ฮัลโหลสาวๆ ใครที่มีปัญหาผิวให้กวนใจต้องไม่พลาดกับเรื่องในวันนี้เลยนะคะ เพราะว่าเรามาบอกความลับเกี่ยวกับสกินแคร์ที่จะช่วยทำให้ผิวหน้าของสาวๆห่างไกลจากปัญหาผิวต่างๆ  โดยความลับนี้ก็ไม่ได้แต่งขึ้นมาเองแต่อย่างใด แต่ล้วนมาจากประสบการณ์ของกูรูชื่อดังฝั่งฮอลลีวู้ด เธอชื่อ Kate Somerville” ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้อย่างมากในเรื่องการดูแลผิวให้ผิวดูมีสุขภาพดี ดูเด็กอ่อนกว่าวัย และนอกจากนี้เธอยังเป็นเจ้าของแบรนด์สกินแคร์ที่ชื่อว่า Kate Somerville ตามชื่อของเธออีกด้วย เรียกได้ว่าทั้งสวย เก่ง และมีความสามารถมากๆ

บทความนี้เราจึงไม่พลาดที่จะนำ 15 ความลับเกี่ยวกับสกินแคร์ ของกูรูด้านสกินแคร์จากฮอลลีวู้ด มาฝากสาวๆ กันทั้งในเรื่องสิวจากฮอร์โมน ความหน้ามัน ความขอบตาดำคล้ำ รวมไปถึงความรอยสิว  และวิธีการดูแลผิวให้เต่งตึง เรียกได้ว่าถ้าทำตามที่นางบอกรับรองว่าผิวสวยๆจะกลับมาให้เชยชมอีกครั้ง แม้แต่ Celeb คนดังก็ยังทำตามเธอ เพราะฉะนั้นสาวๆอย่างเราจะรออะไรล่ะคะ ไปค้นหาความลับของผิวสวยกันดีกว่า

1.ปัญหาผิวมันจะหมดไปเพียงแค่ทำ Exfoliation และ Hydration

http://womenshopping.net/wp-content/uploads/2017/03/988136f02.jpg

สาวๆที่มีผิวมัน เวลาล้างหน้าแล้วไม่นานน้ำมันก็ออกมาเต็มหน้า เรียกได้ว่ากระดาษซับมันก็เอาไม่ยู่ ชีเคทบอกว่าความลับของเรื่องนี้มีอยู่เพียงสองอย่างเท่านั้น นั่นก็คือ Exfoliation (การผลัดเซลล์ผิว)และ Hydration (บำรุงและปรับสภาพผิว) นั่นเองให้ผิวมีความชุ่มชื้น เพราะการที่มีผิวมันเกิดจากผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวต้องผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อทำให้ผิวของเราเกิดความชุ่มชื้นนั่นเอง ดังนั้นสาวๆควรที่จะหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ใบหน้าของเรา แต่ที่สำคัญคือต้องมี Hyaluronic acid เป็นส่วนผสม และใช้คู่กับ Oil free moisturizer เพื่อเช็ดล้างทำความสะอาดใบหน้า และอย่าลืมที่จะผลัดเซลล์ผิว (Exfoliation) เพื่อทำให้ใบหน้าสะอาด ปราศจากความมันนั่นเองจ้า กุญแจสำคัญของสาวหน้ามันก็มีเพียงฉะนี้แล

 

สิวฮอร์โมน ทำอย่างไรถึงจะหนีสิวเหล่านี้ได้?

  1. ยาคุมกำเนิด

http://cdn.mamaexpert.com/files/uploads/00023/90c2c/conversions/big.jpg

ยาคุมนอกจากจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้ว ยาคุมยังช่วยเรื่องการปรับฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) หรือฮอร์โมนเพศชายในร่างกายให้น้อยลง เมื่อฮอร์โมนเพศชายลดลง อาการหน้ามัน ผมร่วง เป็นสิวก็จะน้อยลงตามไปด้วย สาวๆที่มีปัญหาสิวฮอร์โมน ลองปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์จ่ายยาคุมให้รับประทานนะคะ เพราะการทานยาคุมอาจทำให้มีผลข้างเคียงตามมา แต่แน่นอนว่าจะช่วยให้สิวฮอร์โมนลดน้อยลง พร้อมกับผิวพรรณที่เต่งตึง สวย สดใส ด้วยค่ะ

 

  1. คุมอาหาร

https://www.rd.com/wp-content/uploads/2017/07/01-Heres-Why-Your-Next-Crash-Diet-Is-Doomed-to-Fail-According-to-Science-shutterstock_544589101-1024×683.jpg

