สวัสดีค่าสาวๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคน นี่ก็ยังหนีไม่พ้นลิสต์หนังรัก มหากาพย์การรีวิวหนังรักในเดือนความรักนี้กันต่อ แต่ในวันนี้เราขอเอาใจสาวๆ น้องน้อย หรือสาวๆ คนไหนที่ชอบหนังแนว Chick Flick หรือ แนวรักใสๆ หัวใจวัยมัธยมที่มีความเกิร์ลๆ อยู่แล้วละก็ ต้องไม่พลาดลิสต์นี้เป็นแน่ วันนี้เราขอเสนอ “5 Chick Flick หนังรอมคอม น่าดู เอาใจวัยใส หัวใจไฮสคูล” บอกเลยว่าแต่ละเรื่องที่เราคัดสรรมานั้น จะต้องถูกใจใครหลายๆ คนแน่นอน งั้นอย่ารอช้าไปเริ่มที่เรื่องแรกกันเลย
“5 Chick Flick หนังรอมคอม น่าดู เอาใจวัยใส หัวใจไฮสคูล”
เรื่องที่ 1: Mean Girl (2004)
ระดับความสนุก: 4.5 / 5
ระดับความใสสไตล์วัยรุ่น: 5 / 5
ถ้าจะให้นึกถึงหนัง Chick Flick หรือ หนังรอมคอม น่าดู สักเรื่อง ที่เป็นระดับตำนานแล้วละก็ เราคงหนีไม่พ้นหนังที่เรียกได้ว่า ไม่ว่าสาวๆ คนไหนก็ต้องเคยดูเรื่องนี้มาแล้วทั้งสิ้น นั่นก็คือ “Mean Girls” หนังรอมคอมสไตล์ไฮกูลระดับตำนาน ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘เคดี้’ เด็กสาวบ้านนอกที่ต้องย้ายเข้าเมืองหลวงตามพ่อและแม่ของเธอ เธอก้าวเข้าสู่โรงเรียนใหม่ด้วยลุคสาวเฉิ่มสุดเนิร์ด
แต่ทว่าดันบังเอิ๊ญบังเอิญ ได้สะดุดตาแก๊งค์ Queen B นางฟ้าเบื้องบนของโรงเรียนอย่าง ‘เรจิน่า’ เข้าทำให้เธอดันต้องรับบทสาวเริศเชิดหยิ่งตามคนในแก๊งค์ไปด้วย แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นแฟนเก่าของเรจิน่าดันแอบปิ๊งปั๊งกับ ‘เคดี้’ เข้า และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้น
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกชอบหนังรอมคอม น่าดูเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นการสะท้อนและถ่ายทอดชีวิตในรั้วโรงเรียน หรือรั้วไฮสกูลให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นแก๊งค์นางฟ้าสาวเริศประจำโรงเรียน, กลุ่มเด็กเนิร์ด, กลุ่มชายนักฬาที่เป็นที่หมายปองของสาวๆ และอื่นๆ อีกมากมาย ก่อนที่เราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่เราจะผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาแล้วทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ทำให้สนุกไปมากกว่าการเห็นสิ่งต่างๆ ในโรงเรียนคงเป็นการแก้แค้น ชิงดีชิงเด่นในสไตล์สาวๆ วัยรุ่น ที่ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งก็ยังสนุก เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้เราได้เสมอ
เรื่องที่ 2: A Cinderella Story (2004)
ระดับความสนุก: 4 / 5
ระดับความใสสไตล์วัยรุ่น: 5 / 5
