จ๊ะเอ๋! สวัสดีค่ะ วันนี้ก็กลับมาเจอกับน้องซิสคนเดิมอีกแล้วนะค๊า! คิดถึงกันมั้ยเอ่ย?  
สำหรับวันนี้เราจะยังอยู่ด้วยกันในบทความ “รวมมิตรน้ำหอมแบรนด์”
แต่ครั้งนี้ขอเอาใจหนุ่ม ๆ สักนิ้ดดด
บอกเลยว่าถ้าหนุ่ม ๆ คนไหนกำลังมองหา
น้ำหอมผู้ชาย ประจำตัว กลิ่นผัว ๆ อยู่ล่ะก็… ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาดเลยน๊า !

 

  

 

CHANEL BLEU DE CHANEL PARFUM

น้ำหอมจากแบรนด์สุดหรูอย่าง CHANEL ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของ
น้ำหอมผู้ชาย ตรึงใจสาวได้เพียงแค่แรกเจอ

 โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบด้วยกันคือ Eau de Toilette, Eau de Parfum และ PARFUM

Top Notes — Lemon zest, Bergamot, Mint, Artemisia
Middle Notes — Lavender, Geranium, Green notes, Pineapple
Base Notes — Cedar, Sandalwood, Iso E Super, Tonka beans, Amberwood

เปิดด้วยโทนสดชื่นแนวซีตรัสโดดเด่นจากเปลือกเลม่อนและใบมิ้นท์
เพื่อความกระปรี้กระเปร่า
เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นจะเปลี่ยนเป็นโทน aromatic
ให้ความรู้สึกอบอุ่นจากลาเวนเดอร์ และ ดอกเจอราเนียม

จากนั้นปิดท้ายด้วยโทนวูดดี้ที่มาพร้อมความนุ่มลึก น่าค้นหา ชวนให้หลงใหล
ซึ่งมาจากไม้หอมนานาชนิด

แต่! เป็นถึงน้ำหอมของ CHANEL ทั้งที… จะขาดส่วนผสมลับอย่าง Iso E Super ไปไม่ได้
โดยเด็ดขาด!
เจ้าส่วนผสมลับตัวนี้ จะช่วยดึงกลิ่นฟีโรโมนของหนุ่ม ๆ ออกมา
จนทำให้สาวๆต้องระทวยไปตามกัน

BLEU DE CHANEL จะกระจายกลิ่นในระยะช่วงแขนทำให้ไม่รบกวนจมูกคนรอบข้างเกินไป
ติดทนนานถึง 10 ชั่วโมง
เหมาะกับการใช้ในทุกวันและที่สำคัญเมื่ออยู่ในที่ที่อากาศเย็น
damage จะรุนแรงเป็นพิเศษด้วยล่ะค่ะ แอ๊!

TOM FORD PRIVATE BLEND TOBACCO VANILLE

ที่สุดของน้ำหอมที่มาเพื่อฆ่า มาเพื่องานฟีโรโมนโดยเฉพาะจากแบรนด์คลาสสิค
อย่าง TOM FORD
TOBACCO VANILLE เป็นผลงานรังสรรค์ของนักปรุงน้ำหอม
มากความสามารถอย่าง Olivier Gillotin
และนับว่าเป็นหนึ่งใน PRIVATE BLEND
ของทางแบรนด์ที่มียอดขายติดอันดับตลอดกาล

Top Notes — Tobacco leaf, Spicy notes
Middle Notes — Tonka beans, Tobacco blossom, Vanilla, Cacao
Base Notes — Dried fruits, Woody notes

เปิดด้วยโทนสุขุมนุ่มลึกจากใบยาสูบ และ เครื่องเทศหลากหลายชนิด
เพื่อกระตุ้นฟีโรโมนของหนุ่ม ๆ
เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นจะยังคงโทนเดิม
แต่จะมีความหวานจาก ดอกยาสูบ และ วานิลลา คอยบ่มกลิ่นมาเป็นระยะ

จากนั้นปิดท้ายด้วยโทนวูดดี้แบบเอกลักษณ์โดยเฉพาะของแบรนด์
แถมถ้าฉีดหากตรงจุดชีพจรล่ะก็… อื้อหือ!

