ถ้าพูดถึงเดือนกุมภาพันธ์แล้ว หลายคนจะนึกอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากเป็นเดือนแห่งความรัก
และอย่างว่าพอความรักดีก็พาอะไรๆ หลายๆ อย่างในชีวิตกระชุ่มกระชวยไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการที่อยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นมาดูแลตัวเองเฉยๆ จากปกติไม่แต่งหน้าก็แต่ง ไม่ออกกำลังกายก็ออก มองอะไรเป็นสีชมพูไปหมด ฟังเพลงรักได้ทั้งวัน แต่ !! อีกไม่กี่วันจะวาเลนไทน์แล้ว คู่ควงยังไม่มาเลย และเราเชื่อว่าหลายคนยังเอาแน่เอานอนกับความรักในครั้งนี้ไม่ได้เลย ทั้งรักเขาข้างเดียว รักเราไม่ชัดเจน หรือ รักแท้ดูแลไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้น วันนี้ Clubsister ขอแนะนำ “5 สถานที่ขอพรความรัก” ที่สายมูทั้งหลายจะต้องชื่นชอบเป็นที่สุด
อย่างนั้นจะรอช้าอยู่ทำไม ไปเริ่มที่แรกกันเลยดีกว่าค่า
จัดเต็ม! 5 สถานที่ขอพรความรัก อย่างมีคู่ต้องได้!
สถานที่ที่ 1: พระตรีมูรติ
ตำแหน่ง: หน้าลานเซ็นทรัลเวิร์ล
วิธีการเดินทาง: รถไฟฟ้า BTS ลงสถานนีชิดลม
หากพูดถึงสถานที่ขอพรเรื่องความรักและเรื่องประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วละก็จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก พระตรีมูรติ “เทพเจ้าแห่งความรักและความรุ่งเรือง” ประวัติความเป็นมาของพระตรีมูรตินั้นคือ พระตรี แปลว่า รูปสาม หรือการรวมตัวกันขององค์เทพทั้งสามองค์รวมเป็นหนึ่งเดียวได้แก่พระพรหม พระอิศวร (ศิวะ) และพระวิษณุ (นารายณ์) ทั้งนี้พระตรีมูรตินั้นยังได้ชื่อว่าเป็นผู้อุดมสมบูรณ์ทั้งในชีวิต การงาน และ ความรักอีกด้วย
วิธีการขอพรเรื่องความรักกับองค์พระตรีมูรตินั้นทางเราแนะนำให้ไปเวลา 21.30 ของวันพฤหัสบดี เครื่องบูชาในการกราบไหว้หรือขอพรคือดอกกุหลาบสีแดงจำนวน 9 ดอก
ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความรักหรือโลกียะ ซึ่งเปรียบเสมือนความมงคลและพลังในชีวิต หรือจะเป็นพวงมาลัยกุหลาบแดงล้วน 1 พวง บูชาพร้อมกับธูปสีแดง 9 เล่ม เทียนสีแดง 1 คู่ หรือ 1 เล่มก็ได้ แต่แนะนำให้ใช้เป็นเทียน 1 คู่ ประกบชิดกัน สำหรับคนมีคู่จะเพื่อขอพรให้เป็นคู่กันเรื่อยๆ ไป หรือสำหรับสาวโสด อาจจะใช้สำหรับขอพรให้มีคู่หรือสมหวังกับคนที่หมายปองโดยไวก็ได้ค่า
ทั้งนี้ในกรณีที่สาวๆ คนไหนขอพรเอาไว้ และคำขอนั้นประสบผลสำเร็จ แนะนำให้นำเครื่องบูชาเป็นน้ำมะพร้าว น้ำอ้อย นมสด หรือขนมหวานอะไรก็ได้ และสิ่งที่ไม่ควรนำมาถวายเป็นที่สุดเลยคือ อาหารคาว หรือ ของสดค่ะ
สรุปวิธีการไหว้:
– ควรไหว้ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 21.30 น.
