สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน เมื่อต้นเดือนกุมภาฯ ที่ผ่าน Netflix เหมือนกลับมาเอาใจแฟน ๆ สายเกาหลีอีกครั้ง กับการลงหนังและซีรีส์เกาหลีใหม่ บน Streaming แบบมาไม่หยุด และเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เรียกได้ว่ามีคนรอคอยไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างนี้ Clubsister จะพลาดได้ยังไง กับ “รีวิว Love and Leashes บน Netflix ว่าด้วยเรื่องรสนิยมทางเพศและความสัมพันธ์ในออฟฟิศ” ความเผ็ช ความแซ่บจะระดับไหน ยั่วมากพอหรือไม่ ไปรออ่านกันเลยค่า
ห้ามพลาด! รีวิว Love and Leashes บน Netflix
ว่าด้วยเรื่องรสนิยมทางเพศและความสัมพันธ์ในออฟฟิศ
Movie: Love and Leashes
Watch Now: Netflix (คลิกเพื่อรับชม)
คะแนนที่ได้จาก iMDB: 6.5 / 10
เรื่องย่อและที่มา:
Photo Credit: https://www.kpopmap.com/love-and-leashes-2022-netflix-movie-cast-summary/
ก่อนที่จะเข้าตัวรีวิว Love and Leashes ซีรีส์เกาหลีน้องใหม่บน Netflix นั้น เราจะเล่าถึงเรื่องย่อและที่มากว่าจะมาเป็นหนังเรื่องนี้กันซักหน่อย Love and Leashes โดยแปลเป็นชื่อหนังแบบภาษาไทยคือ “รักจูงรัก” เป็นภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีจาก Origitnal Netflix ที่ถูกดัดแปลง
มาจาก Webtoon หรือ Website Cartoon Online ชื่อดัง โดยบน Webtoon นั้นชื่อเดียวกัน
ทั้งนี้เป็นเรื่องราวที่สะท้อนและพูดถึงรสนิยมทางเพศ sinv sexual orientation ในแบบ BDSM รวมถึงสะท้อนทัศนคติและค่านิยมเรื่องความสัมพันธ์ในที่ทำงานเดียวกันของคนเกาหลีอีกด้วย
Photo Credit: https://kstationtv.com/?attachment_id=279595&lang=en
หากพูดถึงรสนิยมทางเพศแบบ BDSM นั้นเรามั่นใจ 50% ของผู้อ่านบทความนี้อาจจะเคยได้ยิน และ อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร เป็นตัวอักษรย่อมาจากคำว่าอะไร ทำไมถึงใช้คำย่อแบบนี้ งั้นเราขออธิบายคำว่า BDSM ก่อนที่จะไปเล่าถึงส่วนต่างๆ ของหนังกันค่ะ คำว่า BDSM นั้นย่อมาจากคำทั้งหมด 4 คำ
Bondage แปลว่า พันธนาการ หรือ มัด, Discipline แปลว่า การลงโทษ หรือ บทลงโทษ, Sadism แปลว่า การมีความสุขหรือรู้สึกดีจากการทำร้ายหรือสร้างความเจ็บป่วยให้แก่ผู้อื่น และ Masochism แปลว่า การมีความสุขหรือรู้สึกดีจากการถูกผู้อื่นทำให้เจ็บปวด ซึ่งรสนิยม BDSM นี้เราอาจจะคุ้นมาจากหนัง Erotic ชื่อดังอย่าง Fifty Shades of Grey
โดยเป็นการมีเซ็กส์กับคู่ โดยการ มัด, ขึง, ผูก, เฆี่ยน, ตี, รนไฟ หรือการเล่นกับคู่เป็น ผู้บัญชาการ และ ผู้รับใช้ ซึ่งการเล่นแบบนี้จะเรียกว่า Play หรือ กิจกรรมแบบ Kinky ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความยินยอมทั้งฝ่าย อีกทั้งต้องมีการระบุกฏอย่างตายตัวเพื่อความสนุกและความปลอดภัยกับผู้เล่นทั้ง 2 ด้วยเช่นกัน
และเบื้องต้นเราขอแนะนำตัวละครสำคัญและตัวละครหลักก่อนที่จะเข้าบทความ รีวิว Love and Leashes กันก่อน
ตัวละครที่ 1: อีจุนยอง รับบทโดย จองจีฮู
Photo Credit: https://meaww.com/love-and-leashes-5-things-you-dont-lnow-about-joon-young-lee-561401
เป็นอีกหนึ่งพระเอกบนซีรีส์ Netflix ที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่ง โดยครั้งนี้ อีจุนยอง ต้องมารับเป็น จองจีฮู รองผู้จัดการหนุ่มไฟแรงแผนกประชาสัมพันธ์และการตลาด ที่ถูกย้ายแผนกมาจากแผนกธุรกิจ เขาเป็นคนที่คนรอบข้างรักและเอ็นดู โดยเฉพาะพนักงานผู้หญิง
ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร พูดจาอ่อนน้อม อีกทั้งยังเป็นคนยิ้มเก่ง และหัวดี ทำให้เป็นที่น่าจับตามอง รวมไปถึงนางเอกของเราด้วย แต่ทว่าภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและหล่อเหลานี้เขาแบกปมความรักอันน่าเจ็บปวดและฝังใจเอาไว้
