สวัสดีค่ะ นักเรียนสาวๆ ชาว Clubsister ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราขอเปลี่ยนสไตล์จากการพูดถึงรายละเอียดต่างๆ ของหนังหรือซีรีส์ มาเป็นเติมเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยให้กับสาวๆ กัน เราเชื่อว่ามีหลายคนสงสัยกับสิ่งของต่างๆ บนโลก หรือแนวคิดต่างๆ รวมถึงเรื่องราวสำคัญที่เกิดขึ้นบนโลกมาจากใครกันบ้างไหม งั้นวันนี้เราลองมาดูมาเรียนวิชาสังคมและประวัติศาสตร์กันดีกว่ากับ “4 บุคคลสําคัญของโลก ที่น่ายกย่องสุดๆ” มาดูกันว่าใครคิดอะไร หรือใครทำให้เกิดอะไรกันบ้าง
รู้ไว้ดี! ชวนส่องประวัติศาสตร์ของ
4 บุคคลสําคัญของโลก ที่น่ายกย่องสุดๆ
บุคคลสําคัญของโลกคนที่ 1: Alan Turing
ผู้ริเริ่มหรือคิดค้น: ต้นแบบของคอมพิวเตอร์
สาวๆ คนไหนที่เคยดูภาพยนตร์แนว Biography โดยมีนักแสดงมากความสามารถอย่าง Benedict Cumberbatch ร่วมแสดงด้วย อย่างเรื่อง The Imitation Game แล้วละก็ สาวๆ จะต้องรู้จักประวัติและสิ่งประดิษฐ์ที่น่าอัศจรรย์อย่างเครื่อง “Turing Machain” หรือที่มนุษย์ในปัจจุบันเรียกว่า “Computer” อลัน ทัวริ่ง เป็นบุคคลสำคัญของโลก ที่มีชื่อเสียงในด้านนักคณิตศาสตร์ที่เก่งและเป็นสุดยอดฝีมืออันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้
ทัวริ่ง จบการศึกษาจาก King’s College แห่งเคมบริดจ์ ด้านคณิตศาสตร์และได้รับเกียรตินิยมอีกด้วย ในช่วงปี 1938 เขาถูกทางการเชิญชวนเข้าร่วมหน่วยงานพิเศษ GC&CS (Government Communications Headquarters) ซึ่งเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ ที่รวบรวมบุคคากรทางวิชาการและด้านการรบต่างๆ ทั่วยุโรปมารวมตัวกัน เพื่อภารกิจสงครามโลกครั้งที่ก่อนในช่วงเยอรมันกำลังล่าอณานิคม (เยอรมัน – อังกฤษ)
ซึ่งสิ่งที่ทางการชักชวนให้ทัวริ่งร่วมทำงานด้วยนั้น คือการคิดค้นวิธีถอดรหัสเครื่อง อินิกมา (Enigma machine) ซึ่งเป็นเครื่องส่งสัญญาณของพรรคนาซีที่มีรูปแบบซับซ้อน โดยทัวริ่งมีความคิดที่ว่าวิธีการที่เราถอดรหัสอยู่นั้นเสียเวลาและไม่ถูกต้อง เขาจึงเกิดไอเดียในการสร้างเครื่องถอดรหัสอนิกมาขึ้นมา โดยมีเพื่อนร่วมทีมที่ช่วยเขาอีก 5 คน
และด้วยความอัจฉริยะและความอุสาหะของเขา การคิดค้นเครื่อง Truing Machine นี้ทำให้อังกฤษสามารถยกพลขึ้นบกและชนะสงครามกับเยอรมันได้สำเร็จ
แต่ทว่า ทัวรั่วดันเป็นบุคคลสำคัญของโลกที่โชคร้าย เพราะความลับที่เขาเก็บซ่อนไว้เป็นเวลานานที่ว่าเขาเป็น “Homosexual” ที่ชอบเพศเดียว ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ทางการตั้งข้อหากับเขาโดยมีตัวเลือกให้เลือก 2 ทาง โดยทางที่ 1 ยอมรับเรื่อง Homosexual และรับการเข้ารักษาด้วยการฉีดฮอร์โมน กับ 2 ถูกทางการจับตัว
แน่นอนทัวริ่งเลือกทางเลือกแรก ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาจะได้อยู่กับ Turing Machine ของเขา จนสุดท้ายในวันที่ 8 มิถุนายน เมื่อปี 1954 ทางการค้นบ้านของทัวริ่วและพบว่าเขาตายอยู่ในบ้านพักของเขาวัย 41 ปี ด้วยการฆ่าตัวตาย
บุคคลสำคัฐของโลกคนที่ 2: Nelson Mandela
ผู้ริเริ่มหรือคิดค้น: ความเท่าเทียมในเรื่องสีผิว
เราเชื่อว่ามีสาวๆ หลายคนอาจสงสัยว่าใครเป็นคนแรกๆ หรือเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในเรื่องการเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมของสีผิวของชาวยุโรป นี่คนๆ นี้คือ บุคคลสำคัญของโลกที่เป็นผู้ริเริ่มเรียกร้องสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียม อีกทั้งยังเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของแอฟริกา
ซึ่งแต่ก่อนที่เนลสันจะขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีนั้น แอฟริกามีการออกกฏหมายที่จำกัดขอบเขตและริดรอนสิทธิเสรีภาพของคนผิวสีในแอฟริกา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง ที่จะให้สิทธิแค่เฉพาะคนผิวขาวเท่านั้น สิทธิในการเข้าเรียน การใช้สาธารนูปโภคต่างๆ
ซึ่งสิทธิทั้งหมดที่เอื้ออำนวยนั้น จะเอื้อต่อคนผิวขาวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ทำให้ เนลสัน ริเริ่มที่จะเรียกร้องสิทธิโดยการเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียมทางด้านสีผิวในแอฟริกาใต้
หลังจากนั้นได้กลายมาเป็นผู้นำกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของพรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกา ซึ่งทำให้ประธานาธิบดี ณ ปัจจุบันนั้นเห็นการกระทำเหล่านี้เป็นอันตรายต่อประเทศ จึงมีคำสั่งให้จับขังเนลสันให้อยู่ในห้องขังเล็กๆ เป็นเวลา 27 ปี บนเกาะโรบเบิน เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ผู้ที่มีความคิดแบบนี้หรือคิดที่จะริเริ่มการประท้วง
ภายหลังในปี 2533 เขาได้รับการปล่อยตัว เขาได้รับการยกย่องจากการนำนโยบายเรื่องการเท่าเทียมทางด้านสีผิวเข้ารายงานทางการ จนทำให้เขาได้รับตำแหน่งรัฐบุรุษอาวุโส จนถึงได้เป็นประธนาธิบดีผิวสีคนแรกของแอฟริกาเมื่อปี 2537 – 2542
บุคคลสำคัญของโลกคนที่ 3: Anne Frank
ผู้ริเริ่มหรือคิดค้น: เด็กสาวชาวยิววัย 16 กับบันทึกที่ตีแผ่ความโหดเหี้ยมของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว
หากให้ยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญของโลกนี้นอกจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือสงครามครูเสดแล้วละก็ คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ผู้บริสุทธิ์ที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างการ ฆ่าล้างชาวยิวในฝั่งยุโรปของพรรคนาซี
และเมื่อพูดถึงเหตุการณ์นี้จะต้องนึกถึงบุคคลสำคัญของโลกซึ่งเป็นเด็กสาวเพียงอายุ 16 ปี ที่สร้างประวัติศาสตร์จากบันทึกเล่มเล็กๆ “แอนน์ แฟรงก์” เด็กสาววัย 16 ปี ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักเขียน แต่ทว่าความฝันทั้งหมดเกิดขึ้นได้เมื่อการเสียชีวิตของเธอเป็นอุทาหรณ์และหลักฐานของความโหดเหี้ยมจากสงครามนี้
แอน แฟรงก์ เด็กสาวชาวเยอรมัน เชื้อสายยิวแต่กำเนิด เธอกำเนิดและเติบโตในประเทศเยอรมันกับคุณแม่, คุณพ่อ และพี่สาวที่น่ารักของเธอ แต่ทว่าในช่วงปี 1933 เมื่อพรรคนาซีเริ่มขึ้นยึดอำนาจและเริ่มกดขี่ชาวยิว ครอบครัวของเธอจึงตัดสินใจย้ายที่อยู่ เพื่อหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข ณ ประเทศเนเธอแลนด์ ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม ใ
นวันเกิดครบรอบ 13 ปี เธอได้รับไดอารี่สีแดงลายสก็อตเล่มเล็ก เล่มหนึ่งเป็นของขวัญวันเกิด เธอจึงตั้งชื่อให้มันว่า Kitty เพื่อเธอจะได้ใช้มันในการเล่าเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตเธอ ไม่ว่าจะเป็นความลับ ความรู้สึก หรือสิ่งใดๆ ก็ตามลงไปในหนังสือ อีกทั้งแอนน์ ยังคิดเสมอว่า Kitty ไดอารี่เล่มน้อยๆ ของเธอนี่แหละ จะเป็นเพื่อนสนิทของเธอที่สุด ที่ให้เธอได้เล่าเรื่องที่เธอไม่สามารถบอกใครได้ลงไป