หนังรอมคอม น่าดู สไตล์สาวไฮสกูลเรื่องถัดไป เป็นอีกหนึ่งเรื่องระดับตำนานที่สาวๆ คนไหนก็ต้องรู้จัก เพราะได้เจ้าแม่ Chick Flick (ที่ถึงแม้ตอนนี้จะลาวงการไปแล้ว) อย่าง Hilary Duff มาร่วมแสดงเป็นนางเอก กับ “A Cinderella Story” โดย A Cinderella Story ในฉบับนี้ ไม่ได้เป็นนางซินที่เราเคยได้ยินจากเทพนิยายสมัยก่อน เพราะ Cinderella ในฉบับนี้เป็นความรักฉบับ Online
โดยพูดถึง แซม’เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ในร้านอาหารของพ่อตนเอง แอบรักกับหนุ่มแชทนิรนามทางอีเมลล์ ซึ่งเรียนในโรงเรียนเดียวกันและอยากเข้ามหาวิทยาลัยที่เดียวกัน ชื่อว่า ‘ออสติน’ แต่ในความเป็นความจริงนั้น ออสตินเป็นหนุ่มฮอตอันดับ 1 ของโรงเรียน ทั้งบ้านรวย เรียนเก่ง แถมยังเป็นกัปตันทีมฟุตบอลของโรงเรียนอีกด้วย
เราคิดว่าทุกคนเคยผ่านประสบการณ์ การแชทคุยกับคนแปลกหน้าทางออนไลน์ มาบ้าง และบางคนเผลอไปรักฝั่งตรงข้ามซะด้วย (เชื่อว่าในปัจจุบันก็มี) หนังรอมคอม น่าดูอย่างเรื่องนี้ก็เช่นกัน นางเอกกับพระเอก คุยกันผ่านทางอีเมลล์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น บอกเล่าเรื่องราวของตนในแต่ละวัน ต่างคนต่างหยอดถ้อยคำหวาน (หวานไปอีก)
พร้อมกับการเดินเรื่องให้เหมือนกับในนิทานแบบไม่มีผิดเพี้ยน ทำให้เราตั้งข้อสงสัยและจินตนาการตามว่า เอ่า! ถ้าฉากนางฟ้าเสกเสื้อผ้า รถม้า นี่หนังมันจะทำยังไง ? หรือ เฮ้ย! ฉากรองเท้าแก้วหล่นนี่ มันจะใช้รองเท้าแก้วเหมือนในนิทานรึเปล่า ? เลยทำให้เรายิ้มตามไปกับหนังได้เรื่อยๆ และก็เป็นไปตามคาดหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเวทมนต์หรือนางฟ้าเลยซักนิด
เรื่องที่ 3: She’s the Man (2006)
ระดับความสนุก: 3.5 / 5
ระดับความใสสไตล์วัยรุ่น: 3 / 5
และหนังรอมคอม น่าดูเรื่องถัดไป เรียกได้ว่าเป็นหนังเจ้าฮะ เวอร์ชั่นฮอลลีวูดก็แล้วกัน เพราะถ้าพูดคำนี้ เรามั่นใจว่าสาวๆ หลายคนที่เป็นคอ Chick Flick และ รอมคอมจะต้องรู้จักอย่างแน่นอนและเรื่องนี้ก็คือ “She’s the Man” เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ ‘เซบัสเตียน’ พี่ชายแฝดคนละฝาของ ‘วิโอล่า’ โดดเรียนเพื่อจะไปเล่นดนตรีที่อังกฤษ เลยไหว้วานให้วิโอล่าจัดการโกหกทางโรงเรียนให้
แต่วิโอล่าดันทำมากกว่านั้นเพื่อต้องการสอบเข้าคัดเลือกทีมฟุตบอลของโรงเรียนและไปแข่งกับทีมแฟนเก่าของตน โดยการปลอมตัวเป็นพี่ชาย จนได้มาเจอกับพระเอกของเรา ‘ดุค’ หนุ่มหล่อเพื่อนร่วมหอดีกรีความฮอตสาวเห็นใจละลาย ที่ต้องการสอบคัดเลือกเข้าทีมฟุตบอลด้วยเช่นกัน
