หลายคนอาจจะมีเรื่องสงสัยเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ ฉีดฟิลเลอร์คาง กันอยู่ไม่น้อย เพราะมีข่าวมากมายให้เห็นกันอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน เกิดการอักเสบเป็นหนอง ติดเชื้อ ฉีดฟิลเลอร์แล้วคางเบี้ยว หรือฟิลเลอร์ไหล วันนี้เราจะพาเพื่อนๆมาทำความเข้าใจและคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คาง เช่น การฉีดฟิลเลอร์คางอยู่ได้กี่เดือน มีความเสี่ยงและเป็นอันตรายหรือไม่ หากพร้อมแล้วทำความเข้าใจไปพร้อมๆกันเลยค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์คาง

ฉีดฟิลเลอร์คาง แก้คางสั้นให้คางเรียวยาวขึ้น หลังฉีดอยู่ได้นานไหม

 

ทำความรู้จักฟิลเลอร์คาง?

การฉีดฟิลเลอร์คางคือ การเสริมคางที่สะดวกรวดเร็ว ด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid แท้ 100% จะมีปลอดภัยสูง  และได้รับความนิยมจากวงการแพทย์เพื่อนำมาใช้ทางด้านความงาม โดยทำการฉีดที่บริเวณชั้นเนื้อเยื่อหุ้มตรงบริเวณส่วนกระดูก เพื่อช่วยต่อกระดูเสริมคางให้ยาวขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ ช่วยปรับรูปทรงของใบหน้าให้ดูสมมาตร 


ฟิลเลอร์คางช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ช่วยสำหรับคนที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางไม่เท่ากัน หรือช่วยแก้ปัญหาผิวคางไม่เรียบเนียนได้อย่างทันทีหลังทำ แต่ในการฉีดฟิลเลอร์คางนั้นจะสามารถช่วยเพิ่มความยาวของคางได้เพียงแค่ 1 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งหากคนไข้ต้องการเพิ่มมากกว่านี้อาจจะต้องเลือกใช้วิธีการผ่าตัดเสริมซิลิโคนแทน

ฉีดฟิลเลอร์คาง


Golden Ratio คืออะไร ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยได้จริงไหม

Golden Ratio หรือสัดส่วนทองคำของใบหน้าแบบ 1:1:1 ที่ประกอบไปด้วย 3 ส่วนประกอบ คือ ใบหน้าส่วนบนตั้งแต่ไรผมถึงหัวคิ้ว, ใบหน้าส่วนตรงกลางตั้งแต่คิ้วจนถึงปลายจมูก และใบหน้าส่วนล่างแต่ปลายจมูกถึงปลายคาง ใครที่มีสัดส่วนของใบหน้าส่วนล่างสั้นกว่าสัดส่วนทองคำ การฉีดฟิลเลอร์คางก็จะช่วยปรับรูปหน้าให้มีความสมส่วนมากขึ้นได้


  ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง

 ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง

         เห็นผลได้ทันทีหลังฉีด

          เห็นผลนานโดยอายุของการฉีดฟิลเลอร์คางนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 12-18 เดือน

          มีผลข้างเคียงที่น้อย เช่น อาการบวมแดง มีรอยช้ำจากเข็ม ซึ่งในบางรายอาจไม่มีผลข้างเคียงเลยก็ได้

          มีความปลอดภัยสูง เพราะฟิลเลอร์ของแท้ได้มีการรองรับความปลอดภัยจากทั้ง US FDA และ TH FDA แล้ว รวมถึงยังมีงานวิจัยรองรับอีกหลายตัว

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง

          ไม่สามารถเห็นได้อย่างถาวร

          สามารถเพิ่มความยาวของคางได้เพียงแค่ 1 เซนติเมตรเท่านั้น

          หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือผู้แอบอ้างเป็นแพทย์ก็อาจเกิดอันตรายหรือเกิดปัญหาคางบิดเบี้ยวได้

          หากเลือกฉีดด้วยฟิลเลอร์ปลอมอาจเสี่ยงต่อการอักเสบ แพ้ระคายเคืองได้


ฉีดฟิลเลอร์คางควรเลือกยี่ห้อไหนดี

ถ้าจะให้พูดถึงยี่ห้อของฟิลเลอร์ก็ต้องบอกเลยว่าทั้งกว้างและเยอะมากๆ เพราะในปี 2023 มียี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่ายอย. ไทยแล้วทั้งหมด 9 ยี่ห้อตามนี้