แต่ทว่าในปี 1943 – 1944 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมันเริ่มก่อสงครามกับประเทศโดยรวมไม่ว่าจะเป็โปแลนด์, อิตาลี และในที่สุดเรื่องที่ครอบครัวแฟรงก์ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็เกิด เยอรมันรุกรานเนเธอแลนด์และกดขี่ชาวยิวมากขึ้น รวมถึงเริ่มเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อีกด้วย ทำให้ครอบครัวแฟรงก์ต้องหาที่ซ่อนตัวจากการการเข้าจับกุมและคุมตัวชาวยิวจากนาซี
โดยครอบครัวแฟรงก์ได้ใช้บริษัทของนายออตโต้ แฟรงก์ ซึ่งเป็นบริษัทที่คุณพ่อทำงานอยู่นั่นเอง ซึ่งมีผู้มีพระคุณซึ่งเป็นเพื่อนที่ร่วมงานกับคุณพ่อช่วยดัดแปลงห้องหับบางส่วนที่ใช้ในการหลบซ่อนไว้ แต่แล้วเวลาผ่านไป 1 ปี ในช่วง 1944 – 1945 ครอบครัวแฟรงก์และผู้หลบซ่อนร่วมกันทั้งหมดถูกจับกุมตัว จากการรื้อค้นบริษัทจากพวกนาซี ทำให้แอนน์ คุณแม่ และพี่สาวต้องไปอยู่ที่ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ ที่โปแลนด์ แอนน์ คุณแม่ และพี่สาวถูกใช้งานอย่างสาหัส จนในที่สุดทำให้คุณแม่ตาย และในที่สุดแอนน์และพี่สาวก็ป่วยตายด้วยโรคระบาดในช่วงนั้น
บุคคลสำคัญของโลกคนที่ 4: Martin Cooper
ผู้ริเริ่มหรือคิดค้น: ต้นแบบโทรศัพท์มือถือ
และแล้วเราก็มาถึงประวัติบุคคลสำคัญของโลกและเป็นผู้คิดค้นอุปกรณ์ที่ตอนนี้ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องมีอย่างโทรศัพท์มือถือกันกับ “มาร์ติน คูปเปอร์” บิดาแห่งโทรศัพท์มือถือ หรือผู้ที่คิดค้นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลก
โดยมาร์ตินจบการศึกษาที่ IIlinois Institute of technology เมื่อปี 1950 เมื่อจบการศึกษาเขาได้รับราชการทหาร โดยประจำหน้าที่เป็นเรือดำน้ำให้กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาในสงครามเกาหลี ต่อมาหลังจากปลดประจำการเขาได้เข้าศึกษาต่อที่ต่อทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ และได้เข้าทำงานที่ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Motorola โดยหน้าที่ของเขาคือการเป็นเจ้าหน้าที่อวุโสเพื่อศึกษา, วิจัย และค้นคว้าระบบสื่อสารอย่างละเอียด
และในที่สุด มาร์ติน ก็คิดค้นเครื่องมือสื่อสารแบบไร้สายเครื่องแรกของโลกได้สำเร็จ ซึ่งในช่วงแรกเครื่องมือสื่อสารนี้ใช้ชื่อว่า “Car Phone” ซึ่งถูกข้อจำกัดในการใช้จากทางรัฐบาล แต่ทว่ามาร์ตินมีความคิดที่ว่าเครื่องมือสื่อสารชนิดนี้ เป็นสิทธิของประชาชนที่จะใช้ในการสื่อสาร ในเวลาไหนก็ได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้บริษัท Motorola ได้เร่งผลิตโทรศัพท์ไร้สายนี้เพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนโดยมีทุนในการผลิตอยู่ที่ 3,3000 ล้านบาทในช่วงแรก และด้วยเหตุนี้ทำให้มาร์ติน คูปเปอร์เป็นผู้คิดค้นและร่วมผลิตโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกขึ้น
และแล้วก็จบกันไปกับประวัติของบุคคลสำคัญของโลกทั้ง 4 คน เรียกได้ว่าแต่ละคนต้องผ่านช่วงเวลาที่เหนื่อยยากกันมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงสงคราม ช่วงการถูกริดรอนสิทธิและเสรีภาพ ต้องอดทนกับความพยายามต่างๆ มากมายกว่าจะมีอุปกรณ์, เครื่องมือ หรือเรื่องเล่าประวัติเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลังได้รับรู้กัน
ทั้งนี้เราก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับสาวๆ ชาว Clubsister ที่น่ารักทุกคน แต่ทว่าน้องๆ คนไหนที่นำข้อมูลไปใช้ทำรายงานหรือใช้สอบ อาจจะต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความละเอียดอีกครั้งนะคะ และเจอกันใหม่ที่ยทความหน้า ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะคะ บ๊ายบาย
Photo Credit:
Stay connected