แต่ทว่าหนังรอมคอม น่าดูเรื่องนี้หากมองให้ลึกลงไป นอกจากความสนุกและความเซอร์เรียลเล็กน้อย (ในเรื่องจริง หากผู้หญิงปลอมตัวเป็นผู้ชายและอยู่กับผู้ชายตั้งสองอาทิตย์แบบนี้ไม่น่ารอด ความแตกตั้งแต่สามวันแรกแล้ว) แต่ในหนังชูตัวตนของนางเอกออกมาได้อย่างชัดเจนว่าเป็นผู้หญิงห้าว แต่แฝงด้วยความอ่อนหวานนิด ๆ และรักในสิ่งที่ตัวเองทำ เรื่องก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ สอดแทรกมุกตลกแบบโก๊ะ ๆ เหมือนหนังสไตล์เจ้าฮะทั่วไป อย่างเช่น นางเอกปลอมตัวงัดกลเม็ดหรือวิธีการอยู่รอดในโรงเรียนแบบไม่มีใครจับได้ ก็เพราะการจะให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับและไม่ให้ใครจับได้นั่นแหละ
เลยเป็นเหตุทำให้วิโอล่าต้องคอยตีซี้กับดุคจนสนิทและช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดเวลา
ในที่สุดความใกล้ชิดสนิทสนมก็ทำให้วิโอล่าตกหลุมรักดุคเพื่อนร่วมหอของพี่ชายตัวเองแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ก็นะ! จะสารภาพก็ไม่ได้ เพราะตัวเองปลอมตัวเป็นผู้ชายอยู่ แต่ main หลักของหนังจริง ๆ คงเป็นการสอนเรื่องสิทธิความเท่าเทียมกันทางเพศ ซึ่งนางเอกเป็นผู้หญิงที่ชอบเล่นฟุตบอลและพยายามพิสูจน์ตัวเองให้ใครหลายคนเห็นว่า ผู้หญิงก็สามารถเล่นฟุตบอลได้ดีเท่ากับผู้ชาย รวมถึงการมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่ตนเองรัก ถึงแม้คนรอบข้างจะไม่ยอมรับมันก็ตาม
เรื่องที่ 4: After (2019)
สามารถรับชมได้ที่: NETFLIX (คลิกเพื่อชม)
ระดับความสนุก: 3 / 5
ระดับความใสสไตล์วัยรุ่น: 3 / 5
“After” เป็นภาพยนตร์ Original จาก NETFLIX สัญชาติอังกฤษ ที่สร้างมาจากนิยายรักสุดอิโรติก ซึ่งเป็นอีหนึ่งหนังรอมคอม น่าดู และมีความ Coming of age ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘เทสซ่า’ สาวน้อยผู้ก้าวพ้นวัยมัธยมที่มุ่งหน้าเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยอย่างเต็มตัว เมื่อเธอเริ่มเปิดประตูรั้วของจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของความเป็นผู้ใหญ่ เหมือนเธอได้เปิดโลกอีกใบหนึ่ง ที่พบเจอคนมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือเพลย์บอยสุดหล่ออย่าง ‘ฮาร์ดิน’ เพื่อนหนุ่มวัยเดียวกัน ที่ดูเหมือนตามจีบเทสซ่าตั้งแต่วันแรกที่เจอ และเรื่องราวของหนุ่มเพลย์บอย กับ สาวน้อยวัยใสแสนบอบบางก็เกิดขึ้น
ในส่วนตัวเราคิดว่าเนื้อเรื่องของภาคนี้มีความเฉยๆ ไปเสียซักหน่อย แต่ใช่ว่าไม่ดีเลย แต่ทว่าด้วยเนื้อเรื่องในตอนต้นของภาคแรกที่มันค่อนข้างยืดไปสักนิด แต่พอที่เราจะเดาทางได้อยู่บ้าง แต่ทว่าหนังรอมคอม น่าดูเรื่องนี้ มีความสะกิดใจคนดูอย่างเราเลย คือ ภาพ และ พระเอก เพราะในบางฉากที่เป็นฉากซึ้งๆ มุมกล้องและโทนสีภาพทำออกมาได้ดี ดูแล้วรู้สึกละมุน