สาวๆที่คุมอาหารให้แนะนำให้ทานผักผลไม้ที่ปลอดสาร รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ที่ไร้สารเร่งฮอร์โมนด้วย เพราะสมัยนี้สารเคมีต่างๆเยอะมาก โดยเฉพาะในเนื้อสัตว์ที่มักมีการฉีดฮอร์โมนเข้าไปเพื่อเร่งการเจริญเติบโต หากสาวๆกินอาหารจำพวกนี่เข้าไปเยอะๆ แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อสิวฮอร์โมนด้วยเช่นกัน ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกนี้ หากเป็นไปได้ ลองทำอาหารเองก็จะดี เพราะเวลาทำอาหารเอง เราจะมีความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบมากขึ้น และแน่นอนว่าต้องสะอาด ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพมากกว่าทานอาหารตามร้านอาหารข้างนอกแน่นอนค่ะ

 

  1. ผสมคลอโรฟิลล์ลงในน้ำที่เราดื่ม

http://www.cocokind.com/wp-content/uploads/2016/09/IMG_3820.jpg

ชีเคทบอกว่าความลับนี้เธอได้มาจาก Reese Witherspoon ซึ่งนางได้บอกว่าเวลาที่นางสิวบุกบนใบหน้า นางก็จะเอาคลอโรฟิลด์มาผสมลงในน้ำแล้วดื่มเข้าไป หน้านางก็จะใสขึ้นภายใน 3 วัน เพราะคลอโรฟิลด์สามารถควบคุมฮอร์โมน รวมไปถึงลดการอักเสบได้ดีอีกด้วย และยังมีคุณประโยชน์อีกมากมาย สาวๆสามารถลองไปหาซื้อคลอโรฟิลด์มาชงกับน้ำดื่มได้นะคะ อร่อยหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าประโยชน์เพียบ!

 

  1. ใช้ Probiotic เข้าสู้

https://www.chaladsue.com/images/src/59aa993adcb49_attachment.png

ตัวเลือกอีกทางที่ทำให้สาวๆหลีกเลี่ยงการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ เป็นการรักษาแบบธรรมชาติโดย Probiotic จะเป็นกลุ่มของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อรับประทานเข้าไปจะเป็นเหมือนการ Detox ปรับสมดุลของลำไส้ รวมถึงการขจัดของเสียจากลำไส้ ทำให้สารพิษน้อยลง ส่งผลทำให้การอับเสบน้อยลง และระบบผิวหนังจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ สาวสิวฮอร์โมนไม่ควรพลาดนะคะ สามารถหาซื้อทานได้เดี๋ยวนี้มีหลายแบรนด์ขายเต็มเลย แต่ถ้าไม่ชอบทานอะไรพวกนี้แนะนำว่าให้ทานอาหารที่มี Probiotics เยอะๆ ได้แก่ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว และชีส เป็นต้นค่ะ

 

  1. การรักษาด้วยแสง LED Light

https://www.lighttherapydevice.com/wp-content/uploads/2016/03/Blue-light-acne.png

เป็นการรักษาสาวๆที่มีปัญหาสิวด้วยการฉายแสง ซึ่งจะช่วยได้ดีในเรื่องลดการอักเสบ ลดรอยแดง รอยดำจากสิว รวมไปถึงการฆ่าแบคทีเรียบนใบหน้าอันเป็นสาเหตุของสิวนั่นเอง ใครที่เป็นสิวอักเสบเยอะๆ ทายา หรือกินยาเท่าไหร่ก็ไม่หาย แนะนำว่าให้ลองรักษาด้วยวิธีนี้ค่ะ รับรองว่าจะเห็นผลอย่างแน่นอน แต่อาจต้องใช้เวลาซักหน่อย ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคน

 

วิธีป้องกันรอยสิวจากการกดสิว

  1. บีบสิวอย่างถูกวิธี

https://i.pinimg.com/564x/8f/2b/ec/8f2bec5f205b2c3a01fe4af69f716a32.jpg

ชีเคทบอกว่าสาวๆ อย่างเราใครจะมาทนเห็นหัวสิวเต่งๆ บนใบหน้าได้ตลอดวัน เห็นแล้วมันก็จะคันไม้คันมืออยากจะบีบซะเหลือเกิน แต่ถ้าบีบผิดวิธีแน่นอนว่ารอยแดงจากการกดต้องอยู่เป็นตราบาปบนใบหน้าแน่ๆ ชีเคทจึงบอกว่าหากสิวสุกจนหัวโผล่แล้ว ให้นำกระดาษทิชชู่มาพันบริเวณส่วนเล็บไว้ แล้วจึงค่อยๆกด เพื่อป้องกันไม่ให้เล็บไปจิกบริเวณผิวและทำให้เกิดรอยแดง ส่วนสิวที่ยังไม่สุกหรือสิวไม่มีหิว อย่าพยายามบีบเองนะคะ ให้ใช้เครื่องกดสิวช่วยเอา จะทำให้สิวหลุด และผิวบริเวณรอบนอกไม่อักเสบด้วยแหละ

