เดือนแรกของปีแบบนี้ ขอเติมความสดใสให้ชีวิตกันหน่อยดีกว่า
เทรนด์ สีผมพาสเทล ไม่เคยตกยุคจริง ๆ นะคะ วันนี้น้องซิสขอหยิบเอา
เจ้าแม่วงการเมคอัพเกาหลี อย่าง Pony Syndrome มาเป็นเรฟในการทำสีผม
ครั้งต่อไปสำหรับสาว ๆ กันนะคะ ใคร work from home เบื่อ ๆ อยากจะ
ลุคขึ้นมาเปลี่ยนสไตล์ตัวเอง การเปลี่ยนสีผมก็เป็นวิธีที่จะเปลี่ยนสไตล์
ให้ตัวเองเป็นคนละคนเลยนะ
ก่อนที่จะลงสีผมได้ ผมเราจะต้องผ่านการฟอกสีก่อนนะคะ สำหรับคนที่ผมสีเข้ม
ไม่อย่างนั้น สีผมที่ทำได้ก็จะไม่ออกมาพาสเทลเหมือนกับที่ตั้งใจเอาไว้
สิ่งที่ควรรู้อย่างแรกก่อนจะทำการฟอกสีผม คือการรู้จักสภาพผมของตัวเองค่ะ
เช็คชัวร์ก่อนว่าผมของเราพร้อมรับกับสารเคมีรึเปล่า เพราะอาจะจะต้อง
ฟอกสีกันสองถึงสามรอบเลยทีเดียว ถ้าเกิดว่าประเมินเองไม่ตก กลัวเข้าข้างตัวเอง
น้องซิสแนะนำว่าเข้าร้านให้ช่างทำผมประเมินสภาพผมตัวเองก่อน
ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกันค่ะ
การฟอกสีผม สามารถทำที่ร้านทำผม หรือทำที่บ้านก็ได้ค่ะ เพียงแค่สาว ๆ
รู้จักสภาพผมของตัวเองและเลือก ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ( 6% , 9% , 12% )
ให้ถูกกับสภาพเส้นผมกับของตัวเอง การฟอกสีผมครั้งแรก อาจจะ
ยังไม่ออกมาขาวเลย จะออกเป็นสีส้ม ๆ เหลือง ๆ ก่อน อาจจะต้องฟอกเพิ่ม
2-3 รอบ เพื่อให้ได้สีผมอ่อนตามที่ต้องการ
ผมสั้นก็พาสเทลได้ สดใส ช่วยให้หน้าเด็กลงมากเลยค่ะ
โทน purple / violet / lilac เป็นโทนสีที่ทำออกมาแล้วสวยปังม๊าก
หรือจะไล่สีชมพูม่วง เทาม่วง ก็สวยไม่แพ้กันนะคะ
หรือจะดิปสีปลายผม ด้วยสีฟ้าน้ำทะเลโทน ocean ก็ดูดีมากค่ะ
จับช่อทำสลับสีกับก็เกร๋ไปอีกแบบค่ะ
โทนสีชมพู rose / flamingo / lemonade เป็นสีที่ทำได้ทั้งผมยาว ผมสั้น
ทำได้ตลอดไม่ตกเทรนด์ สวยอยู่ตลอดเวลา
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับ สีผมพาสเทล ที่น้องซิสเอามาฝากกัน สามารถ
เอามาเป็นเรฟฯ ในการน้อมผมได้ทั้งปีเล้ย >_< แน่นอน ว่าหลังจาก ผ่านการ ฟอกสีผม
และ ทำสีผม สุขภาพผม ของเรา ก็จะ อ่อนแอ ลง ดังนั้น เราจะต้อง ดูแลผม
มากกว่าคนปกติถึง 2-3 เท่าเลยนะคะ อย่าลืมใช้ทรีตเม้นต์ควบคู่ไปกับ
การสระผม อย่างสม่ำเสมอ จะเป็นการ ฟื้นฟู และ เติมเต็ม สารบำรุง ในส่วนที่เสียหายไป
และความร้อนจะเป็นตัวอันตรายมากที่สุดกับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการหนีบ
ดัดลอน พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมโดยตรง
ควรใช้ เอสเซ้น บำรุงผมควบคู่ไปด้วย ก็จะทำให้ผม พัง น้อยลง
ปังมากขึ้น และ สีผม ติดทน มากขึ้นด้วยค่า
Stay connected