ใครที่ชื่นชอบการวิ่ง ออกกำลังกาย หรือชื่นชอบการใส่ Sneaker เป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าต้องมีรองเท้าคู่ใจกันแน่ ๆ บางคนอาจจะมีมากกว่าหนึ่งคู่ด้วยซ้ำ ปกติทั่วไปแล้วเพื่อน ๆ จะเลือกรองเท้าที่ขนาดเหมาะสม ใส่แล้วเบาสบาย กันกระแทกได้ดี เข้ากับรูปเท้าของแต่ละคน รวมไปถึงสไตล์ของรองเท้าที่สวยเก๋ เท่แบบที่เห็นแล้วรู้สึกต้องยอมควักเงินในกระเป๋าทันที บทความนี้เรามาช่วยเพิ่มสไตล์ และความปลอดภัยของรองเท้าผ้าใบกันด้วย “8 วิธีการผูกเชือกรองเท้า เก็ทลุคเท่ มีสไตล์ ไม่ซ้ำ ซากจำเจ ” ที่นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาเท้าของแต่ละคนด้วยการผูกเชือกให้เหมาะสม ทำให้เวลาเดิน หรือ วิ่งแล้วรู้สึกสบายเท้ามากยิ่งขึ้น และยังเป็นการเซฟเท้าของเราไม่ให้เกิดการบาดเจ็บด้วยล่ะค่ะ มีคลิปสอนวิธีการผูกด้วยนะคะ ดังนั้นเพื่อน ๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะผูกตามไม่ทันกันเลยค่ะ ว่าแล้วอย่ารอช้าเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าจะมีแบบไหน สไตล์ไหนบ้าง เอ้าเริ่ม!!
#1 Wide Forefoot สำหรับคนหน้าเท้ากว้าง
https://i.pinimg.com/originals/7a/3a/ac/7a3aacc54f4f343b8dcf456e8615643f.jpg
สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีหน้าเท้ากว้าง ตอนซื้อรองเท้าคงได้ลองเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกันอยู่แล้ว แต่ถ้าใครไม่ได้ซื้อรองเท้าสำหรับหน้าเท้ากว้างโดยเฉพาะก็สามารถลองปรับการผูกเชือกรองเท้าแบบเดิม ๆ ให้เป็นผูกแบบ Wide Forefoot ซึ่งจะช่วยทำให้ช่วงหน้าเท้าสบายมากขึ้น และเป็นการหลีกเลี่ยงการรัดบริเวณหน้าเท้ามากเกินไป ทำให้หน้าเท้าผ่อนคลาย และสบายมากขึ้นในระหว่างเดิน หรือวิ่งค่ะ วิธีการผูกเชือกสำหรับ Wide Forefoot ลองดูตามคลิปได้เลยค่ะ
#2 Wide Feet In General สำหรับคนเท้ากว้าง หรือเท้าบาน
http://frederic-gingreau.com/uploads/3/4/8/2/34829635/3332321_orig.png
สำหรับเพื่อน ๆ ที่เท้ากว้างที่มักมีปัญหาเวลาหาซื้อรองเท้า เมื่อซื้อมาแล้วหากยังรู้สึกรัดแน่นอยู่ การผูกเชือกไขว้กันแบบ Wide Feet In General ก็สามารถช่วยได้เหมือนกันค่ะ เพียงผูกไขว้กันแค่สามชั้นเท่านั้น ทำให้เท้ารู้สึกสบายมากขึ้น ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป แต่ยังคงรัดกระชับเท้าได้อย่างดี ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องการบาดเจ็บระหว่างการวิ่งค่ะ วิธีการผูกเชือกรองเท้าสำหรับ Wide Feet In General ลองดูตามคลิปได้เลยค่ะ
#3 High Arches สำหรับคนที่มีอุ้งเท้าสูง
