปลุกใจ บน Netflix ดูแล้วรับรองมีไฟในการใช้ชีวิต”
เรื่องที่ 1: Nuruto (คลิกเพื่อรับชมอนิเมะ)
จำนวนซีซั่น: 9 ซีซั่น
ระดับความหึกเหิม: 3 / 5
ถ้าจะให้นึกถึงการ์ตูนอนิเมะปลุกใจที่เป็นระดับตำนานแล้วละก็ เราขอยกเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องแรกเลยแล้วกัน เพราะว่าเป็นอนิเมะอีกหนึ่งเรื่องที่เหมือนเติบโตมากับเราด้วย และเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใดไปไม่ได้เลยนอกจาก “Naruto” หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “นารูโตะ นินจาจอมคาถา” เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามว่า อุสึมากิ นารูโตะ เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนินนาแคว้นโคโนฮะ
ซึ่งเขากำลังเป็นนักเรียนในโรงเรียนฝึกสอนนินจา ซึ่งตัวเขามีปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่โจมตีหมู่บ้านโคโนฮะในอดีต ถูกสะกดไว้ในร่างของเขา
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนในหมู่บ้านต่างเกลียดชัง และไม่กล้ายุ่งด้วย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจที่อยากจะเอาชนะใจคนทั้งหมู่บ้านและทำให้ทุกคนยอมรับในตัวของเขา นารูโตะจึงมีความฝันที่จะเป็น “โฮคาเงะ” ซึ่งเป็นเหมือนผู้นำในแคว้นนินจานั้นๆ ให้จงได้ แต่หนทางสู่การเป็นโฮคาเงะนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว
นารูโตะเป็นมังงะและการ์ตูนอนิเมะปลุกใจที่มีเนื้อเรื่องยาวนานมาก (แต่คงไม่เท่า วันพีช / โคนัน / ฮันเตอร์) จนตอนนี้จบและมีรุ่นลูกต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (และก็ยังไม่จบ) สิ่งที่เราชอบมาก ๆ เลยของอนิเมะเรื่องนี้คือ การเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร แทบทุกตัวในเรื่อง ในทุก ๆ ep. เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อย และพบสิ่งที่ทำให้น่าประทับใจไม่มีสิ้นสุด
หากถามหาความหึกเหิมนั้น บอกเลยว่าเรื่องนี้มีแทบจะทุกตอน เพราะกว่าตัวเอกของเรื่องอย่านารูโตะของเรานั้นจะก้าวข้ามและเอาชนะใจคนในหมู่บ้านได้นั้น เขาต้องผ่านเรื่องราวและการฝึกฝนมาไม่น้อย บ่อยครั้งที่เขาท้อใจ แต่เขาไม่เคยล้มเลิกความฝันและความพยายามของตนเอง และที่ชอบมากไปกว่านั้นคือเป็นอนิเมะที่ทั้งตลก ซึ้ง น่ารัก เศร้า มีครบทุกรสชาติ บางตอนก็โรแมนติกเชียว บางตอนก็ตลกโปกฮาติ๊งต๊องซะงั้น แต่พอเข้าสู่โหมดแอ็คชั่นก็ทำได้ดี และที่สำคัญฉากซึ้งกินใจกระชากน้ำตาได้สุด ๆ ถือว่าเป็นอนิเมะที่ทำออกมาได้ดีและเบาสมอง คุ้มค่าที่จะดูนะบอกเลย
เรื่องที่ 2: Hunter x Hunter (คลิกเพื่อรับชมอนิเมะ)
จำนวนซีซั่น: 5 ซีซั่น
ระดับความหึกเหิม: 3.5 / 5