แต่ที่ละมุนยิ่งกว่าภาพก็คือสายตาพระเอกเรานี่แหละ สุดท้ายสิ่งที่ชอบอีกอย่างเลยคือ เพลงประกอบของเรื่องที่เพราะ และเข้ากับยุคสุดๆ อีกเรื่องที่หนังนำเสนอได้ชัดเจนเลยคงเป็นเรื่องการปรับตัวของวัยรุ่นที่เริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ตอนต้น สรุปแล้วเอาเป็นว่า ใครที่มาสายรัก โรแมนติก ตะมุตะมิ นางเอกใสๆ พระเอกแบดๆ ก็คงจะชอบเรื่องนี้เป็นแน่ อย่าลืมไปหาดูกันล่ะ
เรื่องที่ 5: The Perfect Date (2019)
สามารถรับชมได้ที่: NETFLIX (คลิกเพื่อชม)
ระดับความสนุก: 4 / 5
ระดับความใสสไตล์วัยรุ่น: 4 / 5
และหนังรอมคอม น่าดู สไตล์ Chick Flick เรื่องสุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำให้สาวๆ ได้ลองดูกันนั้น นั่นก็คือ “The Perfect Date” พูดถึงเรื่องราวของ ‘บรู๊ค’ เด็กหนุ่มวัยซนที่มีความฝันอยากจะเข้ามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังอย่าง Yale แต่ด้วยฐานะทางบ้านที่ไม่ได้เพอร์เฟคนัก ทำให้ความฝันของเขาติดขัด แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ค้นพบงานพิเศษแบบใหม่ นั่นก็คือ การรับจ้างเดต เพราะวิธีนี้ทำให้บรู๊คค้นพบว่าการที่เราจะเป็นคู่กันจริง ๆ แค่พูดคุยกันไม่กี่คำ ก็รู้แล้วว่ามันเป็น The Perfect Match กันหรือไม่
เราว่าหนังเรื่องนี้ NETFLIX ทำออกมาได้ดีเลยนะ (เมื่อเทียบกับหนัง NETFLIX หลายๆ เรื่อง) เป็นอีกหนึ่งหนังรอมคอม น่าดูแบบความรักวัยใสหัวใจไฮสกูล ที่ค่อนข้าง Make Sense แถมแอบแฝงมุมมอง และ ทัศนคติของเด็กวัยนี้ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนอนาคตเพื่อจะก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เริ่มต้น อย่างการเลือกมหาวิทยาลัย / การพูดคุยและการแสดงออกของเด็กต่อผู้ปกครอง / การวางตัวและความคิดของเด็กในช่วงนี้
และที่หนังเรื่องนี้นำเสนอออกมาได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น เรื่องการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมและกับบุคคลรอบข้าง เราว่าเด็กในวัยนี้มักมีปัญหากับการวางตัว / ปรับตัว และ การเริ่มทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ ทีกำลังจะเข้ามา หนังเรื่องนี้แอบแฝง เทคนิคเล็ก ๆ ในการวางตัวต่อสิ่งเหล่านี้ได้ดี อย่างเช่น เวลาเราจะเริ่มรู้จักใคร เราควรเริ่มจากการพูดคุยหรือเล่าเรื่องที่เราอยากจะเล่าให้เขาฟัง หรือ การใส่ใจเรื่องของฝ่ายตรงข้ามเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสร้างความประทับใจ ส่วนถ้าถามในแง่มุมของความกุ๊กกิ๊กน่ารัก เราว่าเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดี มีมุมพอทำให้เราเขิน ให้เราอมยิ้มได้ไม่น้อยทีเดียว
Photo Credit:
Stay connected