สวัสดีค่ะสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน เมื่อประมาณกลางๆ เดือนเมษา Netflix ได้มีรายการใหม่ที่ค่อนข้างน่าสนใจ ส่วนตัวเรามองว่ามันสามารถนำสิ่งที่สารคดีกึ่งซีรีส์เรื่องนี้กำลังบอกเราไปปรับใช้ในชีวิตได้จริง แถมเป็นการบอกทริคหรือแชร์เกร็ดความรู้ที่เรามักมีความเชื่อหรือเข้าใจผิดๆ มาบอกเลยด้วย และนี่คือ “Headspace Netflix” รายการทำสมาธิที่เข้าใจง่ายในรูปแบบอนิเมชั่น วันนี้เราจะพาสาวๆ ไปเจาะลึกถึงสิ่งที่ได้จากรายการนี้กัน
“Headspace Netflix” รายการทำสมาธิที่เข้าใจง่ายในรูปแบบอนิเมชั่น
Headspace คืออะไร:
Headspcae ไม่ใช่แค่รายการการฝึกสมาธิหรือการแนะนำวิธีการนอนอย่างมีคุณภาพให้สาวๆ อย่างเดียว แต่จริงๆ แล้ว Headspace เป็นศูนย์และคลีนิกผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทำสมาธิ ที่เปิดสาขาในลอนดอน โดยผู้ก่อตั้งคือ Andy Puddicombe และ Richard Pierson โดยก่อนที่คุณ Andy จะมาเปิดคลีนิกนั้น เขาประกอบอาชีพเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานประจำเหมือนคนทั่วไปนี่แหละ แต่แค่มีความสนใจอยากหาความสุขและวิธีการค้นหาตนเองเพิ่มเติม
จนทำให้เขาตัดสินใจไปเรียนรู้วิธีการทำสมาธิในรูปแบบต่างๆ จนได้บวชเป็นพระและเข้าศึกษาวิธีการกรรมฐานในประเทศต่างๆ อย่างภูฎาน, อินเดีย, พม่า และรวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน
ซึ่งสิ่งที่คุณ Andy ศึกษามานั้น ไม่ใช่การนั่งสมาธิเพื่อสั่งสมบุญกุศลใดๆ แต่เพื่อเข้าใจและรับรู้ถึงจิตใจของตนเอง ณ สถานการณ์ต่างๆ ยิ่งขึ้น นี่คือวิธีการของ Headspace ซึ่ง ณ ตอนนี้ประกอบเป็นสารคดีกึ่งซีรีส์ ออกมา 2 ชุด โดยชุดแรกคือ Headspace – Guide to Meditation รวมทั้ง Guide to Sleep เรามาลองดูสิ่งที่ได้จาก 2 เรื่องนี้กันเลยค่ะ
Headspace Guide to Meditation: ในเรื่องแรกเราจะพาสาวๆ ไปทำความรู้จักกับ Headspace Netflix ในเรื่องการฝึกสมาธิกัน โดยเราจะแบ่งทริคหรือสิ่งที่เราคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆ และสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ออกมาได้ 5 ข้อตามนี้
1. การทำสมาธิมีประโยชน์กับเราอย่างไร และ เริ่มยังไง:
โดยปกติทั่วไป เราอาจถูกพร่ำสอนหรือถูกทำให้เข้าใจว่า การเจริญสมาธิคือการสร้างบุญ คือการชำระล้างจิตใจ หรือ การเพิ่มสมาธิให้กับตัวเราเอง แต่หากเรามองในแง่การใช้ชีวิตจริงๆ การทำสมาธิคือการเข้าใจความคิดและตระหนักรู้ถึงปัจจุบัน ว่าตอนนี้เรารู้สึกอย่างเรา เราคิดอย่างไร จิตใจเรากำลังบอกอะไร และ ร่างกายเรากำลังทำอะไรอยู่
