เป็นกันบ้างไหมคะซิส ที่สระผมก็ออกจะบ่อย บางคนสระผมทุกวันด้วยซ้ำ แต่หัวก็ยังเหม็น บางทียังไม่ทันข้ามวันก็รู้สึกว่าผมเหม็นซะแล้ว ทำให้เสียเซลฟ์สุด ๆ ไปเลย เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า หัวเหม็นง่าย ทําไงดี ? มันเกิดจากอะไร แก้ไขยังไงกันนะ
หัวเหม็นง่าย ทําไงดี ?
น่ารำคาญใจมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ที่หลังจากสระผมไม่นาน ผมก็เริ่มส่งกลิ่นเหม็นอีกแล้ว แถมบางคนยังมีอาการคันยิบ ๆ ที่หนังศีรษะอีกต่างหาก และในบางคนก็เกิดอาการหัวเหนียว หัวมัน ทั้ง ๆ ที่เพิ่งสระผมไปไม่นาน จริง ๆ อาการแบบนี้ เขาเรียกว่า Smelly Hair Syndrome หรือ SHS คือ อาการที่หนังศีรษะมีกลิ่นเหม็น เพราะว่ามีเชื้อรา พวกยีสต์ และเชื้อแบคทีเรีย แต่ไม่ต้องตกใจค่ะ อาการนี้ไม่ถึงกับเป็นโรคหรอกนะ แต่เป็นภาวะผิดปกติของร่างกายนั่นเองค่ะ
การที่เราหัวเหม็นง่าย ผมเหม็นง่ายเนี่ย มันมาจากหลายสาเหตุนะคะ หลัก ๆ ก็คือ
1. ต่อมไขมันผลิตไขมันมากเกินไป – ต่อมไขมันที่ว่า คือต่อมไขมันที่อยู่ติดกับรากผม ก็เลยทำให้น้ำมันส่วนเกินไปติดกับรากผม ทำให้หนังศีรษะมัน และไปดูดกลิ่นจากอากาศ ทำให้ผมเหม็นง่ายกว่าปกติค่ะ
2. หนังศีรษะผลิตต่อมเหงื่อมากเกินไป – พอมีเหงื่อออกมาก เส้นผมและหนังศีรษะก็เกิดความอับชื้น ซึ่งนี่แหละค่ะ สาเหตุของกลิ่นเหม็นเลย
3. เส้นผมเล็กลีบ – คนที่ผมเส้นเล็ก ลีบแบน จะมีโอกาสที่หนังศีรษะและเส้นผมจะมันกว่าปกติ และความมันของเส้นผมนี่แหละค่ะ ก็จะเป็นตัวก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น
4. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง – ใครที่ไม่เคยผมเหม็นง่ายมาก่กอน แต่เพิ่งมามีอาการ อาจเกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงก็ได้ค่ะ ซึ่งฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงนี้ อาจจะเกิดจากภาวะความเครียด หรือภาวะแวดล้อมที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจ หรือจากการกินยาบางชนิด ที่ทำให้เกิดภาวะผมมัน และเกิดกลิ่นเหม็นตามมา ซึ่งในบางรายอาจเกิดสิวขึ้นมากกว่าปกติร่วมด้วยค่ะ
5. ผลข้างเคียงจากโรคเซ็บเดิร์ม – หรือที่เรียกอีกอย่างว่า อาการ “ผื่นผิวหนังอักเสบ” จะเกิดบริเวณที่มีผิวมันค่ะ ซึ่งคนที่เป็นโรคนี้ก็จะมักมีอาการอักเสบของหนังศีรษะด้วย และยิ่งถ้าซิสไปแกะหรือเกา อาจมีน้ำเหลืองเยิ้มจากการลุกลามติดเชื้ออีกต่างหาก ส่งกลิ่นเหม็นเลยทีเดียวค่ะ และถ้าไม่รีบรักษา หนังศีรษะก็จะเป็นสะเก็ดหนา จนนอกจากจะหัวเหม็นแล้ว ยังเกิดรังแค และผมร่วงอีกด้วยนะ
สังเกตตัวเองยังไงดี ว่ามีภาวะผมเหม็นง่าย ?
