สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมกันนะทุกครั้งที่จะต้องตัดสินใจเลือก หรือตัดสินใจกับเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ทำไมตัวเราบางครั้งไม่รู้ว่าจะต้องเลือกอันไหน ไม่กล้าเลือก ไม่กล้าตัดสินใจ หรือบางครั้งก็แอบคิดว่าเลือกหลายๆ ข้อ หลายๆ ความคิดไม่ได้หรอ? วันนี้ Clubsister เลยขอแนะนำ “5 ฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจ กล้าคิด กล้าทำ ซักที!” บอกเลยว่าแต่ละข้อที่เราบอกไปนั้นจะช่วยให้การตัดสินใจในชีวิตประจำวันมันดีขึ้น 

 

  ทำไมเราถึงตัดสินใจไม่ได้นะ? 5 ฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจ กล้าคิด กล้าทำ ซักที!  

 

แต่ก่อนที่เราจะไปเริ่มฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจกันนั้นเรามาดู กันซักหน่อยว่า ทำไมกันน้า กว่าที่เราจะตัดสินใจกับอะไรซักอย่าง อะไรที่ทำให้มันยากเหลือเกิน และสิ่งเหล่านี้คือองค์ประกอบหรือหลักเหตุผลที่ทำให้การตัดสินใจของเรามันช่างยากเย็นเหลือเกิน

ฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจ

ข้อที่ 1. ทุกการตัดสินใจมีความซับซ้อนอยู่:

ใช่ค่ะ ทุกครั้งที่เราจะเริ่มตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่ มันช่างซับซ้อนเหลือเกิน ไม่ใช่แค่เหตุและผลในการเลือก หรือ ปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามามันดูเยอะแยะไปหมด แต่สิ่งที่ทำให้มันซับซ้อนและยุ่งยากนั้น หลักๆ มาจาก 2 ปัจจัยนี้ อย่างแรกคือ บางครั้งตัวเลือกในการจะต้องตัดสินใจมันเยอะเกินไป ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาเราถามเพื่อนหรือคนที่บ้านว่า เที่ยงนี้ทานอะไรกันดี บ่อยครั้งที่เราจะได้ยินคำตอบที่ว่า “อะไรก็ได้”

และไอ้เจ้าคำว่าอะไรก็ได้นี่แหละ มันกว้างมากๆ อะไรก็ได้ในแอป Delivery คือมีเป็นร้อย แล้วอะไรก็ได้ที่ว่าจะถูกใจทุกคนคืออะไรกันละ หรือไม่เพียงแค่นั้นบางครั้ง เราต้องนั่งถามหลายๆ คนซ้ำไปซ้ำมา และนี่คืออีกหนึ่งปัจจับที่ทำให้การตัดสินใจเป็นเรื่องยาก เพราะการเลือกหรือตัดสินใจที่ถี่หรือบ่อยครั้งเกินไป แค่ฟังก็เหนื่อยแทนแล้ว

 

ข้อที่ 2. ในบางครั้งอารมณ์หรือความรู้สึกมีผลต่อการตัดสินใจ:

และเหตุผลข้อที่ 2 ที่ทำให้การตัดสินใจมันช่างยากเย็นเหลือเกิน คงหนีไม่พ้นความยากของความรู้สึก บ่อยครั้งที่อารมณ์และความรู้สึกมีผลต่อการตัดสินใจต่างๆ มากมาย เราขอยกเหตุการณ์ง่ายๆ อย่างเหตุการณ์ของซีรีส์ชื่อดังที่เพิ่งจบกันไป

อย่าง Nevertheless สมมติว่าเราเป็นยูนาบี จำเป็นต้องเลือกชาย 2 คนที่มีผลต่อใจ คนแรกเป็นแจออนที่มีผลต่อความรู้สึกเต็มๆ แต่เขาทำให้เราเจ็บปวดเหลือเกิน กับอีกคน ที่พร้อมมอบความสุขและมีรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นให้เราเสมอ สมมติถ้าเราเป็นนาบีจริงๆ เราจะเลือกใคร มันลำบากใจไปหมด