– เตรียมดอกกุหลาบแดง 9 ดอก หรือ พวงมาลัยดอกกุหลาบแดงล้วน 1 พวก
– ธูปแดง 9 ดอก / เทียน 1 คู่
– น้ำหวาน / น้ำมะพร้าว / น้ำอ้อย / นม หรือของหวาน
ของต้องห้าม: ของคาว หรือ ของสด
สถานที่ที่ 2: พระแม่ลักษมี
ตำแหน่ง: เกสรวิลเลจ
วิธีการเดินทาง: รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลม
เขยิบมาจากแลนด์มาร์คมหาชนกันซักนิด เราจะพบสถานที่ขอพรที่ขึ้นชื่อเรื่องความรักอีกที่
ที่สายมูไม่ควรพลาดอย่างพระแม่ลักษมี โดยประวัติของพระแม่ลักษมีนั้นเป็นองค์เทพในศาสนาฮินดูที่มีศิริโฉมงดงามที่สุดในบรรดาองเทวีอื่นๆ พระองค์เป็นพระชายาขององค์พระนารายณ์ หรือ พระวิษณุ อีกทั้งยังทรงเป็นพระเทวีที่มีความรักอันซื่อสัตย์ และในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติย์นั้นมีการกล่าวถึงองค์พระแม่ลักษมี ที่ได้อวตารตนเองให้เป็นมนุษย์นั่นก็คือนางสีดา เพื่อมาอยู่เคียงคู่กับพระนารายณ์ที่เป็นร่างอรตารของพระรามอีกด้วย
ซึ่งวิธีบูชาพระแม่ลักษมีนั้นมีเพียงดอกบัวสีชมพูทั้งหมด 9 ดอก หรือ 1 ดอกก็ได้ และ ธูปหอม 9 ดอก เทียน 1 เล่ม
หากมีการขอพรและพรนั้นสำเร็จผล ควรนำของกราบไหว้อย่างดอกบัวสีชมพู นม น้ำหวาน น้ำมะพร้าว ผลไม้
แต่ไม่ควรถวายอาหารคาวหรืออาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์
สรุปวิธีการไหว้:
– ดอกบัวสีชมพู 9 ดอก
– ธูปหอม 9 ดอก
– เทียนหอม 1 เล่ม
– นม น้ำหวาน ผลไม้
สิ่งที่ต้องห้าม: ของคาว หรือ อาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์
สถานที่ที่ 3: พระแม่อุมาเทวี
ตำแหน่ง: วัดแขก สีลม
วิธีการเดินทาง: BTS สถานทีศาลาแดง หรือ ช่องนนทรี และเดินเท้าประมาณ 10 – 15 นาที
หากสาวๆ เป็นสายมูกันอยู่แล้ว ต้องรู้จักวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องการขอพร หรือ มูต่างๆ อย่างวัดแขกเป็นแน่ และอีกหนึ่งสถานที่ขอพรความรักที่ควรไปไม่แพ้พระตรีมูรตินั่นก็คือพระแม่อุมาเทวี ที่วัดแขกสีลมค่ะ ประวัติความเป็นมาของท่านคือ พระแม่อุมาเทวีเป็นองค์เทพที่มีชื่อเสียงมากในศาสนาฮินดู ตามประวัติแล้วพระองค์ทรงเป็นพระชายาขององค์ศิวะ อีกทั้งพระองค์เป็นผู้ที่มีความรักมั่นคง จริงใจ และ ซื่อสัตย์กับคู่หมั้นคู่หมายของพระองค์เพียงคนเดียวเท่านั้น
วิธีบูชาองค์พระแม่อุมาเทวีนั้น มีดังนี้ ดอกไม้ นม ผมไม้ ขนมอินเดียที่ทำมาจากนมและน้ำตาล
แต่ทั้งนี้สิ่งข้อห้ามคือในวันที่สาวๆ คนไหนเป็นวันนั้นของเดือนไม่ควรเข้ากราบสักการะ ไม่ควรนำของคาวและอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์เข้า
สรุปวิธีการไหว้:
– ดอกไม้หลากหลายสีสัน หรือ พวงมาลัยดอกไม้
– ธูปเทียนหอม
– น้ำหวาน / ผลไม้ / น้ำมะพร้าว /นม และขนมอินเดียที่ทำมาจากนมและน้ำตาล