  1.     Juvederm (ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา) ผลิตจากเทคโนโลยี Vycross เนื้อฟิลเลอร์จึงมีความอิ่มฟู และสามารถช่วยในเรื่องของการยกกระชับได้ ซึ่งรุ่นที่เหมาะกับการฉีดคางคือ

–        Juvederm Voluma ระยะเวลาการเห็นผล 18 เดือน

–        Juvederm Volux ระยะเวลาการเห็นผล 18-24 เดือน

  1.     Restylane (ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน) ผลิตจากเทคโนโลยี NASHA และ OBT ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มี ความบริสุทธิ์สูง และช่วยกักเก็บน้ำในผิวได้ดี ให้ผลที่ดูธรรมชาติ ซึ่งรุ่นที่เหมาะกับการฉีดคางคือ

–        Restylane Lyft Lidocaine ระยะเวลาการเห็นผล 12 เดือน

  1.     Belotero (ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์) ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM  (Cohesive Polydensified Matrix) เนื้อฟิลเลอร์จึงมีความยืดหยุ่นและหนาแน่น ฉีดแล้วให้ผลดูเป็นธรรมชาติ มีโอกาสเป็นก้อนได้น้อยมากๆ ซึ่งรุ่นที่เหมาะกับการฉีดคางคือ

–        Belotero Intense ระยะเวลาการเห็นผล 18 เดือน

  1.     Revanesse (ฟิลเลอร์จากประเทศแคนาดา) ด้วยเทคโนโลยีการผลิต Thixofix technology ทำให้ตัว HA มีโมเลกุลที่ยืดหยุ่น ยึดติดกับผิวได้ดี ซึ่งรุ่นที่เหมาะกับการฉีดคางคือ

–        Revanesse  Ultra + ระยะเวลาการเห็นผล 6-12 เดือน

  1.     Perfectha (ฟิลเลอร์จากประเทศฝรั่งเศส) เป็นที่ใช้ E-Brid Technology เนื้อฟิลเลอร์จึงมีความยืดหยุ่นทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งรุ่นที่เหมาะกับการฉีดคางคือ

–        Perfectha Subskin ระยะเวลาการเห็นผล 12-18 เดือน

–        Perfectha Deep ระยะเวลาการเห็นผล 8-12 เดือน

  1.     Definisse (ฟิลเลอร์จากประเทศอิตาลี) ผลิตจากเทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ทำให้เนื้อฟิลเลอร์สามารถยึดเกาะและพยุงผิวได้ดี รุ่นที่เหมาะกับการฉีดคางคือ

–        Definisse  Core ระยะเวลาการเห็นผล 18 เดือน

  1.     Neuramis (ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี) เป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานจากทั้งอมเริกา ไทยและเกาหลีใต้ จุดเด่นคคือมีราคาที่ถูก รุ่นที่เหมาะกับการฉีดคางคือ

–        Neuramis Deep ระยะเวลาการเห็นผล 6-12 เดือน

–        Neuramis Deep Lidocaine ระยะเวลาการเห็นผล 6-12 เดือน

–        Neuramis Volume Lidocaine ระยะเวลาการเห็นผล 6-12 เดือน

  1.     E.P.T.Q. (ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี) ใช้เทคโนโลยี 2CM Technology (2 Crosslinking Method) ในการผลิตทำให้ฟิลเลอร์มีความละเอียด และมีโมเลกุลที่แน่น รุ่นที่เหมาะกับการฉีดคางคือ

–        E.P.T.Q. S 500 ระยะเวลาการเห็นผล 12 เดือน

  1.     Yvoire (ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี) พัฒนาจากเทคโนโลยี HICE Cross-link ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติยึดเกาะแน่นและให้ผิวสัมผัสที่เรียบเนียน รุ่นที่เหมาะกับการฉีดคางคือ

–        Yvoire Contour Plus ระยะเวลาการเห็นผล 12-18 เดือน

 

ฉีดฟิลเลอร์คาง


ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานกี่เดือน?

โดยตามปกติหลังฉีดฟิลเลอร์คางจะสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ โดยแพทย์จะมีการประเมินและแนะนำการฉีดฟิลเลอร์คางให้ตามความเหมาะสมของรูปคาง 

สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมต่อได้ที่ : ฉีดฟิลเลอร์คางครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง อยู่ได้กี่เดือน เจ็บไหม ราคาเท่าไหร่?


วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ของแท้

          มีฉลากภาษาไทยกำกับ

          มีการระบุราคา วันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุอย่างชัดเจน

          มีการระบุเลขลอตที่ผลิตอยู่ที่ขวดและบนกล่อง ซึ่งทั้งสองจุดจะต้องเป็นเลขเดียวกัน

          ในบางยี่ห้อจะมีการติดสติกเกอร์คิวอาร์โค้ดเพื่อที่สามารถสแกนไปยังหน้าเว็บไซต์ของฟิลเลอร์เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้


เปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์คางกับการผ่าตัดเสริมคาง

การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นการเสริมคางให้ยาวขึ้นทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัดจึงไม่ต้องพักฟื้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่ผลลัพธ์ถาวร  และไม่สามารถเพิ่มความยาวของคางได้เกิน 1 เซนติเมตร ส่วนการผ่าตัดเสริมคางเป็นการเปลี่ยนรูปคางด้วยการผ่าตัดเสริมซิลิโคนเข้าไปที่บริเวณคาง ให้ผลลัพธ์แบบถาวร แต่มีกระบวนการที่เสี่ยงกว่าและทำได้ยากกว่า จึงจำเป็นต้องมีการพักฟื้นและต้องดูแลแผลอย่างถูกต้อง ซึ่งหากทำแล้วไม่ชอบต้องทำการผ่าตัดเพื่อแก้ไขใหม่อีกครั้ง


ฉีดฟิลเลอร์คางห้ามเกินกี่CC?

ส่วนมากแพทย์จะใช้ฟิลเลอร์ ประมาณ1 – 2 CC ต่อครั้ง ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอสำหรับการฉีดปรับรูปคาง ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์เกิน 3 CC ขึ้นไปในครั้งเดียว เนื่องจากอาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคางดึงตัวยาฟิลเลอร์มารวมกันเป็นก้อนๆได้ จึงส่งผลให้เวลาพูดหรือยิ้มจะทำให้เห็นคางย้อยได้


 ข้อห้ามก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

          งดขัดผิวบริเวณคางมีรอยแผลก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการบวม ช้ำได้ง่ายและหายยากกว่าปกติ

          หากมีสิวอยู่ควรทำการรักษาสิวให้หายดีเสียก่อน เพราะเนื้อฟิลเลอร์สามารถเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียสิวได้ดี ทำให้ปัญหาสิวอาจลุกลามได้มากกว่าเดิม

          งดอาหารเสริมและยาบางประเภทที่จะส่งผลให้เลือดหยุดไหลช้า เช่น แปะก๊วย ยาเอสไพริส  ยากลุ่มที่ช่วยต้านการอักเสบ NSAIDS เป็นต้น


ข้อห้ามหลังการฉีดฟิลเลอร์คางมีอะไรบ้าง?

– ห้ามจับคางเพื่อจัดทรงในช่วง 2 สัปดาห์แรก

– งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเพราะจะทำให้ยุบบวมช้า

– งดอยู่ใกล้ความร้อน 

– งดอาหารที่เผ็ดมากๆ

– งดอาหารหมักดอง 

– งดอาหารที่หวานจัดๆ

– งดรับประทานวิตามินบางชนิด เช่น กิงโกะ โสม วิตามินอี เนื่องจากมีผลต่อเลือดซึ่งอาจทำให้เขียวช้ำมากกว่าปกติ


เลือกฉีดฟิลเลอร์คางอย่างไรให้ปลอดภัย?

ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ควรเลือกศึกษาข้อมูลคลินิก คลินิกมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และได้รับการรับรองตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ก่อนการตัดสินใจควรสอบถามรายละเอียดของตัวยาให้ชัดเจน เพื่อสามารถตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือไม่ นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์คางให้ปลอดภัยจะต้องได้รับการฉีดและออกแบบรูปคางโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพถูกต้อง 

สรุป

ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์คางถือว่าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงและไม่เป็นอันตรายใดๆต่อร่างกาย จึงทำให้ได้รับความสนใจ และได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย แต่อย่างไรก็ตามก็ควรเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความชำนาญมากพอเท่านั้น เพราะบริเวณคางเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเป็นจำนวนมาก หากใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้คางบิดเบี้ยวหรือ ผิดรูปทรง และจับตัวกันเป็นก้อนๆได้

Comments

comments