แมว เพื่อนรัก 4 ขา หน้าตาน่ารัก ที่บางที ก็ดูเหมือนเป็นเจ้านาย มากกว่าเป็นเพื่อนของเรา พวกมัน มักจะมีภาพจำว่า เป็นสัตว์ที่มีความลึบลับ สันโดษ ตามใจตัวเอง และ คาดเดาอะไรไม่ได้ เนื่องจากเหตุผลที่ว่า การจะเข้าใจเหล่า แมว ๆ นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายของมนุษย์เอาเสียเลย วันนี้ เราจึงจะพาเพื่อน ๆ ชาว Clubsister ทุกคน ไป เรียนรู้ภาษาแมว จะได้เข้าใจเจ้านายขนปุยที่บ้านให้มากขึ้น ดีมั้ยคะ
ชวน ” เรียนรู้ภาษาแมว ” จากผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์
Amy Shojai เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยง เขียนหนังสือเกี่ยวกับการดูแลสัตว์ และมีใบรับรอง ด้านการให้คำปรึกษาด้าน พฤติกรรมสัตว์ วันนี้เธอจะมาบอกเล่า เรื่องราวเกี่ยวกับการทำความเข้าใจภาษาแมว ให้เราได้ฟัง
มนุษย์ จะใช้การพูด ในการสื่อสาร แต่ แมว ใช้หลาย ๆ อย่างมากกว่านั้น เช่น ภาษากาย การส่งเสียง หรือการใช้กลิ่น ซึ่งหนึ่งความหมาย ก็จะเกิดจากการใช้สิ่งเหล่านี้ผสมกัน หลังจากอ่านบทความนี้จบ รับรองว่าทุกคน จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง ภาษาแมว มากจนสามารถ ตอบกลับ พูดคุยกับแมวได้เลยแหละ!! (พูดเล่นนะคะ แต่รู้มากขึ้นแน่นอนค่า)
ส่งเสียง ‘เหมียว’ หรือ ‘Purr’ หรืออื่น ๆ
ใจความหลักอยู่ที่การใช้เสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียง เหมืยว เสียงครืด ๆ เหมือนสั่นอะไรที่ลำคอ (หรือที่เรียกว่า Purr) หรือเสียงขู่ฟ่อ ๆ หรือเสียงคำราม อะไรก็แล้วแต่ แต่ละอย่างก็มีความหมายเฉพาะของมัน
เสียงร้องของแมว แบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ
- เสียงครางในลำคอ แสดงความรู้สึกพอใจ
- ส่งเสียงสูงสั้นๆ หรือ ส่งเสียงสูงบ่นยาวต่อเนื่อง คือเสียงแสดงความไม่พอใจ
- เสียงขู่ฟ่อ หรือเสียงคำราม คือเจ้าแมวกำลังมีความเครียด หรือส่งคำเตือนให้เรา
- เสียงสระอะไรก็ได้ ที่แมวส่งเสียงออกมา เช่น เหมียว แงว งา หรือแมวที่บ้านผู้เขียนเอง ก็มีร้องว่า วะเว่า!
เสียง เหมียว หรือ แงว หรือ มาว พวกนี้ มักจะมีความหมายว่า แมวตัวนี้ กำลังต้องการอะไรบางอย่างอยู่ อย่าง “ให้ฉันเข้าไป” “เปิดประตูให้หน่อย” “ขอข้าว” “ลูบหัวหนูหน่อย” อะไรแบบนี้ ยิ่งแมวต้องการสิ่งนั้นมากเท่าไหร่ เสียงของพวกมันก็จะต่ำลงมากเท่านั้น
แต่การ ‘เหมียว’ นี้ ก็มีมาก-น้อยแตกต่างกันไป แล้วแต่สายพันธ์ บางพันธ์พูดน้อย บางพันธ์พูดเยอะ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ แมวจะไม่ค่อยสื่อสารกับแมวด้วยกันเอง ผ่านเสียงร้องเหมียว ๆ เท่าไหร่นะ ยกเว้นกับแมวตัวเมียที่มีลูก แม่แมวกับลูกแมว จะสื่อสารผ่านเสียงร้องเหมียว มากเป็นพิเศษ และ ยิ่งลูกแมวโตขึ้น ก็จะยิ่งเงียบขึ้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่น่าสนใจก็คือ แมวบ้าน มักจะร้องเหมียว ๆ ใส่มนุษย์ เป็นการสื่อสารกับเจ้าของ มากกว่าที่สื่อสารกับแมวด้วยกันเองเสียอีก!
