อยากให้วันหนึ่งมีซักหลาย ๆ ชั่วโมง มีวันหยุดเพิ่มมาอีกซักวัน เพื่อแต่ละวันจะได้นอนเต็มอิ่ม ตื่นมาไม่งัวเงียกันช่ะ แต่ชีวิตมันไม่ได้เป็นแบบนี้นะคะซิส! โดยเฉพาะสาวเวิร์กกิ้งทั้งหลายที่อาจเลิกงานไปแฮงเอ้าท์ต่อ หรือขยันทำงานจนลืมเวลา ฯลฯ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่อยากตื่นสายไปทำงาน น้องซิสมี วิธีทําให้ตื่นเช้าแล้วสดชื่น สดชื่น ไม่งัวเงีย ไปทำงานไม่สายรอดตายไม่โดนนายด่ามาฝากค่า
#1 หาเหตุผลดี๊ดีมาสร้างแรงบันดาลใจในการตื่นตอนเช้า
ถ้าคุณรู้ว่าทำไมคุณถึงต้องตื่นลุกขึ้นจากเตียงในตอนเช้าทุกวัน ไม่ใช่เพราะว่าหน้าเจ้านายลอยเข้ามาในหัวในวันที่เราไปทำงานสาย แต่ทางออกของความสุขในการตื่นแต่เช้านั้นก็เป็นเพราะว่าคุณจะได้มีเวลาเผื่อซักเล็กน้อยในการตื่นขึ้นมาเผื่อได้จิบกาแฟชิล ๆ ก่อนออกจากบ้านไปทำงาน ได้กินอาหารมื้อเช้าที่จะช่วยเติมพลังสมองและพลังงานได้ตลอดทั้งวัน หรือได้มีเวลานั่งแพลนการทำงานของคุณสำหรับวันนี้ มากกว่าจะมาคอยวิ่งวุ่นเพราะว่าตื่นสายนี่แหละ!
#2 นอนหลับให้เพียงพอ
ใคร ๆ ก็รู้วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าง่ายขึ้นคือการนอนหลับให้เพียงพอ ซึ่งเวลานอนส่วนใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่ 7.5 – 8 ชั่วโมง แต่สิ่งที่ทำให้เรานอนหลับยากนั้นอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการรวมทั้งพันธุกรรมด้วย ดังนั้นคุณควรวางแผนจัดตารางล่วงหน้าไว้เลย เช่น ถ้ารู้ว่าจะต้องตื่นนอนตอนหกโมงเช้าทุกวัน ก็ให้นับถอยหลังไปเลยว่าคุณควรจะเข้านอนตอนกี่โมง และควรจะทำให้อะไรเสร็จให้พร้อมก่อนจะเข้านอน เมื่อคุณได้รับการพักผ่อนที่ดี รักษาช่วงเวลาเข้านอนได้สม่ำเสมอ ร่างกายก็จะเรียนรู้ว่าเวลาที่ตื่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ดีลนี้จะทำให้คุณปลุกตัวเองได้ง่ายขึ้นและตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสดใสด้วยนะจ๊ะ
#3 ลงทุนนอนใกล้แสงแดด
ก็แค่จัดที่นอนให้วางอยู่ใกล้หน้าต่างแล้วแง้มม่านพอให้แสงพระอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดเข้ามา เพื่อให้แสงในตอนเช้านี่แหละช่วยปลุกคุณให้ตื่นขึ้นมา แถมยังเป็นนาฬิกาปลุกธรรมชาติที่จะช่วยให้สาว ๆ มีอารมณ์ดี จิตใจและสมองแจ่มใส ช่วยให้ลดอาการซึมเศร้า เนื่องจากแดดอ่อน ๆ ที่สัมผัสบนร่างกายจะสั่งการให้ Melatonin Hormone หรือฮอร์โมนขี้เซาหยุดทำงาน พร้อมรับกับเช้าวันใหม่ได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อนาฬิการาคาแพงเรือนไหนมาปลุกเลย
#4 เลิกเลยกับปุ่ม Snooze