หากถ้าให้เปรียบง่ายๆ คือ การให้เราไปนั่งริมถนนและดูรถที่ขับผ่านไปมา บางทีเราคิดตาม เราอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องง่าย แต่แท้จริงแล้วไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะในขณะที่มีรถแล่นผ่าน แน่นอนสายตาและจิตใจเราอาจจะไม่ได้ดูรถแค่อย่างเดียว อาจจะกำลังหงุดหงิดการจราจร ณ ตอนนั้น อาจจะกำลังคิดถึงเรื่องอื่นๆ มากมาย แต่การทำสมาธิคือการโฟกัสและอยู่กับปัจจุบัน ตระหนึกรู้ถึงสิ่งที่ทำอยู่ อย่างการหายใจเข้าทางจมูกหายใจออกทางปาก เพื่อทำให้จิตใจของเราสงบยิ่งขึ้น
2. การฝีกฝนการปล่อยวาง:
จิตคนเราไม่เคยหยุดนิ่ง ในทุกๆ วันความคิดและจิตของเราล่องลอยหมุนเวียนเปลี่ยนไปมาเยอะแยะมากมาย เปรียบหัวของเราคือท้องฟ้าใส ความคิดและจิตของเราคือก้อนเมฆ ในบางวันสมองเราก็โล่งจนมองเห็นท้องฟ้า บางวันก็ครึ่มเมฆมาก บางวันที่ก็เมฆก้อนโน้นนี่ลอยผ่านไปมา และสิ่งเหล่านี้แหละคือ ความคิด ที่เราไม่ยอมปล่อยวางมัน จนบางครั้งมันทำให้เราลืมไปว่า ท้องฟ้าใส จริงๆ แล้ว มันไม่ได้หายไปไหน แต่มันถูกเมฆบดบัง การทำสมาธิโดยการเข้าใจความคิดและสิ่งที่เป็นไป ช่วยให้เราเข้าใจและมองเห็นท้องฟ้าได้ชัดขึ้น โดยให้เรานึกถึงภาพจุดหรือแสงอุ่น
เพื่อโฟกัส ถึงแม้ว่าในบางครั้งเราอาจจะหลุดไปคิดเรื่องอื่น แต่เมื่อรู้สึกตัวก็ให้กลับมาที่แสงอุ่นที่เดิม เมื่อสาวๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยจะเป็นการฝึกสมาธิที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมอง ทำให้สมองในส่วนความจำทำงานได้ดีขึ้น และส่วนการควบคุมความเครียด เล็กลง ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งทางกายภาพและจิตวิทยาด้วยเช่นกัน
3. จะรับมือกับความเครียดยังไงดี:
บ่อยครั้งที่เราจมปลักและหมกมุ่นอยู่กับความคิดหรือความเครียดต่างๆ ทำให้เราไม่สามารถหาทางออกหรือเดินทางผ่านมันไปได้ แต่การทำสมาธินั้น สามารถช่วยเรื่องนี้ได้ ให้เราคิดและเปรียบความเครียดเหมือนกับเกรียวคลื่นเวลาเราเล่นเซิร์ฟ การทำสมาธิคือการรับรู้ความเครียดและเข้าใจสิ่งที่เป็น เข้าใจว่านี่คือความคิดและความฟุ้งซ่านของเราเอง
และนี่คือความรู้สึกที่เราเจอ เมื่อเรารับรู้มัน รู้สึกและปล่อยให้มันไหลไป เราก็จะโต้คลื่นได้อย่างไม่ล้มลง แต่หากวันใดที่เราโฟกัสกับคลื่นและลมมากจนเกินไป นั่นจะทำให้เราเสียสมดุลการทรงตัวและล้มได้ง่าย การทำสมาธิเพื่อรับมือกับความเครียดนั้น ไม่ได้หมายถึงช่วยให้ปัญหาหรือความเครียดหายไป แต่ทำให้เรารับรู้ถึงปัญหา ความรู้สึก และเข้าใจความเป็นไปของมันมากขึ้นเท่านั้นเอง
4. เรียนรู้และอยู่กับความเจ็บปวด:
สาวๆ อาจสงสัยว่า Headspace Netflix สอนการทำสมาธิเพื่อให้อาการเจ็บปวดต่างๆ หายไปได้หรอ? อยากบอกเลยว่าไม่ใช่ค่ะ แต่การทำสมาธิทำให้เราเข้าใจและรับรู้ความเจ็บปวด พร้อมโอบอุ้มมันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น การทำสมาธินั้นทำให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเจ็บปวด มองดูความเจ็บปวดของเราด้วยความเข้าใจ เปลี่ยนวิธีการมองสิ่งที่เราประสบเห็นเป็นเรื่องรรมชาติ เพื่อไม่ให้เพิ่มความเครียดทางสมองมากจนเกินไป เราจะได้พิจารณาร่างกายของเราได้อย่างเต็มที่