ตัวละครที่ 2: จุงจีวู รับบทโดย ซอฮยอน
Photo Credit: https://kstationtv.com/?attachment_id=279589&lang=en
พนักงานสาวแผนกประชาสัมพันธ์และการตลาด ผู้ซึ่งมีหน้าตาสละสวย ทำงานเก่ง ฉลาด และระเบียบจัดแบบสุด เธอเป็นคนที่เรียกได้ว่าเพื่อนๆ รุ่นน้อง รุ่นพี่ และพนักงานด้วยกัน ต่างคิดว่าเธอดุ และ น่าเกรงขาม ด้วยบุคลิกที่ไม่ค่อยยิ้ม และสายตาที่ดูเย็นชาแบบสุดๆ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็เป็นหญิงสาวธรรมดาที่อยากมีใครซักคน ที่รับในตัวตนของเธอได้
รีวิว Love and Leashes พร้อมแสดงความคิดเห็น:
Photo Credit: https://netflixlife.com/2022/02/08/what-time-is-love-and-leashes-coming-to-netflix/
ส่วนแรกเราขอมองในแบบภาพรวมของเรื่องก่อน ส่วนตัวเราคิดว่า เนื้อเรื่องดำเนินไปได้เรื่อยๆ ไม่ได้ชวนดึงดูดหรือน่าติดตามไปตลอดทั้งเรื่องขนาดนั้น มีบางช่วงที่เนือยๆ ฉาก 18+ ไม่ได้สุด นี่แอบคิดว่า 18+ จริงๆ หรอ? ให้ Rate 15+ ก็น่าจะพอ แต่ทว่าหากเจาะลึกลงไปในตัวของแก่นเรื่อง หรือสิ่งที่หนังต้องการสะท้อนให้คนดูได้รู้นั้น เราให้ 8 / 10 เลย เบื้องต้นเราขอแตกประเด็นที่หนังต้องการจะสื่อออกมาเป็น 3 หัวข้อ
ในส่วนแรกคือเรื่องการแสดงออกของรสนิยมทางเพศ เราเชื่อว่าทุกความชอบในชีวิตของคนเรา มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะด้วยเรื่องสไตล์การแต่งตัว รสชาตอาหาร หรือแม้กระทั่งเรื่องบนเตียง คนเราย่อมมีความแตกต่างและเหมือนกัน ในเรื่องนี้ พระเอกของเรามีความรสนิยมทางเพศ ที่ชื่นชอบในเรื่อง BDSM โดยพระเอกเป็นฝั่งรับบทเป็นทาสและชอบถูกกระทำ เขาจะรู้สึกมีอารมณ์และรู้สึกฟินทุกครั้งที่ได้โดยออกคำสั่ง และ ถูกทำให้เจ็บปวดไม่ว่าจะทางกายหรือวาจา
Photo Credit: https://thematter.co/thinkers/love-and-leashes/168085
แต่ถึงแม้โลกของเราจะหมุนไปเร็วและไกลแค่ไหน การแสดงออกเรื่องแบบนี้ไม่ได้เป็นที่ยอมรับกันเสียเท่าไร กลุ่มคนที่ชื่นชอบ BDSM มักถูกมองว่าเป็นคนโรคจิตอยู่เสมอ ดังนั้นทำให้พระเอกของเราไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับใคร จนกระทั่งมาเจอกับนางเอก
พอมาในด้านของนางเอกกันบ้าง เธอเป็นหญิงสาวที่เรียกได้ว่า เก่งจนจะขึ้นคาน ทำให้เธอห่างเหินเรื่องความสัมพันธ์และความรีกมานาน แต่ทว่าเมื่อเธอมาเจอกับพระเอกแล้ว เหมือนเธอได้เปิดโลกใหม่อีกครั้ง ได้เริ่มเรียนรู้ความชอบและรสนิยมที่เธอรู้สึกว่ามันท้ายทายและเป็นเรื่องสนุกสำหรับเธอ
Photo Credit: https://koreaherald.com/view.php?ud=20220208000776
ส่วนที่สองที่หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เราเห็นกันอยู่เรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง คือเรื่องการแสดงออกทางความสัมพันธ์ของคนในองค์กร เรามักจะได้ยินบางบริษัทมีกฏที่ว่า ห้ามเป็นแฟนกันในองค์กร หรือ ห้ามคบหาดูใจกัน เป็นต้น
ส่วนตัวมองว่า หากคิดในแง่การบริหารองค์กรนั้น เมื่อเวลาทั้ง 2 คนมีปัญหาซึ่งกันและกัน อาจทำให้เกิดความบาดหมางจนกระทบต่อเนื้องานได้ แต่หากมองในแง่ ทัศนคติ เราคิดว่าคนเอเชียมักมีความคิดที่ว่าไม่เหมาะสม และไม่ควรเปิดเผย ด้วยเหตุนี้ทำให้เรามักเห็นการหลบๆ ซ่อนๆ การ Play และความสนิทของทั้งพระเอกและนางเอกอยู่ตลอดเวลา
ส่วนสุดท้ายของการรีวิว Love and Leashes บทสรุปเรื่องการยอมรับ พูดง่ายๆ เลยก็คือ หนังเรื่องนี้ต้องการสะท้อนใจกลางความสำคัญของการมีควาสมสัมพันธ์กับใครก็ตาม นั่นก็คือ “กาารยอมรับในตัวตน” ของอีกฝ่าย ไม่ใช่แค่ในแง่คนรักหรือคนในครอบครัว แต่รวมไปถึง ความสัมพันธ์แบบเพื่อน ความสัมพันธ์ในแบบที่ทำงาน และอื่นๆ อีก หากเราต้องการเปิดรับใครซักคนเข้ามาในชีวิต อย่างแรกที่ควรกระทำเลยคือการ ยอมรับตัวตนของกันและกัน นั่นเอง
Stay connected