สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน ใครที่ติดตาม update ของซีรีส์เกาหลีหรือแม้กระทั่งเหล่า BLINK ทั้งหลายจะต้องเฝ้ารอและติดตามซีรีส์ที่เรียกได้ว่า เป็นข่าวและกระแสตั้งแต่ตัวซีรีส์เองยังไม่ฉายเลยก็ว่าได้กับ ซีรีส์ Snowdrop วันนี้ Clubsister จะมาตีแผ่ว่าทำไมกันนะซีรีส์เรื่องนี้ที่คาดว่าน่าจะออกมาดีแต่กลับกระแสดราม่าหนักมาก รวมถึงมาดูกันว่าเหตุการร์ในประวัติศาสตร์จริงเกี่ยวข้องอย่างไรกับซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ
วิเคราะห์พร้อมบอกเล่าเหตุการณ์จริงจาก “ซีรีส์ Snowdrop”
เรื่องย่อและที่มา:
Snowdrop เป็นผลงานการประพันธ์ของ ยูฮยอนมี ซึ่งเธอได้รับแรงบันดาลใจมาจากบันทึกชีวิตผู้แปรภักต์ชาวเกาหลีเหนือในค่ายกักกันการเมือง นอกจากนั้นเธอเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยหญิงอีฮวาซึ่งเป็นมหาวิทยาลัย ที่เดินเรื่องการประท้วงอิสรภาพทางการเมือง นอกจากนั้นเธอบ้านเกิดเธอยังอยู่ที่เมืองควังจูง เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องที่มาของเหตุกาณ์หน้าสลดที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง 18 May ของประเทศเกาหลี
ซีรีส์ Snowdrop นี้เป็นซีรีส์ที่พูดถึง เหตุการณ์เกิดในปี 1987 ซึ่งเป็นช่วงที่เกาหลีใต้กำลังประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างการเลือกตั้งโดยชอบธรรมจากเสียงของประชาชน อึนยองโร นักศึกษาสาวคณะวรรณคดี เธอมีฐานะทางบ้านยากจนอีกทั้งมีภูมิหลังที่ไม่ดีจากการที่พี่ชายของเธอเดินประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิแต่กลับถูกทางการจับตัวไปเป็นทหารเกณฑ์โดยไม่ได้สมัครใจ ทำให้เธอต้องพลัดพลากจากพี่ชายที่เธอรัก
ในวันหนึ่งเพื่อนๆ ในห้องของเธอได้ถูกเรียกนัดบอด Blind Date จนทำให้เธอพบเจอกับ อิมซูโฮ นักศึกษาปริญญาโทจากเบอร์ลิน ที่กลับเข้ามาทำวิยานิพนธ์ต่อที่เกาหลีใต้ เธอตกหลุมรักเขาในแรกเจอ แต่ทว่าในคืนเดียวกันหอพักของเธอกลับถูกบุกรุกโดยชายนิรนาม ทำให้เรื่องวุ่นวายไปใหญ่ แต่ทว่าเหตุการณ์นี้กลับยิ่งยุ่งยากเป็นทวีคูณ เพราะว่าชายที่หลบหนีและได้รับบาดเจ็บนั้นคือ ชายคนที่ยองโรตกหลุมรัก ด้วยเหตุนี้ทำให้ยองโรเข้าใจว่า ซูโฮ คือคนที่ทางการต้องการตัวเพราะหนีการจับกุมด้วยเหตุประท้วง
แนะนำตัวละครสำคัญ:
ตัวละครสำคัญและคาดว่าน่าจะสำคัญใน Snowdrop มีดังต่อไปนี้
ตัวละครที่ 1: อึนยองโร แสดงโดย คิม จีซู
นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยสตรีโฮซู คณะวรรณคดี เธอมีฐานะทางบ้านยากจนอีกทั้งมีภูมิหลังที่ไม่ดีจากการที่พี่ชายของเธอเดินประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิแต่กลับถูกทางการจับตัวไปเป็นทหารเกณฑ์โดยไม่ได้สมัครใจ ทำให้เธอต้องพลัดพลากจากพี่ชายที่เธอรัก นอกจากนี้เธอยังตกหลุมรัก อิม ซูโฮ สายลับจากเกาหลีเหนือและได้ช่วยเหลือเขาในการหลบหนีทางการโดยไม่ตั้งใจอีกด้วย
ตัวละครที่ 2: อิมซูโฮ แสดงโดย จองแฮอิน
ทหารหนุ่มเกาหลีเหนือที่แอบแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับในเกาหลีใต้ โดยแอบอ้างประวัติว่าเป็นนักเรียนปริญญาโทจากกรุงเบอร์ลิน แต่ต้องกลับมาทำวิทยานิพนธ์ต่อในช่วงก่อนจบ
แต่ทว่าในขณะที่เขากำลังทำภารกิจอยู่นั้น ได้รับบาดเจ็บอีกทั้งยังต้องหลบหนีจากทางการเกาหลีใต้ ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาหลบหนีเข้ามาในหอพักนักศึกษาและได้รับการช่วยเหลือจากยองโร
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง:
ถ้ามองจากเนื้อเรื่อง Snowdrop แล้ว คนดูก็คงพอเดาได้ว่าเป็นซีรีส์ ที่เสียดสีและสะท้อนให้เห็นในแง่ระบบการเมืองการปกครอง ไม่เพียงแค่นั้นยังสะท้อนให้เห็นการปิดกั้นและการริดรอนสิทธิของเยาวชนในการเข้าถึงระบอบการเมือง หรือแม้กระทั่งการออกปากออกเสียงในแง่สิทธิของตนเองที่พึงมีด้วยเช่นกัน