เรื่องสาว ๆ หลายคนอาจเข้าไปใจผิด ๆ เกี่ยวกับปุ่ม Snooze ที่คิดจะใช้เพื่อยื้อเวลาต่อ โดยตั้ง Snooze เพื่อให้นาฬิกาสงเสียงปลุกอีกครั้ง โดยหวังว่าการนอนต่ออีกหน่อยจะช่วยให้คุณตื่นขึ้นได้เต็มตา บอกเลยว่าไม่นะคะซิสสส การตื่นนอนของคุณจะเฟลเลย เพราะหลังจากกดปุ่ม snooze แล้ว ร่างกายจะเซ็ตวงจรหลับใหม่ ซึ่งถ้าเราตั้งปลุกทุกๆ 10 นาที, 15 นาที หรือครึ่งชั่วโมงก็เท่ากับว่า เราต้องตื่นทุกนาทีที่เราตั้ง ซึ่งก็เป็นสาเหตุว่าพอตื่นนอนจริง ๆ เรายังรู้สึกงัวเงีย ง่วง เพลีย นอนไม่อิ่มและยังไม่อยากตื่นลุกขึ้นมาจากที่นอนนั่นเอง
#5 ตั้งเสียงนาฬิกาปลุกแบบธรรมชาติ
เอาล่ะ ในเมื่อคุณยังจำเป็นที่จะต้องพึ่งนาฬิกาปลุกอยู่ละก็ ต้องรู้ไว้เลยนะคะ นักวิจัยเกี่ยวกับการนอนของมนุษย์พบว่า เสียงนาฬิกาปลุกไม่ใช่เสียงปลุกที่ดีที่สุด ไม่ใช่เสียงเพลงโวกเวก แต่เสียงที่ปลุกให้เราตื่นนอนได้ที่สุดเป็นเสียงของธรรมชาติ เช่น เสียงน้ำไหล เสียงนกร้อง ลองเปลี่ยนเป็นเสียงปลุกแบบนี้แล้วคุณอาจจะพบว่ามันช่วยทำให้คุณปลุกตัวเองได้ง่ายขึ้น แถมไม่ทำให้ตื่นขึ้นมาหน้าบูด อารมณ์หงุดหงิดด้วยนะ
#6 ใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ต่อร่างกายของคุณ
สำหรับสาวคนไหนที่ใช้ไอโฟน คุณสามารถโหลดแอพ Sleep Cycle Alarm Clock มาเป็นตัวช่วยในการตื่นนอนได้ โดยเจ้าแอพตัวนี้สามารถจับการเคลื่อนไหวและพฤติกรรมตอนนอนของเราได้ว่าเวลาไหนที่เราหลับลึก หรือเวลาไหนที่เราหลับไม่สนิท เพื่อที่มันสามารถกะจังหวะในการปลุกในภาวะที่ถูกต้องและเหมาะสม ทำให้คุณตื่นได้แบบธรรมชาติที่สุด โดยใช้เสียงเพลงแบบสบายหู ที่ไม่ทำให้เราต้องหงุดหงิดเหมือนถูกปลุก ล้ำแบบนี้ร้องว้าววว ออกมาเลยดีกว่า (ข้อมูลจาก iloveapp.blogspot.com)
#7 ปลุกตัวเองให้ตื่นด้วยการยืดตัว
สลัดตัวขี้เกียจออกกันค่ะสาว ๆ ด้วยการลุกขึ้นนั่ง แล้วบริหารร่างกายเล็ก ๆ น้อย ไม่ว่าจะเป็นการยืดแขน ขา บิดซ้าย ขวา ค้างไว้อย่างน้อยด้านละ 10 วิ เพื่อให้ร่างกายของเราได้ตื่นตัวดีขึ้น กระตุ้นให้สมองและระบบต่าง ๆ พร้อมทำงานขึ้นมาเต็มที่
เป็นยังไงบ้างเคล็ดลับปลุกตัวเองให้ตื่นจากที่นอน แถมตื่นมาแล้วยังสดชื่น ฟิน ๆ ก่อนไปทำงาน มันทำง่ายมากเลยใช่มั้ยล่ะ น้องซิสว่าจะวิธีไหนก็แล้วแต่ขึ้นอยู่กับจิตใจและวินัยของตัวเองล้วน ๆ เลย แต่นอกจากเทคนิคเหล่านี้แล้ว สิ่งที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตื่นได้อย่างไว สดชื่น ก็คือการเลือกเวลาเข้านอน ที่จะทำให้เรานอนหลับได้อย่างพอเพียง หน้าสด ไม่หมอง ผิวพรรณดี และรอดจากการไปทำงานสายแน่นวลลลค่ะ.
Cr. www.bustle.com
Stay connected