สาว ๆ เคยขี้เกียจแต่งหน้ากันมั้ย ? แต่เวลาออกนอกบ้านก็ไม่อยากออกไปแบบหน้าเปลือย ๆ กลัวคนรู้จักบังเอิญเจอจะตกใจเข้า ใครอยากตื่นมาหน้าครบเครื่อง แบบไม่ต้องแต่งหน้าก็สวย ถ้าต้องการแบบนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือขนตา สิ่งนี้แหละค่ะ ที่จะทำให้หน้าสดของเราหน้ามองยิ่งขึ้น ทำให้ใบหน้าเราดูมีอะไรยิ่งขึ้น เราจะเห็นว่าสมัยนี้ขนตาเป็นอะไรที่ได้รับความสนใจจากสาว ๆ กันมากขึ้น โดยมีนวัตกรรมมากมายที่เข้ามาเช้าเสริมขนตาของเราให้หนา และงอนยาวขึ้น จะมีทั้งวิธีการ ต่อขนตา ลิฟติ้งขนตา ซึ่งเชื่อเลยสาว ๆ อาจจะเลือกไม่ถูกว่า จะทำแบบไหนดี แบบไหนถึงเข้ากับเรา ซึ่งในวันนี้เราจะมาบอกข้อแตกต่างของ ต่อขนตา ลิฟติ้งขนตา และมาบอกข้อดี ข้อเสีย ช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ตัดสินใจทำ เลือกขนตาที่เข้ากับใบหน้าตัวเองยิ่งขึ้น พร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย !
ต่อขนตา กับ ลิฟติ้งขนตา แตกต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดีกว่ากัน
ต่อขนตา (Eyelash Extensions)
การต่อขนตา หรือ Eyelash Extensions คือ การติดขนตาปลอมแทรกเข้าไปกับขนตาจริงโดยใช้กาวที่เป็นมิตรต่อดวงตา และวัสดุที่เป็นธรรมชาติไม่ระคายเคืองต่อดวงตาเสริมให้ดวงตาของเรากลมโตน่ามองดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งขนตาปลอมที่ใช้ก็มีทำมาจากหลากหลายวัสดุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เส้นผม, เส้นไหมสังเคราะห์, วัสดุสังเคราะห์อื่น ๆ เช่น โพลีเอสเตอร์ หรือ ไฟเบอร์ และจากขนสัตว์ เช่น ขนมิ้งค์ ขนกระต่าย หรือขนม้า นั่นเอง โดยสาว ๆ สามารถเลือกความยาว และความหนาของขนตาได้หลากหลายดังนี้
- 0.07, 0.06 และ 0.05 มม. เป็นขนตาขนาดเล็ก นิยมนำมาทำเป็นช่อ ช่อละ 3-5 เส้น ทำให้ขนตาดูมีจำนวนเส้นเยอะ และหนา
- 0.10 มม. ขนาดขนตาที่บางกว่าขนตาปกติ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีขนตาเส้นเล็ก
- 0.15 มม. เป็นขนตาที่มีขนาดใกล้เคียงกับกับขนตาจริงของสาว ๆ มากที่สุด
การต่อขนตายังมีให้สาว ๆ เลือกอีก 3 ประเภทคือ
1. ต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้น (Classic Lashes)
การต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้น หรือที่หลายคนอาจเรียกว่า ต่อขนตาแบบธรรมชาติ คือการต่อโดยใช้ขนตาปลอม 1 เส้น ต่อ ขนตาจริง 1 เส้น ซึ่งแบบนี้จะได้ความเป็นธรรมชาติเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับสาวตาเรียว เพราะจะทำให้ตาดูเฉี่ยวแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่และเน้นความเซ็กซี่ของดวงตา
2. ต่อขนตาแบบทูดี (2D)
เป็นการต่อขนตาแบบที่หนากว่าแบบวอลลุ่มแต่ก็ยังบางกว่าแบบคลาสสิคค่ะ โดยจะต่อ 1 ช่อ (2เส้น) ต่อ 1 เส้นขนตาจริง โดยการต่อแบบนี้จะดูขนตาเยอะกว่าการต่อขนตาแบบคลาสสิคหน่อยค่ะ จะให้ตาที่หวานขึ้น
3. ต่อขนตาแบบวอลลุ่ม (Volume Lashes)