Ear talk คุยผ่านหูแมว
แมว แสดงออกความรู้สึก และ ความต้องการผ่านหูได้ด้วยนะ การหันหูไปทางเดียวกับหน้า หมายถึง เจ้าแมว กำลังรู้สึกสนใจอะไรบางอย่างตรงหน้า อยู่ แต่ถ้าหูของแมว หมุนหันไปด้านข้าง หรือด้านหลัง จะแปลว่าแมวตัวนั้น กำลังมีความตื่นตัว หรือ รู้สึกเครียดกับอะไรบางอย่างอยู่ ยิ่งถ้าหูแมวหันไปด้านหลัง ส่งเสียงขู่ และส่ายหางไปมา ยิ่งชัดเจนว่า มันกำลังรู้สึกโดนคุกคาม หรือไม่ชอบอะไรซักอย่างที่คุณทำ
Tail talk ภาษาหางแมว
หาง สามารถบ่งบอกถึง ความสนใจ ความรู้สึก ความรัก ความตื่นตัว หรืออื่น ๆ อีกมาก ถ้าหางแมวชูขึ้นสูง แปลว่า เจ้าเหมียวกำลังรู้สึกต้อนรับให้เราเข้าหา แต่ถ้าหางแกว่งไปมากว้าง ๆ หรือทุบตุบ ๆ กับพื้น ก็แปลได้ว่า รักษาระยะห่างหน่อย! ส่วนหางที่ขยับไปมา อาจแปลได้ทั้งกำลังเล่นอยู่ หรือกำลังหงุดหงิดอยู่ก็ได้ สุดท้าย ถ้าขนที่หางพองฟู ก็แปลว่าแมวตัวนั้นกำลังแสดงออกถึงการป้องกันตัวเองอยู่
Fur talk
แมวเป็นสัตว์ที่ดูแลตัวเอง ขนของแมวที่สุขภาพปกติดี ควรจะเรียงสวยเป็นระเบียบ ถ้าขนของแมว มีความไม่เรียบร้อย ก็คงต้องสังเกตดู ว่ามีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยไหม หรือ ถ้าขนของแมวฟูออกทั้งตัว จนดูเหมือนแปรงล้างขวด แบบนี้เป็นสัญญาณว่า เจ้าเหมียวกำลังกลัว หรือ โกรธจัด
การดมกลิ่น
เรื่องนี้ คนจะรับรู้ไม่ได้เท่าไหร่ ก็แน่ล่ะ คนไม่ได้มีจมูกที่ไวต่อกลิ่นเหมือนแมวนี่! แมวมักใช้กลิ่นในการสื่อสารกับแมวตัวอื่น เช่น การฉี่ หรือการเอาตัวไปถูกตามที่ต่าง ๆ ให้แมวตัวอื่นรู้ว่า เขตนี้ของฉันนะ!
Body talk
แมว ใช้ท่าทาง ในการแสดงออกตั้งแต่ ความมั่นใจ ไปจนถึงความกลัว หรือ จำยอม ในการทำความเข้าใจความหมายทั้งหมด ต้องพิจารณาร่วมกับองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย อย่าง หู ตา หาง ขน และการส่งเสียงร้อง แมวที่ผ่อนคลายและมีความสุข หูจะหันมาด้านหน้าเล็กน้อย มีสายตาผ่อนคลาย และหางที่ชี้ตรง แบบในรูปนี้
อุ้ยผิดรูป
รูปนี้ต่างหาก
ถ้าเราสนใจ และ สังเกตแมวของเราบ่อย ๆ ก็จะรู้ว่ามันพยายามบอกอะไรเราอยู่ จากนี้เรามาลองสังเกตแมวที่บ้านกันเถอะ!
content credits : The spruce pets , The spruce pet 2
picture credits : Pinterest
Stay connected