บางคนอาจจะคิดไปเองว่าผมเหม็นง่าย จากการไปกินหมูกระทะ หรือชาบู ใจเย็นก่อนนะยูว์ เพราะถ้าไปกินอาหารควันเยอะแบบนั้น ใคร ๆ ก็หัวเหม็นค่ะ ยังไงมาลองสังเกตตัวเองกันดูก่อนว่า มีอาการแบบนี้หรือเปล่า
1. ผมเหม็นเร็วมาก ไม่ทันข้ามวันก็เหม็น ทั้งที่เพิ่งสระ แถมยังเป่าจนแห้งสนิทดีแล้ว
2. ผมกลิ่นเหม็นอับ
3. สระผมตั้งหลายรอบ ก็ยังมีกลิ่นเหม็น ถึงจะใช้แชมพูสูตรกลิ่นหอม ผมก็ยังเหม็นอยู่ดี
4. กลิ่นเหม็นจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ติดผมนานเกินไป
5. ทุกสูตรที่ว่าดี ไม่ว่าจะสมุนไพร หรือของในครัว ลองมาหมดแล้ว แต่ผมก็ยังไม่หายเหม็น
คุณสมบัติของแชมพูยา ที่ควรเลือกใช้
หากมีอาการที่กล่าวมาข้างต้น ก่อนอื่นเลย ต้องใช้แชมพูยาค่ะ เพื่อบรรเทาอาการหนังศีรษะมัน หรือเชื้อราบนหนังศีรษะ โดยแชมพูที่ต้องเลือกใช้ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ค่ะ
1. มีฤทธิ์ในการขจัดเชื้อยีสต์ – ซึ่งตัวนี้จะใช้เมื่อมีอาการคันหนังศีรษะ คุณหมอบอกว่า เป็นวิธีการแก้ไขเบื้องต้นค่ะ
2. มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อยีสต์ และหยุดการลุกลามของเชื้อยีสต์ – ซึ่งคุณหมอบอกว่า แชมพูที่มีคุณสมบัตินี้ ควรมีฤทธิ์ควบคู่กับประสิทธิภาพในการยับยั้ง และกำจัดเชื้อแบคทีเรียด้วยค่ะ
3. มีส่วนผสมของ “Ketoconazole” – การเลือกใช้แชมพูยา ควรเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของ “Ketoconazole” (คีโตโคนาโซล) ซึ่งเป็นตัวยาที่ช่วยยับยั้ง และขจัดเชื้อราบนหนังศีรษะ ลดการลุกลามของอาการติดเชื้อ ที่เกิดจากการอักเสบและติดเชื้อบริเวณผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้อีกด้วยค่ะ
แก้หัวเหม็นด้วยตัวเอง
ถ้าซิสคิดว่า ความเหม็นของเส้นผม และหนังศีรษะของซิส ยังเป็นแค่ระยะเริ่มต้น จะลองดูแลตัวเอง และรักษาด้วยตัวเองก่อนก็ได้ค่ะ โดยวิธีการดูแลผมให้หอมขึ้น บอกเลยว่าไม่ยาก แต่ต้องใส่ใจสักหน่อย
1. สระผมให้บ่อยขึ้น – ใครที่สระผมทุกวัน แต่สระแค่ 1 รอบ ลองเพิ่มเป็นลงแชมพู 2 รอบ และใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน หรือเป็นแชมพูที่มีค่า pH อ่อน ๆ จะอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะค่ะ
2. เลี่ยงแชมพูเนื้อข้น – แชมพูเนื้อครีมเข้มข้น หรือแชมพูที่ผสมซิลิโคนเนี่ย งดได้งดค่ะ เพราะจะทำให้หนังศีรษะยิ่งผลิตน้ำมันออกมามาก และอาจอุดตันรูขุมขนบนหนังศีรษะด้วย ทางที่ดีเลือกใช้แชมพูเนื้อใส ๆ สูตรอ่อนโยน อย่างที่บอกไปข้างต้น จะดีที่สุดค่ะ
3. อย่าใช้ครีมนวดผมกับหนังศีรษะ – ก็บอกแล้ว ว่าหนังศีรษะมัน จะเป็นสาเหตุของผมเหม็น การใช้ครีมนวดใกล้ ๆ หนังศีรษะเนี่ย จะทำให้หนังศีรษะยิ่งมันง่าย เส้นผมลีบแบน แถมยังอุดตันด้วยนะ
4. เป่าผมให้แห้งสนิท – หลังสระผม ห้ามปล่อยให้ผมแห้งเองเด็ดขาด เพราะจะทำให้หนังศีรษะอับชื้น ควรใช้ไดร์เป่าผม เป่าผมให้แห้งสนิท ทั้งหนังศีรษะ และเส้นผม และเวลาผมเปียก ก็ควรเป่าให้แห้งทุกครั้ง แม้ไม่ได้สระผมนะคะ
5. หลีกเลี่ยงการอยู่ที่ที่อากาศร้อนจัด – พยายามเลี่ยง ถ้าเลี่ยงได้ เพราะที่ที่อากาศร้อน จะทำให้หนังศีรษะผลิตเหงื่อ ซึ่งเหงื่อจะทำให้หนังศีรษะอับชื้น และทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้ค่ะ
6. งดใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม – พวกสเปรย์ แว็กซ์ เจล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือออยล์ เพราะผลิตภัณฑ์พวกนี้ จะยิ่งเพิ่มความมันให้กับหนังศีรษะ และดูดจับกลิ่น และสิ่งสกปรกได้ง่าย
7. เปลี่ยนปลอกหมอน และผ้าเช็ดผมเป็นประจำ – เพราะทั้ง 2 สิ่งนี้ต้องสัมผัสกับผมเราโดยตรง และเป็นที่สะสมของเชื้อราและแบคทีเรียได้ง่าย จึงควรซักเปลี่ยนบ่อย ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อราค่ะ
รู้สาเหตุและทางแก้ไขกันแล้ว น้องซิสคนไหนเกิดปัญหาผมเหม็นง่าย หัวเหม็นไม่หาย ลองสังเกตตัวเองแล้วรีบรักษานะคะ ก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นโรคผิวหนัง ผมจะได้หอม ๆ ด้วย ซิสเป็นห่วงค่า
Cr. www.haircliniquebyslc.com , นายแพทย์ธาดา เปี่ยมพงศ์สานต์
Cr. Pictures from korean.neuefrisureen.club , thejewishlady.com , th.depositphotos.com , justlee.over-blog.com , www.flickr.com , jollybiglive.ru , inspireuplift17.ru ,
Stay connected