เพื่อน ๆ ที่มีเท้าแบบ High Arch หรือ ฝ่าเท้าช่วงกลางเท้าเราลอยสูงจากพื้นมากกว่าปกติ (อุ้งเท้าสูง) จะมี Underpronator (Supinator) การหมุนของเท้าน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เท้าลักษณะแบบนี้จะทำให้กลไกการรับแรงกระแทกในการวิ่งจะน้อยมาก การลงเท้าระหว่างวิ่งจะมีแรงกระแทกเกิดขึ้นมากกว่าปกติค่ะ ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะเลือกรองเท้าวิ่งที่เหมาะสมแล้ว วิธีการผูกเชือกแบบ High Arch ก็จะเป็นการช่วยป้องกันเท้าได้มากกว่าการผูกเชือกรองเท้าปกติค่ะ วิธีการผูกเชือกรองเท้าสำหรับ High Arch ลองดูตามคลิปได้เลยค่ะ
#4 Too Tight On Top การผูกเชือกอีกแบบสำหรับคนมีอุ้งเท้าสูง
http://running.competitor.com/files/2015/05/Lydiard-Lacing.jpg
รองเท้าวิ่งหลายคู่สำหรับคนที่มีเท้าแบบ High Arch หรือ ฝ่าเท้าช่วงกลางเท้าเราลอยสูงจากพื้นมากกว่าปกติ (อุ้งเท้าสูง) มักจะรัดเชือกแน่นบริเวณเท้าส่วนบนเป็นหลัก แต่ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนเบื่อการผูกแบบเดิม ๆ อยากสนุกกับการวิ่งในแบบใหม่ ลองเปลี่ยนวิธีการผูกเชือกเป็นแบบ Too Tight On Top ดูค่ะ เป็นการผูกเชือกแบบแนวเส้นขนาน ซึ่งนักวิ่งหลายคนเลือกที่จะผูกเชือกแบบนี้ เพื่อลดแรงกดที่บริเวณเท้าส่วนด้านบนทำให้วิ่งได้สนุกมากยิ่งขึ้นค่ะ วิธีการผูกเชือกรองเท้าสำหรับ Too Tight On Top ลองดูตามคลิปได้เลยค่ะ
#5 High Midfoot สำหรับคนชอบวิ่งลงฝ่าเท้า
https://www.topoathletic.com/web-assets/images/fit/03-high-mid-foot.jpg
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบวิ่งลงฝ่าเท้ามากกว่าลงส้นเท้า การผูกเชือกแบบ High Midfoot ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยให้ช่วงกลางเท้าของเราอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อที่เวลาวิ่งกระแทกลงตรงส่วนฝ่าเท้าจะช่วยลดแรงกระแทก ทำให้ประสิทธิภาพในการวิ่งดีขึ้น โดยการผูกเชือกแบบนี้จะเว้นบริเวณส่วนกลางให้มีพื้นที่ แต่ยังคงเน้นรัดเชือกแน่นบริเวณส่วนบนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บในขณะวิ่งนั่นเองจ้า และที่สำคัญคือต้องเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับการวิ่งแบบนี้จะยิ่งช่วยเซฟเท้าได้มากยิ่งขึ้นค่ะ วิธีการผูกเชือกรองเท้าสำหรับ High Midfoot ลองดูตามคลิปได้เลยค่ะ
#6 Flat Feet สำหรับคนเท้าแบน
https://cdn.spright.com/media/2015/06/09153559/Screen-Shot-2015-06-09-at-3.35.40-PM.png
สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีส้นเท้าแบนก็มีวิธีการผูกเชือกที่เหมาะสมเหมือนกันนะคะ โดยการผูกเชือกแบบ Flat Feet แบบนี้จะช่วยป้องกันการยืดตัวของกล้ามเนื้อฝ่าเท้า และเส้นเอ็นตรงส่วนกลางมากจนเกินไป วิธีการผูกก็จะเป็นแบบที่เราเห็นทั่วไป เป็นการผูกไขว้กันแบบไม่มีเว้น และรัดให้แน่นเท่านี้ก็พร้อมที่จะวิ่งแล้วค่ะ วิธีการผูกเชือกรองเท้าสำหรับ Flat Feet ลองดูตามคลิปได้เลยค่ะ
