“ตื่นมาหน้าก็สวยแบบนี้แล้ว” เป็นคำพูดที่หลายคนชอบเอามาแซวกัน เวลาเราแต่งหน้าสวยจนมั่นใจ แต่…ในความจริงก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ คำว่าสวยในยามตื่นนอน ไม่ใช่สวยเนียนเด้ง เป๊ะปังเพราะแต่งหน้า แต่เป็นการเผยความสวยของผิวเราตามธรรมชาติต่างหากล่ะ ในครั้งนี้เราจึงอยากจะมาไล่สเต็ปการดูแลผิวหน้า บำรุงผิวก่อนนอน หรือ Night Routine เพื่อตื่นมาจะได้มีผิวดีแบบที่ใคร ๆ ก็ชมกัน ทำง่าย ๆ เพียง 6 ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การ ทำความสะอาดผิวหน้ากันเลยทีเดียว! มาดูกันค่ะว่าต้องใช้อะไรบ้าง
ไล่สเต็ป Night Routine บำรุงผิวก่อนนอน ใน 6 ขั้นตอน
1. ล้างหน้ากันก่อนเป็นอันดับแรก
ก่อนจะเข้าสู่การบำรุงผิวให้ดี สิ่งที่ต้องมีก็เลยคือความสะอาด โดยเราต้องเริ่มที่การล้างหน้ากันก่อนค่ะ สิ่งที่จำเป็นมากกว่านั้นคือต้องล้างเมคอัพ กันแดดออกไปให้หมดจด ซึ่งโดยส่วนมากเราจะมีคลีนซิ่งที่ใช้ล้างเครื่องสำอางโดยเฉพาะ แล้วจึงค่อยล้างหน้าต่อ แต่บางทีถ้าใช้หลาย ๆ ตัวมันก็ทำให้ขี้เกียจไปบ้าง จะดีกว่ามาก ๆ หากมีไอเทมที่สามารถล้างหน้า + ขจัดคราบเครื่องสำอางและกันแดดออกได้ในขั้นตอนเดียวเลย
ตัวที่เราอยากยกมาให้ดูกัน นั่นก็คือ Sistar Watermelon Brightening & Refreshing Soapหรือเรียกสั้น ๆ ว่า “สบู่แตงโม” ซึ่งช่วยทำให้ผิวเนียนใส ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ลดปัญหาผิวแห้งกร้าน ด้วยสารสกัดหลัก ๆ จากแตงโม ผสานพลังของ Vit C, คอลลาเจน, อโลเวร่า และโยเกิร์ต ซึ่งทำให้ผิวกระจ่างใส ละเอียด กระชับ เนียนนุ่มน่าสัมผัส ตอนล้างหน้าไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย และแน่นอนว่าความพิเศษอีกอย่างก็คือเขาสามารถล้างเมคอัพกันน้ำได้ด้วย ตอบโจทย์คนที่ไม่อยากใช้ผลิตภัณฑ์หลายตัว แถมราคายังเป็นมิตรด้วย เพียงซองละ 57 บาท ได้สบู่ถึง 2 ก้อนให้ซองเดียว ตามหามาลองใช้กันได้ง่าย ๆ ที่ 7-Eleven ทุกสาขาค่ะ
2. บำรุงผิวในขั้นตอนแรกด้วยเซรั่ม
เมื่อได้ผิวหน้าที่สะอาดแล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนของการบำรุงผิวกันต่อเลย บางคนอาจจะเตรียมผิวกันก่อนด้วยโทนเนอร์ เพื่อปรับสภาพผิว และใช้น้ำตบเป็นตัวแรก แต่ถ้าไม่อยากใช้อะไรที่มันเยอะสิ่งหลายขั้นตอนก็ข้ามมาที่การบำรุงด้วยเซรั่มเลยก็ได้ค่ะ ตัวที่เราอยากแนะนำก็คือ SKIN1004 Madagascar Centella Ampoule เป็นเซรั่มเข้มข้นที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวจากปัญหาสิว
ด้วยสารสกัดบริสุทธิ์ 100% จากมาดากัสการ์ ฟื้นบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยค่า pH 5.5 เป็นกรดอ่อน ๆ ซึ่งใกล้เคียงกับผิว สามารถดูแลผิวที่อ่อนแอ ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว และลดโอกาสการเกิดริ้วรอยได้ และที่สำคัญคือเขายังช่วยลดรอยสิว ยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดสิวได้ นับว่าเป็นไอเทมที่เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่ายและมีปัญหาสิวจริง ๆ ค่ะ
3. บำรุงผิวต่อมาด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์, Soothing Gel
หลังจากทาเซรั่มแล้ว ก็ตามมาด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เนื้อเข้มข้นกว่าเดิมอย่างพวกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ บางคนอาจจะใช้เป็นโลชั่นน้ำนม หรือเนื้อครีมหนัก ๆ ไปเลย แต่เราเชื่อว่าก็ต้องมีบางคนที่อยากใช้อะไรที่มันเบา ๆ ไม่หนักหน้า เพราะเลี่ยงการอุดตัน และอยากได้ความสบายผิว “เจลครีม” หรือ “เจลอโลเวร่า” คือตัวเลือกที่ดีในข้อนี้ค่ะ
ไหน ๆ เราก็กล่าวถึงสบู่แตงโมของซิสตาร์กันไปแล้ว ขอยกอีกตัวในจักรวาลแตงโมมาด้วยเลย นั่นก็คือ SISTAR Watermelon Whitening Soothing Gel หรือที่เราเรียกกันว่า“เจลแตงโมอโลซองยักษ์” ซึ่งช่วยฟื้นบำรุงผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้น อิ่มน้ำ แลดูสุขภาพดี ด้วยสารสกัดหลักจากแตงโมเข้มข้น ร่วมด้วย Vit C, คอลลาเจน และอโลเวร่า ซึ่งช่วยฟื้นบำรุงผิวที่หมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใส เติมน้ำให้ผิว ทำให้ผิวนุ่มเด้ง เนียนละเอียด
แถมยังลดรอยสิว และบำรุงผิวหลังการออกแดด ทำหน้าที่เสมือนเป็น Aftersun ได้อีกด้วย เนื้อครีมจะออกเย็น ๆ ค่ะ ยิ่งถ้าเอาไปแช่ในตู้เย็นก่อน แล้วหยิบมาทา จะฟินมาก ๆ คืนไหนที่ขี้เกียจบำรุงหลายตัว หลังล้างหน้าจะใช้เจลแตงโมตัวนี้ตัวเดียวโปะหนา ๆ หน่อยก็ยังได้!