การต่อขนตาแบบวอลลุ่ม หรือ ต่อขนตาแบบช่อ 3D คือการจับเส้นขนตาจริง 1 เส้น กับ ขนตาปลอม (2-5 เส้น) เป็นช่อ เข้าด้วยกัน ซึ่งการต่อแบบนี้จะทำให้ดูหนามากกว่าแบบเส้นต่อเส้น ขนตาจะชัดและดูหนา เหมาะกับคนที่ชอบขนตาแน่น ๆ ลุคเต็ม ๆ แบบสายฝอต้องจัด
4. ต่อขนตาแบบไฮบริด (Hybrid Lashes)
การต่อขนตาแบบไฮบริด คือการต่อแบบผสมกันระหว่าง เส้นต่อเส้น และวอลลุ่ม ซึ่งลุคที่ได้จะคล้าย ๆ กับแบบวอลลุ่ม แต่ดวงตาคุณจะดูคมชัด และดูมีมิติมากกว่า เนื่องจากเป็นการใช้เทคนิคต่อเส้นต่อเส้น และต่อด้วยช่อสลับกันไปมา
ข้อดีของการต่อขนตา
- ขนตาหนาเด้งใบหน้าดูมีมิติ โดยไม่ต้องแต่งหน้าเยอะ
- อยู่ทนยาวนานถึง 3 เดือนซึ่งระยะเวลาการติดทนของขนตาปลอมนั้นขึ้นอยู่กับการรักษา
ข้อเสียของการต่อขนตา
- หลังการต่อขนตาอาจทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร หากช่างต่อขนตาได้ไม่ดี อาจทำให้รู้สึกขนตาตก และรบกวนสายตาตลอดเวลา
- หากเผลอขยี้ตาหรือดึงขนตาแรง ๆ อาจทำให้ขนตาจริงหลุดร่วง
- หากเลือกร้านที่ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ดี ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้ระคายเคืองตาดวงตา
- ราคาการต่อขนตาจะอยู่ที่ประมาณ 800 – 3,500 บาท ราคาอาจจะแรงกว่าลิฟติ้งขึ้นอยู่กับร้าน
ลิฟติ้งขนตา (Eyelash lifting)
การลิฟติ้งขนตา หรือ Eyelash lifting คือ การดัดโคนขนตาหรือยกโคนขนตา ซึ่งลิฟติ้งขนตานี้จะช่วยให้ขนตางอนเหมือนปัดขนตาด้วยมาสคาร่าอยู่ตลอดเวลาซึ่งระยะเวลาของความงอนจะอยู่ที่ประมาณ 6 สัปดาห์ถึง 2 เดือน หากสาว ๆ ท่านใดที่มีขนตาที่หนาอยู่แล้วแต่ไม่งอน การลิฟติ้งขนตานี้จะช่วยเสริมให้ดวงตาเป็นธรรมชาติมากกว่าการต่อขนตา
ข้อดีของการลิฟติ้งขนตา
- เบาสบายมากกว่าการต่อขนตา และมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า เพราะใช้ขนตาตัวเองในการทำลิฟติ้ง
- ดูแลง่ายไม่ต้องกลัวขนตาจริงร่วงอีกด้วย
- ราคาการลิฟติ้งขนตาประหยัดการต่อขนตา ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 800-2,000 บาท
ข้อเสียของการลิฟติ้งขนตา
- จำเป็นต้องมีขนตาที่ยาวพอประมาณ
- เมื่อลิฟติ้งขนตาแล้วไม่สามารถต่อขนตาได้ ต้องรอให้น้ำยาของลิฟติ้งหมดไปก่อน
- อาจทำให้ขนแห้ง ขาดความชุ่มชื่น
- ไม่แนะนำให้ใช้มาสคาร่ากันน้ำ เพราะจะล้างออกยาก และทำร้ายขนตา
สรุปข้อแตกต่างระหว่างการต่อขนตา และลิฟติ้ง
การลิฟติ้งขนตา คือ การใช้น้ำยาปรับโครงสร้างของขนตาให้งอนเด้ง แต่ไม่สามารถช่วยให้ขนตาหนาหรือยาวขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนตายาวแต่ขนตาตรงหรือทิ่มลง ในขณะที่การต่อขนตาจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีขนตาสั้นหรือขนตาน้อย โดยจะช่วยเพิ่มความหนา และความยาวได้ตามความต้องการ
เราได้รู้ข้อแตกต่างระหว่าง ต่อขนตา กับ ลิฟติ้งขนตา กันไปแล้ว เอาง่าย ๆ เลยนะ ถ้าเพื่อน ๆอยากได้ขนตาที่เป็นธรรมชาติ บางเบา แบบไม่มีขนตาปลอมมาเสริม แนะนำให้ทำลิฟติ้งขนตา แต่อยากให้ขนตาแน่น ๆ ถ่ายรูปแล้วปังต้องต่อขนตาเลยค่ะ รับรองงานนี้ปัง วันนี้เราขอตัวลาไปก่อน เจอกันใหม่ในบทความหน้านะ บ๊ายบาย
Photo Credit:
Source Credit:
Stay connected