 

  1. ทายาหลังกดสิว

 

 

http://www.thaiacnecare.com/wp-content/uploads/2015/03/dry-skin-remedies-762-Custom.jpg

หลังกดสิวเสร็จแล้วให้หายาที่มีส่วนผสมของ Hydrocortisone และ Neosporin มาทา โดยสาร Hydrocortisone จะมีคุณสมบัติในการช่วยลดรอยแดงจากการกดสิว ส่วน Neosporin จะช่วยฟื้นฟูผิวจากการกดให้กลับมาเรียบเนียนดังเดิม

 

  1. แผลเก่าก็ต้องรักษา

 

https://cache.katesomerville.com/media/catalog/product/cache/1/image/1800x/040ec09b1e35df139433887a97daa66f/1/0/10161_d-scar_pack_1.jpg

สมัยนี้มียาที่ช่วยลดรอยสิวออกมาเต็มไปหมดเลยค่ะ แต่ชีเคทก็ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ของนางนั่นก็คือ D-Scar นั่นเอง ซึ่งจะช่วยลดเลือนรอยดำ รอยแดงจากสิวให้จางลงและหายไปนั่นเอง สาวๆสามารถลองหาแบรนด์อื่นๆ ดูได้นะคะว่าครีมตัว อันไหนที่เค้าว่าดี อันไหนที่เค้าว่าเด็ด ลองจัดมาทาเป็นประจำกันดีกว่าค่ะเพื่อให้ใบหน้าของเรากลับมาเรียบเนียนดังเดิม ตามร้านขายยามีมากมายหลายแบรนด์ให้เลือกเลยค่ะ

 

เคล็ดลับบอกลาตาหมีแพนด้า

ปัญหาใต้ตามีอยู่สองอย่างหลักๆค่ะ คือ ปัญหารอยดำคล้ำใต้ตา อันเกิดจากความเหนื่อยล้าสะสม และปัญหาถุงใต้ตาที่ทำให้ดูแก่ เราก็มีทางออกให้กัยสาวๆที่เจอปัญหาเหล่านี้ค่ะ

  1. ปัญหารอยคล้ำจนใครๆ ก็เรียกว่าหมีแพนด้า

http://blog.doctoroz.com/wp-content/uploads/2013/01/4_085_7YearsYoungerPlan_ORIGINAL.jpg

 อันนี้ทางแก้ไม่ยากค่ะ เพียงพักผ่อนให้เพียงพอ และหา Eye Cream ดีๆที่มีส่วนผสมของ Retinol มาบำรุงรอบดวงตา โบกมันเข้าไปค่ะ รอยคล้ำ รวมถึงริ้วรอยจะดูจางลงค่ะ เพราะริ้งรอยรอบดวงตานี่บ่งบอกอายุได้เลยนะ

 

  1. ถุงใต้ตาใหญ่มากต้องกำจัดด้วย…

https://img.thrfun.com/img/143/307/tea_bags_l2.jpg

ถุงชา และช้อน ใช่แล้วค่ะ เพียงมีสองอย่างนี้ปัญหาถุงใต้ตา และรอยดำคล้ำจะลดน้อยลง โดยเริ่มจากแช่ถุงชาในน้ำอุ่นแล้วเอามาวางบริเวณใต้ตา ทิ้งไว้ 5 นาที สารคาเฟอีนจากในชาจะช่วยกระชับและลดรอยบวมใต้ตาได้ และในขณะที่เอาชามาโปะที่ตา สาว ก็อย่าลืมเอาช้อน 2 คัน ไปแช่ในตู้เย็นให้เย็น และเมื่อครบ 5 นาทีแล้วให้นำถุงชาออก แล้วทา Eye Cream ให้เรียบร้อย เมื่อทาเสร็จให้นำช้อนที่แช่เย็นมาประคบบริเวณที่บวม จะช่วยทำให้ถุงใต้ตาลดลงได้ค่ะ ง่ายๆ แต่คือดีมาก

  1. สาวๆ ที่มีตุ่มเล็กๆ บนใบหน้าต้องทำอย่างไร

https://www.skincarebyalana.com/blog/wp-content/uploads/790x396xmilia.jpg.pagespeed.ic.OXcDnxvb1j.jpg

ตุ่มเล็กๆ ที่เกิดขึ้นมาบนใบหน้าทำให้หน้าของสาวๆ ไม่เรียบเนียน ดังนั้นสิ่งที่ช่วยได้คือการทำความสะอาดผิวที่ดีแนะนำเป็นครีมที่มีเนื้อสครับไว้ขจัดเซลล์ แต่ควรแน่ใจว่าเม็ดสครับจะต้องอ่อนโยนและไม่บาดผิว และควรมีสาร AHA และ กรด Lactic เป็นส่วนประกอบด้วย จะทำให้ตุ่มเล็กๆ บนใบหน้าค่อยๆ จางลงและหายไปค่ะ