4. ผิวรอบดวงตาก็สำคัญนะ อย่าลืมดูแลกันด้วย
สิ่งหนึ่งที่หลายคนมักมองข้าม นั่นคือการดูแลผิวบริเวณรอบดวงตา มารู้ตัวอีกทีว่าควรจะต้องบำรุงก็เป็นตอนที่มีปัญหาแล้ว Yves Rocher Elixir Jeunesse Roll On เป็นตัวที่อยากแนะนำทีเดียวค่ะ เพราะเหมาะกับการใช้ชีวิตของคนสมัยนี้ที่นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ มีรอยหมองคล้ำ ริ้วรอย หรือเกิดความร่วงโรยบริเวณรอบดวงตา เจ้าตัวนี้เขามี Triple Ball Bearing ซึ่งเป็นตัวที่ช่วยผลักเนื้อครีมลงเข้าสู่ผิวได้ดีกว่าเดิม มีความเย็น ๆ เล็กน้อยให้รู้สึกฟิน เสมือนเป็นการนวดผ่อนคลายรอบดวงตาไปในตัวด้วย
5. Lip Care ต้องมี อย่าปล่อยให้ริมฝีปากแห้งลอก
ริมฝีปากคืออีกส่วนที่ต้องดูแลกันเป็นประจำเช่นเดียวกัน หากเรามีลิปมันพกติดกระเป๋าไว้ทาระหว่างวันแล้ว ก็ควรจะมีติดห้องเพื่อเอาไว้ทาตอนก่อนนอนหรือเวลาที่อยู่บ้านด้วย ใครที่ชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ Lovella ORGANICS เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์เรื่องนี้มาก ด้วยส่วนผสมที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ, ดี, อี, เลซิติน และโพแทสเซียม ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ริมฝีปากเนียนนุ่มชุ่มชื้น
และเสริมทัพด้วย Lip Sleeping Mask ของ Laneige ซึ่งจะเพิ่มความเนียนนุ่มให้ริมฝีปากได้อีกระดับ เรียกว่าตื่นนอนมา ริมฝีปากจะดูน่าจุ๊บเป็นที่สุด!
6. ปิดท้ายการด้วยการใช้Sleeping Mask
เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิวด้วยสลีปปิ้งมาส์ก ซึ่งหลายคนอาจจะใช้เป็นออปชั่นเสริม แต่ถ้าทำได้บ่อย ๆ ก็ช่วยให้ผิวเราดูดีขึ้นไปอีกนะคะ ตัวที่ยกมาคือ Laneige Cica Sleeping Mask ซึ่งมีส่วนผสมจากยีสต์ป่า ช่วยฟื้นคืนความแข็งแรงให้ผิวของเราในยามหลับ จากการที่ผิวถูกทำร้ายทั้งจากอาการแพ้ มีผดผื่น การระคายเคืองจากสิว พร้อมปลอบประโลมผิว ป้องกันการระคายเคืองได้อย่างยาวนานตลอดคืน ยิ่งใครที่มีปัญหาสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ และรอยสิวต่าง ๆ ตัวนี้ถือเป็นไอเทมที่ควรมีเลยค่ะ
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 6 ขั้นตอนบำรุงผิวก่อนนอนที่ทำได้ง่าย ๆ ลองไปทำตามกันดู จะเพิ่มหรือลดอะไรให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความชอบของตัวเองก็ได้ เช่นว่าถ้าขี้เกียจมาก ๆ ก็แค่ล้างหน้าแล้วทาเจลบำรุงผิวอย่างเจลแตงโมลงไปหนา ๆ หน่อย ไม่ยุ่งยากเลยสักนิด และที่สำคัญของที่เราเอามาแนะนำกัน แต่ละตัวหาซื้อง่าย ราคาเป็นมิตร และให้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด เมื่อตื่นนอนมาจะรู้สึกเลยว่าผิวดีขึ้นจริง ๆ แบบ Woke Up Like This! คือตื่นมาก็มีผิวหน้าสวยเนียนใส น่าสัมผัสอย่างแท้จริงค่ะ 🙂
Stay connected