TOBACCO VANILLA จะกระจายกลิ่นในระยะ 6 ฟุตเพื่อทิ้งความมีเสน่ห์แบบเป็นระยะ
ติดทนนานกว่า 12 ชั่วโมง
แต่ ! ไม่เหมาะกับการฉีดออกไปเจออากาศร้อนนะคะ
เพราะมีเครื่องเทศเป็น base ทำให้ กลิ่นค่อนข้าง หนักพอควรเลยล่ะ

CHRISTIAN DIOR SAUVAGE

น้ำหอมยอดชายจาก DIOR ฉีดปุ๊บเป็นต้องโดนโผกอด โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2015
พร้อมยอดขายถล่มทลาย
และด้วยกระแสความนิยมที่ไม่เคยตก ในปี 2018
ทางแบรนด์ได้ทำการปรับเปลี่ยนสูตรเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์มากขึ้น

แถมยังได้นักแสดงแถวหน้าอย่าง ‘จอห์นนี่ เดปป์’ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์อีกด้วยแหละล่ะค่ะ

Top Notes — Bergamot
Middle Notes — Lavender, Sichuan pepper, Star anise, Nutmeg
Base Notes — Ambroxan, Vanilla

เปิดด้วยโทนสดชื่นแนวซีตรัสสบายจมูกที่ได้จาก เบอกาม็อทผลไม้ตระกูลเดียวกับเลม่อน
เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นจะเปลี่ยนเป็นโทน aromatic เพิ่มความเร่าร้อนจากพริกไทยเสฉวน
และ จันทร์เทศ
จากนั้นปิดท้ายด้วยกลิ่นละมุนจากวานิลลา ผสานกับมัสค์อย่างลงตัว
น่าโผกอดเป็นที่สุ้ดดดด!

DIOR SAUVAGE จะกระจายกลิ่นในระยะ 6 ฟุตเหมือน TOMFORD
และมีความติดทนประมาณ 10 ชั่วโมง
แต่! ไม่เหมาะกับการฉีดออกไปเจออากาศร้อนนะคะ
เพราะมีเครื่องเทศเป็น base เช่นเดียวกับ TOBACCO VANILLE

DAVIDOFF RUN WILD FOR HIM

DAVIDOFF เป็นแบรนด์ที่ใครหลายต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดีจากน้ำหอมโทนสะอาด
อย่าง COOL WATER
และเมื่อช่วงต้นปี2019 ที่ทางแบรนด์เปิดตัวน้ำหอมใหม่อย่าง
RUN WILD เป็นครั้งแรก โดยได้รับความสนใจไม่แพ้รุ่น
เป็นผลงานรังสรรค์
ของนักปรุงน้ำหอมสองคนอย่าง Alexandra Carlin และ Pierre-Constantin Gueros 

Top Notes — Cinnamon, Ginger
Middle Notes — Lavender
Base Notes — Fir resin, Tonka beans

เปิดด้วยโทนเตะจมูกสุดเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากแบรนด์อื่นด้วย ซินนาม่อน และ ขิง
เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นจะเปลี่ยนเป็นโทน aromatic ช่วยให้ผ่อนคลายจากลาเวนเดอร์
จากนั้นปิดท้ายด้วยโทนหนักแน่นจาก Fir resin และ Tonka beans

DAVIDOFF RUN WILD จะกระจายกลิ่นในระยะ 6 ฟุต แต่เพราะกลิ่นค่อนข้างอ่อน
ก็จะติดทนประมาณ 6 ชั่วโมง
เหมาะกับการใช้ในทุกวัน เพราะเข้ากับอากาศเมืองร้อน
น้องซิส แนะนำ ให้ฉีดตรงจุดชีพจรเพื่อการกระจายกลิ่นที่ดีขึ้นค่ะ ★