เหตุการณ์เหล่านี้จะอยู่ในช่วง 1987 ซึ่งเป็นช่วงที่เมืองควังจูเกิดเหตุการณ์ 18 May โดยเหตุการณ์นี้ได้บอกเล่าเรื่องการเรียกร้องการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยที่มาจากเสียงของประชาชน ซึ่งการเรียกร้องสิทธิเหล่านี้มีมาไม่ต่ำกว่า 20 ปี แต่ทว่า หนักข้อขึ้นในปี 1987 ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเรียกได้ว่าคือ “การสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่า 200 คนในเวลาเดียว” (ตามรายงานของทางการแจ้งว่า 200 คน แต่บางคนกล่าวว่าแท้จริงแล้วมีจำนวน 2,000 คน)
เหตุการณ์นี้ได้ถูกจารึกไว้ ในอนุสรณ์สถานที่เมืองควังจู โดยเรียกการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหาร ที่ประจัญหน้าด้วยอาวุธปืน และกระหน่ำใส่ผู้ชุมนุมเหล่านั้นว่า “การปราบจลาจลที่เป็นภัยต่อความมั่นคง” มิหนำซ้ำประชาชนส่วนใหญ่ ที่อยู่ในสถานที่ชุมนุมและเข้าร่วมชุมนุมนั้น ล้วนเป็นนักศึกษาทั้งสิ้น นอกเหนือจากเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่า เป็นฝันร้ายที่ประชาชนเกาหลีใต้ไม่อาจลบเลือนได้นั้น ยังมีเพลงประกอบซีรีส์อย่าง Sola blue Sola ซึ่งเป็นฉากใน EP2 พระเอกของเรากำลังวิ่งหนีการไล่ล่าของตำรวจ ผ่านผู้ชุมนุมที่กำลังร้องเพลงนี้อยู่ โดยเพลงนี้ความหมายพูดถึงอิสรภาพ และได้ถูกนำไปใช้การเรียกร้องสิทธิประชาธิปไตยในเหตุการณ์จริงอีกด้วย
นอกเหนือจากเหตุการณ์จริงที่ถูกอ้างอิงแล้วนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นจุดอ่อนที่สำคัญ ที่ทำให้กระแสความดัง และความดราม่าของเรื่องนี้หนักข้อขึ้น คงหนีไม่พ้นการบิดเบือนประวัติศาสตร์ ความเป็นจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งของทหาร, ตำรวจ, นักการเมือง, ฝั่งเกาหลีใต้, เกาหลีเหนือ รวมถึงนื้อหาบางอย่าง ที่ไม่สอดคล้องต่อความเป็นจริง ไม่เพียงแค่นั้นตัวละครเอก ยังเป็นสายลับเกาหลีเหนือ คู่อริของเกาหลีใต้อีกด้วย จากเหตุการณ์อันน่าสลดใจ เนื้อหาที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเหตุการณ์จริง
รวมถึงการนำตัวละครที่เหมือนไม้เบื่อไม้เมา มายกให้เป็นตัวหลัก องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้เกิดกระแสดราม่า มีผู้ลงนามคัดค้านการฉายซีรีส์ Snowdrop เรื่องนี้สูงถึง 300,000 คนในระยะเวลา 1 สัปดาห์เลยทีเดียว
รีวิวความรู้สึกหลังรับชม ซีรีส์ Snowdrop :
ส่วนตัวเราต้องออกปากก่อนว่าเราไม่ใช่ BLINK หรือแฟนคลับคอเคซีรีส์แต่อย่างใด แต่เมื่อได้ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว สำหรับเราขอชมเชยการแสดงและการรับส่งอารมณ์ของเรื่องของพี่จีซูเสียซักหน่อย สำหรับเราคนที่เป็นนักร้อง และต้องทำการเล่นซีรีส์เรื่องแรก แต่ทำได้ขนาดนี้ บอกได้เลยว่ามันคือพรสวรรค์ และอาศัยความพยายามเป็นอย่างมากแน่นอน
นอกจากความประทับใจในการแสดงของจีซูแล้ว เราชื่นชอบองค์ประกอบศิลป์ของซีรีส์เรื่องนี้ ที่เน้นเทคนิคแบบ symmetric เสียส่วนใหญ่ จะเห็นได้ว่ามุมกล้องส่วนมาก มักเน้นวัตุหรือบุคคลให้อยู่ตรงกลาง เน้นสีแดง ที่ให้สัญลักษณ์ถึงความอันตรายและร้อนแรง แถมยังเป็นสิ่งที่เป็นจุดสังเกตของสายตา ได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากเรื่องมุมกล้องแล้ว การใช้สีก็ยังทำได้ดีเยี่ยม แต่ที่ชื่นชอบไปกว่านั้น และที่สุดของเรื่องนี้คงหนีไม่พ้น การเสียดสีสังคมและระบอบการเมือง ที่ทำให้นึกถึงประเทศที่คุ้นเคยอย่างไหงอย่างงั้น การกระทำของทางการ ที่ต่อต้านผู้ชุมนุมและป้ายสีสิทธิของประชาชน ด้วยการมองว่าการเรียกร้องสิทธิ คือเรื่องอันตราย ทั้งนี้เป็นเสียงของส่วนรวม การกระทำความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ ที่มีต่อผู้บริสุทธิ์ ไม่เพียงแค่นั้นยังนำเอาเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่า Sensitive เหล่านี้มาพูดถึงให้เราได้เห็นกัน
Sources:
Photo Credits:
Stay connected