คนนึงก็รักแต่เจ็บ คนหนึ่งก็ไม่ได้รู้วึกแต่เขาทำให้เรามีความสุข แค่คิดก็รู้วึกสวย เอ่ย! รู้สึกท้อใจแล้ว กับอีกเหตุผลหนึ่งที่มักจะมาคู่กันกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้นั่นก็คือการกลัวผลลัพธ์หลังจากที่เลือก สมมติถ้าเราต้องเลือกแจออน เรารักเขา แต่เราจะรับความเจ็บปวกที่ตามมาได้ไหม แต่ถ้าสมมติถ้าเราเลือกน้องเตี๋ยวเขาทำให้เรามีความสุขได้ก็จริง แต่เราจะทำให้เขาผิดหวังซ้ำๆ กับเรื่องเดิมๆ ไหม ทุกอย่างมันตีกันในหัวไปหมดเลย

ฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจ

ข้อที่ 3. บุคลิกภาพมีผลต่อการตัดสินใจ:

เหตุผลในข้อสุดท้ายที่มีผลต่อการตัดสินใจไม่แพ้กันเลยคือบุคลิกภาพ หากถามว่าทำไมบุคลิกภาพถึงมีผล เพราะด้วยนิสัยและระบบความคิดในตัวบุคคลนั้นมีความแตกต่างกันออกไป บางคนเป็นคนเด็ดขาด บางคนเป็นคนคิดมาก อย่างคนที่มี 2 บุคลิกนี้ มักมีปัญหากับการตัดสินใจเสมอ

คนแบบที่หนึ่งคนขี้โลเล เราคิดว่าเพื่อนๆ น่าจะพอนึกออกว่าทำไมคนกลุ่มนี้ ถึงมีปัญหาในการตัดสินใจ ด้วยบุคลิกที่เป็นคนโอนอ่อนต่อสิ่งเร้าต่างๆ ได้ง่ายบางครั้งก็ไปทางโน้นที บางครั้งก็ไปทางนี้ที ทำให้เลือกไม่ได้เสียทีจะเลือกทางไหน

กับอีกบุคคลิกหนึ่งที่ตอนแรกเราก็สงสัยว่าทำไมคนกลุ่มนี้ถึงตัดสินใจได้ไม่เก่ง และนั่นก็คือ Perfectionist ด้วยความที่เป็นคนคิดทุกอย่างให้รอบคอบ หรือ มองทุกอย่างให้ดีที่สุด ทำให้คนกลุ่มนี้ใช้เวลาในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ช้า และคิดประเมินข้อดีข้อเสียต่างๆ มากมายตลอดเวลา
ทำให้การที่พวกเขาจะตัดสินใจอะไรทีนึงนั้น ใช้เวลานานและแอบเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาเหมือนกัน

 

ต่อมาเรามาเข้า Session ฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจ โดยผ่านกระบวนการตามนี้กันเถอะ

 

ฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจ

ข้อที่1. เลือกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจำเป็นต้องตัดสินใจไหม?

เอาละค่ะเรามาเริ่มที่ข้อแรกกันก่อน หากการตัดสินใจของเรานั้น ให้เราลองถามตัวเองว่า สิ่งที่อยู่ตรงหน้า หรือการตัดสินใจนี้เราจำเป็นต้องเลือกหรือตัดสินใจไหม? เพราะบางครั้งการตัดสินใจบางอย่าง เราไม่จำเป็นต้องเลือกมันก็ได้ ปล่อยให้ใครเลือกหรืออะไรผลลัพธ์ก็เหมือนกัน

ยกตัวอย่างเช่น เราถามคำในบ้านว่าวันนี้กินอะไร สมมติคำตอบที่ได้คือ อะไรก็ได้ งั้นจัดเลยค่ะ ร้านแรกที่ขึ้นในแอป เพราะสุดท้ายทุกคนบอกอะไรก็ได้ และสั่งอะไรมาสุดท้ายเราก็อิ่มท้องอยู่ดี หรือ เราอาจจะยกหน้าที่นี้ให้คุณพ่อเป็นคนช่วยเลือกก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเรื่องที่ต้องตัดสินใจไม่ได้มีผลต่อใครนั่นเอง

 