เป็นอีกหนึ่งการ์ตูนอนิเมะปลุกใจที่สร้างจากมังงะชื่อดังในสมัยเด็ก ซึ่งไม่ได้ให้ความนุกสนานในแบบฉบับสำหรับเด็กเพียงเท่านั้น แต่สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราก็สามารถดูได้ ให้ความรู้สึกเร้าใจ และ มันส์ไม่แพ้กัน พร้อมสอนอะไรกับเราได้เยอะมากเลยทีเดียว และเรื่องนี้คือ “Hunter x Hunter” สร้างจากมังงะที่ใช้ชื่อเดียวกันซึ่งผู้เขียนได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้มาจากการที่เขาชอบสะสมของเก่า
ว่าด้วยเรื่องราวของหนุ่มน้อยนามว่า “กอร์น ฟรีคส์” เด็กชายวัย 12 ปี ผู้มาจากเกาะปลาวาฬ
ที่มีความมุ่งมั่นอยากออกตามหาพ่อและเดินทางตามรอย พ่อของเขา ผู้เป็นฮันเตอร์อันดับของโลก ซึ่งทิ้งเขาให้อยู่กับน้าสาวตั้งแต่เด็ก ดังนั้นกอร์นจึงเริ่มออกผจญภัยกับเส้นทางของการเป็นฮันเตอร์มืออาชีพ
สำหรับเราการ์ตูนอนิเมะปลุกใจเรื่อง Hunter x Hunter เรื่องนี้ เป็นการ์ตูนอันดับ 1 ในใจ ที่เราตามอ่านมังงะตั้งแต่เล่มแรกจนถึงเล่มปัจจุบัน (ซึ่งหลังๆ มานี้ 1 ปีจะออกซักเล่มนึง) เราว่าการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้ให้ความบันเทิงและความตื่นเต้นเพียงเท่านั้น แต่ยังให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตประจำวันต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่แง่การคิดวิเคราะห์ โดยในเรื่องจะนำเสนอผ่านแง่คิดต่างๆ ซีนในช่วงการสอบคัดเลือกฮันเตอร์ของกอร์นและผองเพื่อน พร้อมบอกเล่า BG ของแต่ละตัวละครไปด้วยเพื่อ ทำให้เราได้เห็นเหตุและผลของการกระทำ พร้อมทั้งจุดมุ่งหมายของตัวละครนั้น ๆ ได้ดีขึ้น
สเน่ห์หลัก ๆ ของอนิเมะเรื่องนี้คงเป็นความน่ารักของตัวละครและความเข้มข้นของภาระกิจในแต่ละภาค โดยแต่ละภาคจะมีตัวละคร Higlight ที่แตกต่างกัน เพราะแบบนี้เลยทำให้เราไม่เบื่อเลยสักครั้งที่ดู หากพูดถึงความหึกเหิมบอกเลยว่าอนิเมะเรื่องนี้จัดเต็มแน่นอน เราจะได้เห็นความมุ่งมั่นในการตามหาพ่อของกอร์น การฝึกฝนในการจะเป็นฮันเตอร์ และการปฏิบัติภารกิจต่างๆ
ทำให้เรารู้สึกว่าในโลกกว้างนี้มีคนเก่งกว่าเราอีกมาก ดังนั้นจงอย่าลืมฝึกฝนและเพียรพยายามอยู่เสมอๆ
เรื่องที่ 3: My Hero Academia (คลิกเพื่อรับชมอนิเมะ)
จำนวนซีซั่น: 4 ซีซั่น
ระดับความหึกเหิม: 4 / 5
และการ์ตูนอนิเมะปลุกใจเรื่องถัดไปที่อยากจะแนะนำสาวๆ สายเมะได้ดูกันเลยนั้น เป็นเรื่องที่เรียกได้ว่าเป็นที่พูดถึงและสร้างฐานแฟนคลับอย่างแพร่หลายกับ “My Hero Academia” เป็นอนิเมะที่พูดถึงโลกอนาคตที่คนแทบจะทุกคนจะมีอัตลักษณ์พิเศษเหนืออนุษย์ธรรมดาทั่วไป
ซึ่งทุก ๆ ความสามารถพิเศษนี้จึงทำให้คนบนโลกใบนี้สามารถเป็นฮีโร่ในแบบของตัวเองได้
ทว่า “เดกุ หรือ อิซึคุ” เด็กหนุ่มวัยมัธยมที่เกิดมาพบว่าตัวเองไม่มีอัตลักษณ์อะไรเลย เขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ที่มีจิตใจอ่อนโยน มุ่งมั่นพร้อมช่วยเหลือคนอื่น ในแบบที่ตนจะสามารถทำได้ และด้วยเหตุนี้ทำให้สุดยอดฮีโร่ในตำนานอย่าง ออลไมท์ เห็นถึงความตั้งใจและความดีของเขา จึงตัดสินใจมอบพลังให้เขาก่อนที่ตัวเองจะหมดสภาพไป จากหนุ่มน้อยธรรมดา อยู่ๆ ก็มีอัตลักษณ์พิเศษ เรื่องราวความสนุกจึงเริ่มเกิดขึ้น