GIORGIO ARMANI ACQUA di Gioia

น้ำหอมสำหรับหนุ่มเมืองร้อน หอมท้าแดด กลิ่นสะอาดเหมือนอยู่ชายทะเล (❁º◡º❁)
ACQUA di Gioia มาจากการรังสรรค์จากนักปรุงน้ำหอมมือดีอย่าง Loc Dong, Anne Flipo และ Dominique Ropion
โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบด้วยกันคือ Eau de Parfum และ PARFUM แถมความพิเศษคือมาในรูปแบบ Body Lotion ด้วย

Top Notes — Amalfi lemon, Mint
Middle Notes — Jasmin, Pink pepper, Peony
Base Notes — French Labdanum, Virginia Cedar, Brown sugar

เปิดด้วยโทนหวานละมุนเหมาะกับอากาศร้อนที่ได้จาก เลม่อน และ ใบมิ้นท์
เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นจะยังคงโทนเดิมแต่เติมความหวานด้วย ดอกมะลิ, มะตูมแขก
และ ดอกพีโอนี
จากนั้นปิดท้ายอย่างด้วยกลิ่นหวานแบบนุ่มนวลจากสารสกัดไม้หอม
นานาชนิด และ น้ำตาลทรายแดง

ACQUA di Gioia จะกระจายกลิ่นในระยะช่วงแขนทำให้ไม่รบกวนจมูกคนรอบข้างเกินไป
แต่ติดทนประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้น
เหมาะกับการใช้ในทุกวัน เพราะเข้ากับ
อากาศเมืองร้อนแบบมากมั้ก! รับรองว่าต้องมีคนเหลียวหลังแน่นอนค่ะ

Calvin Klein (CK) EVERYONE

 

น้ำหอมจากหนึ่งในแบรนด์ดังยอดนิยมอย่าง Calvin Klein
หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อย่ออย่าง “CK”
เมื่อช่วงต้นปี 2020 นี้ ทางแบรนด์
ได้เปิดตัวน้ำหอมรักษ์โลกตัวแรกซึ่งใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติมากถึง 79%

ที่มาพร้อมสโลแกน “ไม่มีข้อกำหนดเรื่องการเพศ และ การแบ่งแยก (Unisex)”
เพื่อให้เข้าถึงทุกเจนเนอเรชั่น

Top Notes — Orange oil, Ginger
Middle Notes — Tea left, Watery notes
Base Notes — Cedar, Patchouli, Amber, Musk

เปิดด้วยกลิ่นซีตรัสอันเป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์จาก น้ำมันหอมระเหยผลส้ม และ ขิง
เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นจะเปลี่ยนเป็นโทนหอมสะอาดซึ่งได้จากใบชา
และ ส่วนประกอบของ Watery notes
และปิดท้ายด้วยโทร aromatic
อบอุ่นจากไม้หอมนานาชนิด, อำพัน และ มัสค์

CK EVERYONE จะกระจายกลิ่นในระยะช่วงแขนแบบกรุบกริบ
และมีความติดทนประมาณ 6 ชั่วโมง
เหมาะกับการใช้ในทุกวัน ทุกเพศ ทุกวัย
แถมเข้ากับอากาศเมืองร้อนได้ดีแบบไม่มีอะไรกั้น 

เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย? ถือว่าเป็นรวมมิตรน้ำหอมที่น่าจะตอบโจทย์หนุ่มหล่อทุกสไตล์ได้เนอะ 
หวังว่าบทความรวมมิตรนี้ จะช่วยประกอบการตัดสินใจในการเลือก น้ำหอมผู้ชาย ขวดแรก
หรือขวดต่อไปของหนุ่มๆได้น๊า
แต่… สำหรับตอนนี้น้องซิสต้องขอตัวไปก่อนนะค๊า
ส่วนบทความต่อไปจะเกี่ยวกับอะไรนั้น… ขออิ๊ฟอิ๊ฟไว้ก่อนนะคะ

Comments

comments