สิ่งที่ต้องห้าม: ของคาว หรือ อาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ และ สาวคนไหนที่เป็นวันนั้นของเดือนไม่ควรเข้ากราบไหว้ค่ะ
สถานที่ที่ 4: ศาลย่านาค พระโขนง
ตำแหน่ง: วัดมหาบุศย์
วิธีการเดินทาง: BTS สถานีพระโขนง
หากพูดถึงหญิงไทยที่มีรักที่ซื่อสัตย์ จริงใจกับคู่ครองมากที่สุดคนหนึ่ง เราเชื่อว่าหนึ่งในนั้นจะต้องเป็นย่านาค จากตำนานแม่นากพระโขนง อย่างที่เรารู้จักกันดีจากหนังสยองขวัญ และตำนานเรื่องราวความรักของหญิงสาวคนหนึ่งที่รอสามี ซึ่งเป็นทหารกลับบ้านทุกวันนั้น เป็นที่กล่าวขานว่าแม่นาค พระโขนงนั้นเป็นผู้หญิงที่รักคู่ครองจนตัวตาย ดังนั้นศาลย่านาค พระโขนงจึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีหญิงสาวมากมายเข้ามากราบไหว้ขอพรในเรื่องความรักของตน
วิธีกราบไว้บูชาขอพรกับย่านาคนั้นสามารถถวายอาหารคาวหวานได้ตามปกติ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากสาวๆ คนไหนที่พรที่ตนขอประสบผลสำเร็จแล้วนั้นให้นำอาหารคาวหวาน ดอกไม้ ของเล่นเด็ก น้ำอบ หรือ ชุดไทย ผ้าสไบ มาถวาย และที่สำคัญหากสมหวังกับคู่ครองแล้วนั้น จะต้องจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อกันและกัน
สรุปวิธีการไหว้:
– ดอกไม้
– ธูป เทียนหอม
– อาหารคาวหวาน
– น้ำอบ / ของเล่น /ชุดไทย / ผ้าสไบ
สถานที่ที่ 5: พระนอน
ตำแหน่ง: วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
วิธีเดินทาง: BTS สถานีสยาม หรือ สนามกีฬา และเดินทางต่อรถเมล์หรือแท็กซี่เล็กน้อย
สถานที่นี้เป็นสถานที่สุดท้าย โดยเราเผื่อไว้ให้สำหรับสาวๆ ที่อายุขึ้นเลข 3 หรือ ผ่านเรื่องราวอกหักมาหมาดๆ กัน โดยการมาสักการะพระนอน ที่วัดโพธิ์นั้น ซึ่งเป็นที่สถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับการขอพรเรื่องความรักเป็นที่สุด (สำหรับวัดไทย)
วิธีกราบไหว้ทางเราแนะนำให้เดินทางไปไหว้ในวันอังคาร ซึ่งจะต้องเตรียมขนมจีน 3 จับพร้อมน้ำปลา ธูป 8 ดอก เทียน 8 เล่ม ดอกบัว 8 ดอก และ เงิน 8 บาท และเมื่อไหว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้รอจนธูปหมดดอก และลาขนมจีนมาทานจนหมด ด้วยความเชื่อที่ว่าขนมจีนเส้นยาวนั้นจะโยงใยเราไปเจอเนื้อคู่หรือคู่หมายที่หมายปองไว้
สรุปวิธีการไหว้:
– ไหว้ในวันอังคาร
– ขนมจีน 3 จับ พร้อมน้ำปลา
– ธูป 8 ดอก เทียน 8 เล่ม
– ดอกบัว 8 ดอก
– เงิน 8 บาท
เอาละค่า ใกล้จะวาเลนไทน์กันแล้ว ใครอยากสุขสมหวังกับเรื่องความรักดั่งใจ
หาเวลาเตรียมของและเดินทางไปกับ 5 สถานที่ขอพรความรักกันได้เลย
รูปเพิ่มเติม:
– news.mthai.com
– www.thairath.co.th
– www.drivemate.asia
– pantip.com
ข้อมูลเพิ่มเติม:
– travel.mthai.com
– travel.mthai.com
– www.thairath.co.th
– pantip.com
Stay connected