เราว่า My Hero Academia เป็นการ์ตูนอนิเมะปลุกใจที่ไม่ว่าจะอายุเท่าไร วัยไหนก็สามารถดูได้ เป็นการ์ตูนที่สนุก ดูได้ทุกเพศทุกวัย สิ่งที่ชอบในอนิเมะเรื่องนี้เลยคือ ฉากซึ้งกินใจน้ำตาแตกหนังมาก ฉากบู๊ก็บู๊ซะลุ้นไปหมด แต่มุมน่ารักๆ ก็มี และสิ่งที่อนิมเะเรื่องนี้จะสอนเราคือ การเห็นถึงความพยายามของคนที่ไม่มีอะไรพิเศษ บางคนเลือกที่จะทำ จะเอื้อเฟื่อกับคนอื่นก็ต่อเมื่อเรามีเพียงพอ แต่สำหรับอนิเมะเรื่องนี้ไม่ใช่ หากในวันเมื่อเราไม่มี
แต่เราอยากที่จะช่วยเหลือ ก็จงช่วยให้ได้ที่สุดในแบบของเราเอง ไม่จำเป็นต้องมีเหมือนใคร และหากวันใดที่มีหรือมีมากกว่าคนอื่นเขา จงทำสิ่งนั้นให้เป็นประโยชน์ได้เต็มที่เท่านั้นเอง
เรื่องที่ 4: Demon Slayer (คลิกเพื่อรับชมอนิเมะ)
จำนวนซีซั่น: 1 ซีซั่น
ระดับความหึกเหิม: 4.5 / 5
การ์ตูนอนิเมะปลุกใจเรื่องรองสุดท้ายที่เราอยากจะพูดถึงนั้น เป็นอีกเรื่องที่โด่งดังและติด Top 10 ของ Netflix มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว บอกเลยว่าเป็นอีกเรื่องที่มีกลุ่มแฟนคลับแทบจะทั่วโลกเลยก็ว่าได้ (ในส่วนของ The Movie เรื่องนี้รายได้แซง The Spirit Away ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)
กับ “Demon Slayer” หรือ “ดาบพิฆาตอสูร” เป็นเรื่องราวของ “คามาโดะ ทันจิโร่” เด็กหนุ่มผู้เปรียบเสมือนเสาหลักของบ้าน เนื่องจากพ่อของเขาล้มป่วยเสียชีวิต ทำให้เขาต้องแบกรับหน้าที่ในการออกไปขายถ่านไม้ในตัวเมือง
วันหนึ่งทันจิโร่เดินทางไปขายถ่านไม้จากบ้านบนหุบเขา
วันนั้นเป็นวันที่หิมะตกแรง ทำให้การเดินทางกลับขึ้นไปนั้นลำบาก เขาได้รับการช่วยเหลือและเอื้อเฟื้อสถานที่พักแรมจากคุณลุงคนรู้จัก
แต่ทว่าเมื่อถึงบ้านในรุ่งเช้า เขาได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว พร้อมกับภาพที่ครอบครัวของเขาถูกฆ่าตายเกือบหมด เหลือเพียงน้องสาวของเขา “เนซึโกะ” เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่แล้วในขณะที่คันจิโร่พยายามแบกร่างที่แทบจะแน่นิ่งของน้องสาว อยู่ๆ เนซึโกะ ก็อาละวาดมีแววตาและกลิ่นที่แตกต่างออกไป นั่นทำให้คันจิโร่รู้ว่าน้องสาวของเขากลายเป็นอสูร และด้วยเหตุนี้ทำให้คันจิโร่ ต้องผันตัวเองเป็นมือปราบอสูร เพื่อตามหาวิธีทางแก้ให้น้องสาวของเขากลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
Demon Slayer เป็นอีกหนึ่งการ์ตูนอนิเมะปลุกใจที่เราดูทั้งหมด 26 ตอน ภายใน 2 วัน บอกเลยว่าติดงอมแงมเลยทีเดียว เป็นอนิเมะที่บอกเล่าเรื่องราวและถ่ายทอดความอบอุ่นของคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่นั้น ยังเป็นอีกอนิเมะหนึ่งที่สะท้อนให้เราเห็นว่า ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร พระเอกของเราคันจิโร่ เป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