ข้อที่ 2. มองหาเป้าหมายหรือจุดมุ่งหมายของการตัดสินใจ

ข้อต่อมาอาจจะเริ่มมีกระบวนการคิดวิเคราะห์ที่มากขึ้นกว่าเดิมหน่อยนึงละ นั่นคือถามต่อจุดประสงค์ของการตัดสินใจนี้ ยกตัวอย่างในเวลาทำงาน หากใครที่เป็นระดับหัวหน้าหรือมีน้องเด็กที่ต้องดูแล มักจะต้องเจอปัญหานี้บ่อยๆ

นั่นก็คือการแบ่งงานให้กับคนในทีม ก่อนที่จะตัดสินใจว่างานใหม่นี้เราจะเอาไปให้ใคร เราอาจจะต้องถามตัวเองก่อนว่าเป้าหมายของการมอบหมายงานนี้ให้กับทีมคือ เช่นเป็นการเพิ่ม KPI หรือผลงานให้ทีม เป็นการแบ่งเบางานของคนที่ Overlode ให้กับคนที่ยังพอมี Slot ที่ว่างอยู่ หากเราหาเหตุผลเหล่านี้ได้แล้ว ก็ไปดูขั้นตอนต่อไปได้

 

ฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจ

ข้อที่ 3. รวบรวมข้อมูลหรือตัวเลือกที่มี

ในข้อนี้เราขอยกตัวอย่างเวลาไปเที่ยวต่างที่กับเพื่อนๆ สมมติบอกว่าไปญี่ปุ่น เมืองนี้ ในกลุ่มทริปเที่ยวก็จะต้องรวบรวมข้อมูลแล้วว่า โรงแรมหรือที่พักที่ใกล้ๆ เมืองนั้นมีที่ไหนบ้าง ราคาเท่าไร พักได้กี่คน ติดสถานีรถไฟไหม เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรยังไงบ้าง และก็ลิสต์มาว่ามีกี่ที่ใดๆ

 

ข้อที่ 4. ประมวลผลตัวเลือก และ ข้อมูลที่มี

สืบเนื่องจากข้อด้านบน เราก็ต้องนำข้อมูลที่พักที่ได้นั้น มาดูข้อดีข้อเสีย เปรียบเทียบราคา ของแต่ละที่ ดูสิ่งที่จะตอบโจทย์บุคคลที่เข้าพักแต่ละคน สมมติเดินทางไปกับครอบครัวมีคนสูงอายุด้วย จะให้เดินบันได 4 หรือ 5 ชั้นก็คงไม่ได้ ก็ต้องดูโรงแรมที่มีลิฟต์ต่างๆ ไม่เดินทางมาก สามารถเดินได้ สะดวกต่อการโยสารเป็นต้น

 

ฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจ

ข้อที่ 5. ประเมินและวิเคราะห์ ข้อดีข้อเสีย จากข้อมูลที่มี เทียบกับ เป้าหมาย

และนี่คือข้อสุดท้ายของการฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจ เมื่อเราประมวลสิ่งต่างจากข้อด้านบนเรียบร้อยแล้ว เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียใดๆ แล้วนั้น เราต้องนำข้อมูลเหล่านี้ไปเทียบกับเป้าหมายด้านบน และเลือกข้อที่ตอบโจทย์กลับไปที่เป้าหมายให้ดีที่สุด หรือตอบเป้าหมายได้ใกล้เคียงที่สุดนั่นเอง

 

และนี่คือ 5 ข้อฝึกตัวเองให้กล้าตัดสินใจ ตอนเราหาข้อมูลและเขียนบทความนี้ เวลาอ่านอาจจะงดูง่าย แต่เราเชื่อว่าทุกคนต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝน ลองเริ่มๆ ฝึกจะเป้าหมายเล็กๆ อย่างเรื่องอาหารการกินก่อนก็ได้ค่ะ และค่อยๆ เขยิบไปทีละนิด เราเชื่อสักเวลาผ่านไป เพื่อนๆ จะเป็นคนที่ตัดสินใจได้เร็วและถูกต้องที่สุดแน่นอน และพบกันใหม่บทความหน้า ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตรงนี้ค่า

 

Sources:

  • KND Studio

Photo Credits:

Comments

comments