 

  1. โกนขนที่หน้าบ้าง

https://cbswycd2.files.wordpress.com/2015/02/lady-shaving-face-2.jpg?w=640&h=360&crop=1

ฟังไม่ผิดค่ะ! นี่เป็นความลับหนึ่งที่ชีเคทบอกว่าจะช่วยทำให้คุณสาวๆ หน้าเด็กลง ลองสังเกตุดูสิคะว่าทำไมหน้าของผู้ชายถึงดูเด็กและอ่อนเยาว์กว่าผู้หญิง นั่นก็เพราะว่าผู้ชายมีการโกนหนวดบ่อย ซึ่งเป็นการขจัดขน และขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วทำให้ผิวแลดูกระจ่างใสและอ่อนเยาว์นั่นเอง

มีดโกนประเภทไหนที่ควรใช้? 

มีดโกนที่ควรใช้ ไม่ใช้เป็นพวกใบมีดที่ใช้กันคิ้วอะไรแบบนี้นะคะ แต่ควรเป็นมีดโกนคุณภาพดีเหมือนอย่างที่พวกผู้ชายเค้าใช้กันเลย เช่น Gillette อะไรแบบนี้เป็นต้น

ทิปเล็กๆ สำหรับการโกน? 

ควรเปลี่ยนใบมีดบ่อยๆ เพื่อให้มีความคม และให้สะอาดอยู่เสมอ

ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนโกน? 

ให้สาวๆทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดอย่างอ่อนโยน และทาโฟมสำหรับโกนหนวดให้เรียบร้อยก่อนทำการโกนค่ะ

ขนที่ขึ้นใหม่จะหนาและแข็งหรือไม่? 

คำตอบคือไม่ค่ะ อันนั้นเป็นความเชื่อที่โบราณมากๆ 

 

  1. วิธีดูแลผิวของสาววัย 20 Ups

https://i.pinimg.com/564x/8f/b4/2d/8fb42d6511d2ad0afe8e297323f0953c.jpg

เคล็ดลับมีเพียง 4 ขั้นตอนเท่านั้น นั่นก็คือ Exfoliate (การผลัดเซลล์ผิว), Hydrate (บำรุงและปรับสภาพผิว), Moisturize (การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว), และใช้สกินแคร์ที่มี Retinol (ช่วยลดเลือนริ้วรอย)

ควรที่จะ Exfoliate (การผลัดเซลล์ผิว) บ่อยแค่ไหน?

ตามกฎของชีเคท คือถ้าสาวๆอายุอยู่ในช่วงหลัก 20-29 ให้ทำ Exfoliate 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าอายุ 30-39 ให้ทำ Exfoliate 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อยู่ในช่วงวัยไหนให้ทำตามจำนวนของเลขหลักแรกของอายุเราได้เลยค่ะ

Moisturizer ที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร?

นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีแล้ว Moisturizer ที่ดีควรมีส่วนประกอบของ SPF ด้วย เพื่อป้องกันผิวเสียจากแสงแดดค่ะ ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนประกอบของวิตามิน A, C และ E ด้วยจะดีมากๆ เพราะวิตามินเหล่านี้จะช่วยเข้าไปฟื้นฟู บำรุงผิว ให้ดูกระจ่างใส และมีสุขภาพดีค่ะ

 

  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร Retinol สู้กับริ้วรอยแห่งวัย

https://a.lnwpic.com/f03gsf.jpg

Retinol มักเป็นส่วนประกอบของสกินแคร์ต่างๆ ซึ่งจะช่วยต่อต้านริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังช่วยในเรื่องของปัญหาสิวด้วย ไปเดินช้อปปิ้งสกินแคร์คราวนี้อย่าลืมมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Retinol กันนะคะ ชีเคทได้กล่าวไว้ ^^

สาวๆนี่ถึงบางอ้อเลยใช่มั๊ยคะกับ 15 ความลับเกี่ยวกับสกินแคร์ ของกูรูด้านสกินแคร์จากฮอลลีวู้ด เชื่อว่าสาวๆ หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเคล็ดลับดีๆที่ทำตามได้ง่ายมากๆ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชีเคทแนะนำไป ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ใดๆก็ตามแต่ ก็ขอให้สาวๆเลือกซื้อเลือกใช้กันอย่างมีสติตามกำลังกระเป๋าของสาวๆกันนะคะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวต้องมากินแกลบจะหาว่าไม่เตือนน้า 55+ วันนี้ขอตัวไปบำรุงผิวให้สวยเด้งก่อนนะคะ บ๊ายบายย

อ้างอิง: http://shetriedwhat.com/skin-secrets-kate-somerville/

Comments

comments