5. วิธีการรับมือกับความโกรธ:
และข้อนี้สำหรับเรา เป็นข้อที่อาจจะยากที่สุด ในแต่ละข้อด้วยซ้ำ และนั่นคือการฝึกระงับและเปลี่ยนมุมมองความโกรธหรือความหงุดหงิดใจของเรา แน่นอนในขณะที่เราโกรธ เรามักมองความรู้สึก หรือปัญหาของเราใหญ่กว่าคนอื่นเสมอ แต่เราฝึกสมาธินั้น เราไม่ได้ทำให้ความโกรธนั้นหายไป แต่เราฝึกเพื่อทดแทนความโกรธด้วยความเมตตา ความโกรธเป็นภัยต่อตนเองและคนรอบข้างเสมอ
ดังนั้น Headspace Netflix ให้เรารับมือกับความรู้สึกโกรธด้วยความจิตใจดี และโอบอ้อมอารี หากเรามองแต่ความสุขตนเอง เราจะเห็นแต่คนเอง ทำให้มุมมองที่มีต่อโลกเล็กลง ยึดติดแต่สิ่งที่เราชอบ เรามี เรารู้สึก และผลักสิ่งที่ไม่ชอบออกไป แต่หากเราโอบอุ้มความรู้สึกของคนอื่น และ เปิดโลกที่เราเห็นให้ใหญ่ขึ้นสักนิด เราจะปล่อยวางความโกรธ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน รู้จักการใส่ความสุขของผู้อื่นมาก่อน จะทำให้อารมณ์โกรธนั้นลดลง และอยู่กับมันได้ง่ายขึ้น โดยไม่กระวนกระวายจิตใจและหมกมุ่นกับมันเกินไป
ไม่เพียงแค่นั้นนอกจาก Headspace Netflix จะฝึกฝนสมาธิให้กับเราแล้วนั้น เขาเพิ่งออกซีรีส์ใหม่มาเป็นเรื่องการนอนหลับ ซึ่งในนี้ทำให้เราเข้าใจความเชื่อผิดๆ ของการนอนหลับมาว่าแท้ที่จริงแล้วมนุษย์เรามีกลไกทางชีวภาพที่แตกต่างกัน การนอนหลับเต็มอิ่มของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับการนอนไม่หลับของแต่ละคนก็แตกต่างกันด้วยเช่นกัน
ดังนั้นเราจะต้องเรียนรู้และรู้จักตนเอง แท้จริงแล้วมนุษย์วัยผู้ใหญ่แบบเราควรนอนเฉลี่ยอยู่ที่ 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ใช่ 8 ขั่วโมงเท่าที่เราเข้าใจ การเล่นมือถือนั้น ส่งผลไม่ใช่แค่เรานอนไม่หลับ แต่มันไปรบกวนการทำงานของสารเคมีในสมอง การนอนหลับไปทั้งความเครียดหรือการพยายามนอนหลับจนเกิดความเครียดนั้น ยิ่งทำให้เรานอนไม่ได้ ดังนั้นสุดท้ายแล้ว การทำสมาธิ และรู้จักควบคุมจิตใจ ปล่อยวางความรู้สึก และผ่อนคลายจิต ช่วยให้เรานอนหลับได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
สุดท้ายนี้หากสาวๆ คนไหน สนใจหรืออยากหาวิธีการปรับความคิด จิตใจ และฝึกฝนสมาธิ โดยมีความคิดที่เชื่อว่าการนั่งเรียนสมาธิทำให้เราเบื่อหรือง่วงนั้น เราอยากให้ลองมาดูซีรีส์เรื่องนี้ Headspace ทำให้การเรียนและฝึกฝนสมาธิของเรานั้น เปลี่ยนไป ไม่น่าเบื่อและเข้าใจยากเหมือนอย่างเคย แถมได้เกร็ดความรู้ในเชิงวิทยาศาสตร์ ทำให้เราเข้าใจร่างกายตนเองเพิ่มขึ้นอีกด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้ และพบกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบายค่า
Photo Credit:
Stay connected