แต่ด้วยความรักและความห่วงใย บวกกับความปรารถนาที่อยากให้น้องสาวของเขาหายจากการเป็นอสูร เขาจึงทำทุกวิธีทางเพื่อให้น้องสาวเขาดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกที่โหดปางตาย การเผชิญหน้ากับอสูร หรือ ศัตรูใหม่ๆ แต่อย่างไรเขาก็ไม่เคยละทิ้งความตั้งใจที่มีเยแม้แต่น้อย
เรื่องที่ 5: Haikyuu! (คลิกเพื่อรับชมอนิเมะ)
จำนวนซีซั่น: 4 ซีซั่น
ระดับความหึกเหิม: 5 / 5
เป็นอีกหนึ่งการ์ตูนอนิเมะปลุกใจที่ดูแล้วรู้สึกอิ่มใจ คุ้มค่า และ ทำให้เราซาบซึ้งได้ในทุก ๆ ตอนที่ดู ไม่มีตอนไหน หรือ วินาทีไหนเลยที่ทำให้รู้สึกเบื่อ “Haikyuu!” (ไฮคิว) อนิเมะชื่อดังทางฝั่งเจแปนที่สร้างมาจากมังงะที่มาจากชื่อเดียวกัน เป็นเรื่องราวของ “ฮินาตะ” เด็กหนุ่มวัยมัธยมที่ได้รับชมการแข่งขันวอลเลย์บอลและเกิดประทับใจขึ้น “มือตบหรือเอซของทีมที่มีฉายาว่า เจ้ายักษ์น้อย” ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาเกิดความประทับใจและเริ่มเล่นวอลเลย์บอลแบบจริงจัง เพราะความฝัน ความมุ่งมั่นนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขารู้จักคำว่ามิตรภาพและประสบการณ์ที่ดีอย่างแท้จริง
ขอย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว ที่ตอนแรกไม่เคยรู้จัก การ์ตูนอนิเมะปลุกใจ เรื่องนี้มาก่อน จา Netflix Recommended ให้ดู ลองเข้าไปดู เท่านั้นแหละ !! งอมแงมเลย งอมแงม หยุดดูไม่ได้ ไม่มีวินาทีไหนเลยที่ทำให้รู้สึกเบื่อ หรือ เนือย ๆ ง่วงนอน ยิ่งดูเรายิ่งเห็นการพัฒนาของตัวละครแต่ละตัวมากขึ้น ไม่ใช่ในแง่ของเทคนิคการเล่นวอลเลย์บอล (ที่ไม่เคยรู้มาก่อน) หรือการพัฒนาทางร่างกาย แต่เห็นการเปลี่ยนแปลงในแง่ทัศนคติ ความคิด และจิตใจมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ นี้ มันทำให้เราซาบซึ้งและอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก
อีกทั้งยิ่งดูยิ่งทำให้เรารู้จักคำว่า หน้าที่และบทบาทของเราและคนในทีมหรือในสังคมมากขึ้น และนี่คือข้อคิดใหญ่ ๆ ที่ทำให้เราประทับจำ จนน้ำตาคลอทุกครั้ง (อินมากไปหน่อย) ในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะกลุ่มเล็กหรือใหญ่ เราทุกคนล้วนมีบทบาทและหน้าที่แตกต่างกัน และการที่เราจะพัฒนาและเดินทางไปหาจุดมุ่งหมายที่เหมือนกันได้นั้น เราไม่สามารถลุยเดี่ยวไปได้ด้วยตัวของเราเอง เรายังคงต้องพึ่งพาหน้าที่และความสามารถของทุกคนในทีม ในสังคมที่อยู่ เพราะนี่คือ “ทีม” บอกได้เลยว่าอนิเมะเรื่องนี้ ทำให้เรารู้จักคำว่าการอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม / ทีม และ ทำให้เรารู้จักเคารพบทบาท หน้าที่ของคนอื่น ๆ มากขึ้น อีกทั้งต้องไม่ดูถูก ย่อท้อ หรือ มองข้ามหน้าที่ของตนเอง
Photo Credit:
Stay connected