#7 Toe Pains สำหรับคนมีปัญหาปวดนิ้วเท้า
https://cdn.spright.com/media/2015/06/09153503/Screen-Shot-2015-06-09-at-3.34.48-PM.png
สำหรับเพื่อน ๆ ที่รู้สึกว่าเวลาวิ่ง หรือหลังวิ่งเจ็บปวดที่นิ้วเท้าอย่ามองข้ามปัญหานี้ไปนะคะ ลองสำรวจดูว่ารองเท้าที่เราใส่คับเกินไปหรือไม่ ไซส์เหมาะสมหรือไม่ เพราะมันส่งผลต่อประสิทธิภาพการวิ่งเหมือนกัน ถ้ารองเท้าเลือกมาดีแล้วแต่ยังมีอาการปวดนิ้วเท้าอยู่ ให้ลองเปลี่ยนการผูกเชือกรองเท้าให้เป็นแบบ Toe Pains เพื่อทำให้มีพื้นที่ในส่วนหน้าของเท้ามากขึ้น ทำให้อาการปวดเท้า รวมถึงอาการชาลดลงได้ค่ะ วิธีการผูกเชือกรองเท้าสำหรับ Toe Pains ลองดูตามคลิปได้เลยค่ะ จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพการวิ่งดีขึ้นค่ะ
#8 Swollen Lacing สำหรับคนเท้าบวมจากโรคเบาหวาน
https://www.topoathletic.com/web-assets/images/fit/07-swollen-feet.jpg
สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีอาการเท้าบวมจากการเป็นโรคเบาหวานก็ไม่ต้องกลัวในเรื่องการผูกเชือกรองเท้าให้แน่นระหว่างการวิ่งนะคะ เนื่องจากหลายคนที่คิดว่าการผูกเชือกแน่นเกินไปจะทำให้เท้าบวมมากกว่าเดิม และทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี แต่อันที่จริงแล้ว เการที่เราผูกเชือกให้แน่น เท้าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และผูกเชือกอย่างถูกต้องตามวิธี Swollen Feet ที่แนะนำจะทำให้การวิ่งปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และทำให้การวิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยค่ะ วิธีการผูกเชือกสำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นโรคเบาหวานแล้วเท้าบวมให้ลองผูกเชือกสำหรับ Swollen Feet ตามคลิปนี้ได้เลยนะคะ
“8 วิธีการผูกเชือกรองเท้า เก็ทลุคเท่ มีสไตล์ ไม่ซ้ำ ซากจำเจ” ใครที่มีปัญหาเท้าแบบไหนลองเปลี่ยนการผูกเชือกรองเท้าตามที่แนะนำดูนะคะนอกจากจะทำให้รูปเท้าเราอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ยังเป็นการช่วยป้องกันเท้าของเราให้โอกาสของการบาดเจ็บระหว่างวิ่งลดน้อยลง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งให้ดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ และที่สำคัญการผูกเชือกรองเท้าแบบใหม่ ทำให้รองเท้าวิ่งของเราดูมีสไตล์ไม่ซ้ำใคร ซึ่งวิธีการผูกเชือกรองเท้านี้ก็สำคัญไม่แพ้กับการเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะสมกับรูปเท้าเช่นกัน ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ คนไหนยังผูกเชือกรองเท้าแบบเดิม ๆ อยู่ลองเปลี่ยนการผูกให้เข้ากับสไตล์เท้า และปัญหาของแต่ละคนกันนะคะ
อ้างอิง https://runrepeat.com/top-10-running-shoe-lacing-techniques
Stay connected